กรณีนางชิตากาญจน์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านค้าส่งตั้งอยู่หมู่ 5 ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ริมถนนสายแคนดง-สตึกร้องสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวน สภ.แคนดง อ.แคนดง หลังนำเอาคลิปวงจรปิดภายในร้านไปแจ้งความตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ว่ามีหญิงสาวเข้าไปขโมยเงินในลิ้นชักถึง 9 ครั้ง เป็นเงินประมาณ 72,000 บาทโดยภาพในวงจรปิดเห็นชัดเจนว่าเป็นใคร แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า จนถึงปัจจุบันผ่านไปกว่า 8 เดือน

ล่าสุดวันนี้ (25 เม.ย.67) พ.ต.ท.สมบัติ ศรีสังวรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัวนางชิตากาญจน์ มาสอบถามรายละเอียด โดย รอง ผกก.สอบสวนแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดและเต็มที่ขโมย 9 ครั้งก็จะแจ้งเป็น 9 กรรมตามกระบวนการของกฎหมายและจะให้ชุดสืบสวนตามไปจับกุมที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

นางชิตากาญจน์ กล่าวยอมรับว่า พอมาคุยกับรอง ผกก.แล้วสบายใจเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยพบท่านรอง ผกก.มาก่อน เจอแต่พนักงานสอบสวนที่พูดแต่ละคำ มีแต่บั่นทอนสุขภาพจิต พอมาเจอท่านรอง ผกก.บอกว่าจะทำคดีนี้ให้เต็มที่และจะเร่งคดีให้เร็วที่สุด 

นางชิตากาญจน์ กล่าวด้วยว่า ตนยังตั้งความหวังเหมือนเดิมคือต้องการให้ผู้กระทำสำนึกในสิ่งที่กระทำลงไปไม่ต้องไปทำกับคนอื่นอีกเพราะผู้ถูกกระทำเป็นฝ่ายเจ็บช้ำ เพราะสังคมทำแต่สิ่งดีๆ ให้กัน

"ยอมรับว่าเห็นใจและสงสาร เขาพยายามมาขอโทษหลังก่อเหตุ ฉันก็ยกโทษให้ไม่จองเวรจองกรรมกัน แต่ทางกฎหมายต้องดำเนินไปให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยเครียดแค้น ตรงกันข้ามกลับสงสารสามีและลูก 2 คนที่สามีเป็นฝ่ายเลี้ยงคนเดียว ส่วนภรรยาหนีคดีที่นี่ไปอยู่บ้านที่ จ.สกลนคร แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย" - 003