วิกฤติหนัก! สำหรับเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งที่ขณะนี้กำลังต่อสู้กับราคากุ้งที่ดิ่งลงอย่างน่าใจหาย ทำให้เกษตรกรหลายคนถึงกับต้องถอนใจเลิกทำอาชีพเลี้ยงกุ้ง แต่บางคนสู้เพื่อให้ตัวเองยังอยู่รอด แต่เสียงโอดโอยของเกษตรกรจะมีใครได้ยินบ้าง คงต้องรอทางฝั่งรัฐบาลว่าจะมีเสียงสะท้อนกลับมาบ้างหรือไม่
"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ได้ติดต่อสัมภาษณ์นางเสาวนิตย์ ปั้งพาณิชย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "เจ้แง้ว" เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่จังหวัดปัตตานี ถึงวิกฤติกุ้งในช่วงนี้ โดยนางเสาวนิตย์ เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์วิกฤติราคากุ้งตกต่ำของประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ใช้มีแค่เฉพาะแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้นที่วิกฤติ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อกุ้งมีจำนวนน้อย เราก็แก้ปัญหาด้วยการผลิตใกุ้งห้มากขึ้น แต่พอกุ้งมีจำนวนมากขึ้นราคากลับดิ่งลงอย่างน่ากลัว เพราะกระทบต้นทุนการผลิต จากกุ้งขนาด 70 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ขายได้ในราคา 180 บาท แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ที่ 120 บาท ซึ่งไม่พอกับต้นทุนการผลิต เช่น ไฟฟ้า แรงงาน อาหาร และค่าอื่นๆ
นางเสาวนิตย์ ปั้งพาณิชย์ เล่าให้ฟังอีกว่า เมื่อเราหันมาแก้ปัญหาด้วยการนำกุ้งไปแปรรูป แต่ก็ทำให้ไม่รู้ว่าเมื่อมีการแปรรูปกุ้งแล้วเราจะไปรอดหรือไม่ เพราะการแปรรูปกุ้งมันไม่ใช่งานที่เราถนัด เพราะเราเป็นเกษตรกรที่ทำงานกลางแดด แต่อยู่ๆ จะให้เข้ามาทำในรูปแบบโรงงานเพื่อนำกุ้งมาแปรรูปมันก็คงทำกันได้ยาก แต่ถ้าหากมันเกิดวิกฤติจริงๆ ที่เราไม่สามารถที่จะทำต่อไปได้แล้ว เราก็ต้องจำใจทำแม้จะไม่มีความถนัดก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราต้องยอมขายกุ้งในราคาที่ต่ำกว่าที่เรียกว่า "ยอมเฉือนเนื้อตัวเอง"
ส่วนเรื่องที่เคยไปเรียกร้องรัฐบาลครั้งก่อนนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่ารัฐบาลจะประกันราคากุ้งอย่างไร แม้แต่ทางห้องเย็นในตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรกับกุ้งที่เหลือ เราหันไปทางไหนก็ไม่มีทางออก ส่วนทางภาครัฐก็บอกได้อย่างเดียวว่าให้เรารออีก 10 วัน แต่เกษตรกรอย่างเรารอไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องเดินไปเรื่อยๆ มีอย่างเดียวที่จะแก้สถานการณ์ได้ คือ การทำรอบให้เร็วขึ้น ขายกุ้งขนาดที่ตัวเองพอใจ
"วอนให้รัฐบาลคิดไว้ว่าเกษตรกรเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ และอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลเราให้มากกว่านี้ ตอนที่พวกเราไปประท้วงก็มีคำตอบขยับมาให้นิดหน่อย แต่พอตกผลึกแทบใช้ไม่ได้เลย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ชวนกินกุ้ง แต่กุ้งที่รับมายังไม่เพียงพอกับราคาที่ผลิตเลย ไม่รู้ว่าจุดวิกฤติมันคืออะไร ทำไมราคาถึงได้ดิ่งลงขนาดนี้ เหมือนตอนนี้เราเพิ่งจะได้หายใจ เราทำอาชีพนี้อาชีพเดียว และทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ" นางเสาวนิตย์ กล่าว
นางเสาวนิตย์ ปั้งพาณิชย์ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับต้นฟาร์มเลี้ยงกุ้ง เราจะเลี้ยงกุ้งที่คัดมาแล้วภายใน 3 เดือนก็สามารถขายได้ ส่วนงบประมาณ 4 ไร่ต่อ 1 บ่อ ลงกุ้งประมาณ 500,000 ตัว ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 450,000 บาท หากอยู่ในช่วงที่ราคากุ้งยังไม่ตกจะได้กำไรบ่อละ 300,000 บาท ถ้าเราได้พันธุ์กุ้งที่ดี อัตราการรอดสูง แต่ตอนนี้สถานการณ์ในขณะนี้ขาดทุนบ่อละ 100,000 บาทเท่านั้น
"ถ้าเราหยุดทำอาชีพเลี้ยงกุ้ง แรงงานที่เราจ้างเขาจะอยู่อย่างไร บ่อเลี้ยงของเราก็ร้าง แล้วยิ่งอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยเข้าทางเขาเลย เพราะจะได้ยึดแล้วเอาอย่างอื่นมาลงแทน แล้วเราจะทำอย่างไรต่อ สู้ก็แล้ว กลัวก็กลัว เราขอแค่ราคาขยับตัวขึ้นแล้วเราสามารถอยู่ได้ อย่าให้ต้องขาดทุนทุกรอบที่ลงกุ้งเลย" เจ้แง้ว กล่าว
พร้อมกับกล่าวต่อว่า ถ้าให้เราลดการผลิตกุ้งให้น้อยลง อย่าทำเลยดีกว่า เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตเลย ไม่รู้ว่าภาครัฐคิดอะไรอยู่ ประเทศเรามีต้นทุนการเกษตรมากกว่าหลายประเทศ แต่เรากลับปล่อยให้ประเทศอื่นมากำหนดราคาเป็นเพราะอะไร
ด้านนายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงปัญหาวิกฤติราคากุ้งตกต่ำในงานเทศกาลกิน กุ้ง กัน 2018 ที่จัดขึ้่นระหว่าง 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่เทสโก้ โลตัส พลัสมอลล์ บางใหญ่ โดยมีเกษตรกรเลี้ยงกุ้งจาก 4 จังหวัดภาคใต้ร่วมงานด้วยว่า ขณะนี้ทิศทางราคากุ้งในประเทศน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หรือมากกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับกุ้งขาวขนาดไม่เกิน 100 ตัวต่อกิโลกรัม จากก่อนหน้านี้ราคา 100 -110 บาท หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้ามาตรการผลักดันให้ราคาในประเทศสูงขึ้น ทั้งการขอความร่วมมือผู้ส่งออกรับซื้อกุ้งในราคาที่สูงกว่าต้นทุนหรือไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 115 บาท และการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงพาณิชย์เพื่อผลักดันกุ้งไทยเข้าไปขายในช่องทางอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำระยะยาว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินหน้าหาแนวทางบริหารจัดการฟาร์มกุ้งเพื่อลดต้นทุนการผลิต และให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะช่วยแก้วิกฤติกุ้งราคาตกอย่างจริงจังได้อย่าง? นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า "ผมอยากให้ราคากุ้งดีขึ้นอยู่แล้ว เพราะกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงกุ้งผมเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ โดยเริ่มจากจะทำอย่างไรให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตได้ เช่น ค่าไฟฟ้า อาหาร และลูกกุ้ง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ยั้งยืน โดยสิ่งที่ยั้งยืน คือ หาตลาดเพิ่มขึ้น เราตั้งเป้าหมายไว้ 400,000 ตัน แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ 300,000 ตัน ยังยากเลยถ้าสถานการณ์ตลาดยังเป็นอย่างนี้ เราต้องคิดร่วมกันกับเกษตรกร แต่หากคิดแล้วเขาไม่ร่วมก็ไม่มีประโยชน์อะไร และอีกมุมหนึ่งหากคิดแล้วรัฐบาลไม่ช่วยดำเนินการก็ไม่มีประโยชน์อะไร"
สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่อยู่ในสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งมีทั้งหมด 12 สหกรณ์ มีสมาชิก 2,500 กว่าคน พื้นที่ประมาณ 14,000 ไร่ ผลผลิตอยู่ที่ 130,000 ตันต่อปี ถือว่าเป็นส่วนน้อยมากสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจากทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี