รายงานพิเศษ : 116ปีกรมชลประทาน  ฉลาด ถูกต้อง รวดเร็ว ตรงเป้าหมาย..ก้าวสู่องค์กรอัจฉริยะ

รายงานพิเศษ : 116ปีกรมชลประทาน ฉลาด ถูกต้อง รวดเร็ว ตรงเป้าหมาย..ก้าวสู่องค์กรอัจฉริยะ

วันอังคาร ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสถาปนา กรมคลอง ขึ้นในปี พ.ศ. 2445 เพื่อทำหน้าที่ดูแล น้ำ ของประเทศอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการสมัยใหม่ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมทดน้ำ และกรมชลประทานในปัจจุบัน และเมื่อในวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมามีอายุครบ 116 ปี และก้าวย่างขึ้นสู่ปีที่ 117

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า 116 ปีของกรมชลประทานเป็นปีแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งการนำศาสตร์พระราชา มาสานต่อในการแก้ปัญหาและพัฒนาแหล่งน้ำ พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าหมายที่จะการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริที่ยังไม่ได้ดำเนินการ 157 โครงการให้แล้วเสร็จภายในปี 2562


นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้การดำเนินงานตามภารกิจหลักประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการน้ำในวิกฤตการณ์น้ำท่วมปี 2560 ซึ่งประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหลายสิบลูกทำให้มีฝนตกทั้งประเทศเฉลี่ยสูงถึง 1,829 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับปี 2554 ที่เกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งมีปริมาณเฉลี่ย 1,824 มิลลิเมตร แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปี 2560 กลับน้อยมาก เนื่องจากการวางแผนบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนปฏิทินการปลูกข้าวในพื้นที่ทุ่งบางระกำ และ 12 ทุ่งลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างใหม่ เพื่อใช้เป็นแก้มลิงธรรมชาติในการรับน้ำได้มากกว่า 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) พร้อมทั้งมีการกำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวางทางน้ำ และเตรียมสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่างๆ ในการรับมือไว้ล่วงหน้า ตลอดจนได้วางแผนจัดจราจรทางน้ำ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตการเกษตรแทบไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรชลประทานฝ่ายบำรุงรักษา กล่าวว่า ความสำเร็จในการบริการจัดการน้ำปี 2560 ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานของศูนย์ปฏิบัตการน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Operation Center : SWOC) ซึ่งเป็นศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คลังข้อมูล กรมชลประทาน และเป็นศูนย์กลางติดตามสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์ รวบรวม วิเคราะห์ คาดการณ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการน้ำในสภาวะวิกฤติต่างๆ ทำให้สามารถสั่งการได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ซึ่งกรมชลประทาน มีแผนที่จะขยายผลศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ให้ครอบคลุมครบทั้ง 17 สำนักงานชลประทานในส่วนภูมิภาค รวมทั้งสร้างห้องปฏิบัติการด้านส่งน้ำระดับโครงการชลประทานทุกโครงการ คาดว่าในปีงบประมาณ 2561 จะสามารถดำเนินการได้ 172 โครงการ

รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 2557-2560 กรมชลประทานยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักและพื้นที่ชลประทานได้มากกว่าในอดีตถึง 3 เท่าตัว จากเดิม 30.3 ล้านไร่ เพิ่มอีก 2.4 ล้านไร่ รวมเป็น 32.7 ล้านไร่ และเพิ่มปริมาณการเก็บกับน้ำต้นทุนในระบบชลประทานจาก 79,898 ล้าน ลบ.ม. อีก 1,483 ล้านลบ.ม. เป็น 81,841 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งยังสามารถกจัดรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นการวางผังจัดรูปที่ดินใหม่พร้อมระบบชลประทานและระบบน้ำ ได้ถึง 444,800 ไร่

นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้าง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2560 กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการชลประทานถึง 274 โครงการ เป็นโครงการขนาดเล็ก 173 โครงการ ขนาดกลาง 90 โครงการ และขนาดใหญ่ 11 โครงการ กระจายอยู่ทั่วประเทศ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 437.74 ล้านลบ.ม. และเพ่ิมพื้นที่ชลประทานได้ 434,00 ไร่ นอกจากนี้ยังได้ตั้งเป้่าในปี 2561 จะเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 427,224 ไร่ เพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำให้ ได้ 154.8 ล้านลบ.ม. โดยจะการก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดเล็ก 152 โครงการ ขนาดกลาง 78 โครงการ และขนาดใหญ่ 11 และวางแผนปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมอาคารชลประทานทั่วประเทศอีก 6,960 โครงการ

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า ในปีที่กรมชลประทานครบรอบ 116 ปี จะเป็นปีที่มีการจัดทำฐานข้อมูลใหญ่ (BIG DATA) ทำให้กรมชลประทานสามารถมองภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของทั้งประเทศได้อย่างชัดเจน สามารถวางแผนป้องกันและแก้ปัญหาไปพร้อมกันได้ โดยข้อมูลทั้งหมดจะส่งให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับข้อมูลของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งหมด และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็จะสามารถใช้วิเคราะห์เรื่องน้ำ พืช ราคาสินค้าต่างๆ ได้ ซึ่งจะทำให้การพัฒนาโครงการชลประทานและการบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม นายมนัส กำเนิดมณี รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายบริหารกล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรของกรมชลประทานซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 28,000 คน เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่กรมชลประทานได้ดำเนินการในปีที่มีอายุครบ 116 ปี โดยนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้างความสุขในการทำงาน ทำให้ได้รับโล่เกียรติคุณ “องค์กรแห่งความสุข” รวมทั้งยังได้การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลประมวลผลอัตรากำลัง โดยวิเคราะห์จากกิจกรรม ข้อมูลปริมาณงาน มาตรฐานระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และข้อมูลการเกษียณอายุ ทำให้สามารถวิเคราะห์อัตรากำลังของข้าราชการและพนักงานราชการได้ อย่างชัดเจน สามารถปรับปรุงข้อมูลและวิเคราะห์อัตรากำลังให้ ทันสมัยได้ตลอดเวลา และพิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังและการขอจัดสรรอัตรากำลังพนักงานราชการเพิ่มเติมได้อย่างเหมาะสม

การปฏิบัติงานและความสำเร็จต่างๆ ดังกล่าว เป็นการเดินบนเส้นทางไปสู่การเป็น “องค์กรอัจฉริยะ” ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี ซึ่งจะต้องเริ่มจากการพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดได้ รวมทั้งการศึกษาและนำมาใช้ อย่างเป็นระบบที่ทันสมัยบนฐานดิจิทัล ที่สามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล และองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาระบบการทำงานให้ มีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงรูปแบบได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ ที่สำคัญจะต้องทำงานอย่างฉลาด

“ทำงานอย่างฉลาด ไม่จำเป็นต้องทำมากแต่ได้งานมาก คือ ทำงานได้ ถูกต้อง รวดเร็ว และตรงเป้าหมาย” อธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงสโลแกนในการทำงาน ในยุคที่มีอายุครบ 116 ปี และย่างขึ้นสู่ปีที่ 117 โดยมีจุดหมายปลายทางที่จะเป็นองค์กรอัจฉริยะ ในปี 2579

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top