19 มิ.ย.61 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยถึงปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ ว่า เกิดจากตลาดส่งออกชะลอตัว และผลผลิตกระจุกตัวช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ส่งผลให้ราคาสับปะรดโรงงานเหลือ 3.14 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่แล้ว 6.29 บาท และสับปะรดบริโภค 3.14 บาท ลดลงจาก 12.28 บาท โดยผลผลิตออกสู่ตลาดไปกว่าร้อยละ 60 หลังจากนี้ราคาจะกระเตื้องขึ้น
ทั้งนี้ มีมาตรการช่วยเหลือโดยมติคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ระบายสับปะรดส่วนเกินออกนอกแหล่งผลิต มีผลักดันส่งออกและขยายตลาดต่างประเทศ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทำ(MOU) รูปแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ในรัสเซีย อิหร่าน และเชื่อมโยงการค้า ขยายตลาดใหม่ USA EU และอาเซียน
นอกจากนี้ ได้รณรงค์การบริโภคสับปะรดผลสดเพิ่มขึ้น เช่น อ.ต.ก. จัดงานส่งเสริมการบริโภคสับปะรด จำหน่ายได้ 9.6 ตัน และเครือข่ายสหกรณ์ กระจายผลผลิตเกือบ 300 ตัน โดยแต่ละจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานส่งเสริมการบริโภคสับปะรดผลสดในจังหวัด รณรงค์การบริโภคสับปะรด เช่น สถานประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม สถานศึกษา สถานพยาบาล เรือนจำ นำผลผลิตสับปะรดมาใช้ในการประกอบการทำอาหาร และกรมปศุสัตว์ นำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ ทำอาหารหมักเลี้ยงโคเนื้อและโคนม
สำหรับราคายางพารา ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาขณะนี้ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 43.56 บาท ราคาน้ำยางสด กิโลกรัมละ 41.46 บาท และยางก้อนถ้วยคละ กิโลกรัมละ 20.28 บาท ซึ่งปัจจัยส่งผลราคายางลดจากการเพิ่มสต๊อกยางของจีน ค่าเงินบาทแข็งขึ้น และภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้ยางเช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ส่งผลปรับตัวลดลง ทั้งนี้คาดว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง เพราะมีความต้องการใช้ยางพาราภาครัฐ มาตรการสนับสนุนเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการ ปริมาณสต๊อกยางของจีน ลดลง
เลขาธิการ สศก.กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกราคาดีขึ้นเช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาเฉลี่ยตันละ 14,743 บาท สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่เฉลี่ยตันละ 9,207 บาท เพราะปริมาณข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดลดลงจากผลกระทบของอุทกภัยปี60 และข้าวเปลือกเจ้า ราคาเฉลี่ยตันละ 7,781 บาท สูงขึ้นโดยเฉลี่ยตันละ 7,514 บาท หรือร้อยละ 3.55 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น แอฟริกา อินโดนีเซีย และมาเลเชีย รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2560/61 รัฐบาลใช้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร แบ่งเป็น 3 ด้าน จำนวน13 โครงการ ดังนี้ ประกอบด้วย ด้านการผลิต รวม 8 โครงการ ด้านการตลาด รวม 4 โครงการ และด้านการเงิน 1 โครงการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี