กำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองบุกจับสองเอเย่นต์เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่กลางเมืองกาฬสินธุ์ หลังลักลอบนำยาบ้ามาซุกซ่อนในบ้านเตรียมกระจายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น 16,800 เม็ด ขณะที่ยุทธการฟ้าแดดสงยางไล่ออกข้าราชการ พนักงานของรัฐ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่อปท.ร่วม 100 ราย
20 มิ.ย.61 ที่ห้องประชุมชัยสุนทรตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสธนาธิการ กกล.รส.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.คุณวุฒิ เมธีพิตตินันท์ รองผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ฝ่ายปกครองจังหวัด และทหารร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวเครือข่ายค้ายาเสพติด ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง กวดล้างยาเสพติด โดยจับกุมตัวนายเมธาลักษณ์ หรือเบียร์ แดนวงษ์ อายุ 22 ปี และนายนิวัฒน์ หรือแฟรง ธนสกุลศักดิ์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 16,800 เม็ด ยาบ้าผงเปียกน้ำอีก 116.4 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังจากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ขณะนำยาบ้าทั้งหมดมาซุกซ่อนในบ้านพักของนายเมธาลักษณ์ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ และห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง 300 เมตร เพื่อเตรียมที่จะกระจายของต่อให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายเมธาลักษณ์ หรือเบียร์ แดนวงษ์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ถนนพรรณา ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ และมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหายักยอก (รถจักรยานยนต์)ในปี 2559 แต่ปัจจุบันพ้นโทษแล้ว และนายนิวัฒน์ หรือแฟรง ธนสกุลศักดิ์ ซึ่งมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อในหน่ายในปี 2556 ซึ่งปัจจุบันพ้นโทษเช่นกัน โดยทั้งสองคนมีพฤติกรรมร่วมกันลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และถือเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาโดยตลอด กระทั่งล่าสุดนำยาบ้าทั้งหมดมาซุกซ่อนไว้ในบ้านพัก เพื่อเตรียมที่จะกระจายยาบ้าต่อ แต่มาถูกจับเสียก่อน ทั้งนี้สองคนรับสารภาพว่าได้ไปรับยางบ้าจากคนที่นำมาส่งวางไว้บริเวณข้างโรงแป้งบางนา อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่นกระทั่งมาถูกจับ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทั้งเตรียมขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังจับกุมตัวนายพุทธชาด หรือหนุ่ม เกื้อปัญญา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/16 ถนนถีนานนท์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพนักงานสาธารณะสุขเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด และบุหรี่ไทย 10 ห่อ รวม 60 ซอง หลังจากก่อเหตุเข้าไปขโมยบุหรี่ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งข้างตลาดสดโต้รุ่งและกำลังมั่วสุมเสพยาในบ้านพัก
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับยุทธการฟ้าแดดสงยาง กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร กำนัน เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 4 ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ชรบ.ยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการปราบปรามกลุ่มผู้ค้า และกลุ่มผู้เสพ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งข่าวและช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการกวดบ้านตนเองตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง กวาดล้างยาเสพติด โดยการตรวจปัสสาวะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้นำท้องถิ่น ซึ่งล่าสุดจากการตรวจปัสสาวะในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงานจนถึงลูกจ้างพบปัสสาวะสีม่วง 58 ราย ซึ่งได้สั่งการให้ไล่ออกทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีดำเนินการให้ข้าราชการ พนักงานของรัฐ ลูกจ้าง ผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน และผู้ใหญ่บ้านให้ออกจากหน้าที่และออกจากราชการไปแล้ว 41 ราย รวมทั้งหมด 99 ราย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี เนื่องจากมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องพัวพันธ์คบหาสมาคมเป็นอาจินกับเครือข่ายค้ายาเสพติด และส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ เสพยาเสพติด เพราะมีการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งการที่เข้ามาเป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐนั้นจะต้องมามาตรฐานสูงมีความรับผิดชอบ เพราะหลักการผู้เสพคือผู้ป่วยนั้นอย่านำมาใช้ เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องทำให้ประชาชนเกิดความศรัทธา ซึ่งหากมัวแต่มาเลือกปฏิบัติปัญหาก็จะไม่จบไม่สิ้น
นายไกรสร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติดนั้นมีมากและขยายเป็นวงกว้างมากกว่าที่คิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องตื่นตัว และต้องช่วยกันป้องกัน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากภัยยาเสพติดไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว การไล่จับของเจ้าหน้าที่เป็นเพียงเรื่องปลายเหตุ ซึ่งหากจะสามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดให้จริงๆนั้นคือการมีส่วนร่วมของประชาชนต้องช่วยกันสร้างกระแสและรณรงค์ช่วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี