รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การวางแผนกำหนดทิศทางในการยกระดับคุณภาพและพัฒนาการจัดการศึกษา ของกลุ่มโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริฯ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ โรงเรียนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนพื้นที่เกาะ และโรงเรียนพื้นที่พิเศษ" เมื่อเร็วๆนี้ ว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนดให้มีคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้ข้อเสนอแนะ รวมทั้งการออกกฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยในภาพรวม ประกอบกับเรื่องของการศึกษาเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มีคุณค่าสูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ ดังจะเห็นได้จากหลาย ๆ ประเทศ แม้จะมีทรัพยากรน้อย หรือมีข้อจำกัด แต่หากให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อพัฒนากำลังคนอย่างรอบด้าน ก็สามารถจะสร้างคนให้ไปสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้ เช่น สิงคโปร์ นั่นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์" มีความสำคัญที่สุดต่อการพัฒนาประเทศ
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ จึงจำเป็นต้องปฏิรูปการศึกษาไปพร้อมกับการขับเคลื่อนของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งทุกภาคส่วนด้วยเช่นกัน เพราะงานด้านการศึกษาไม่ใช่งานของกระทรวงหรือหน่วยงานใดเพียงลำพัง แต่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยคำหลักสำคัญคือ "ดำเนินการอย่างจริงจังและมีความต่อเนื่อง" เพราะงานการศึกษาเป็นงานที่มีความยาก เป็นงานที่หนัก แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นผลช้า โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบและปัจจัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับโครงสร้างของกระทรวงไปจนถึงโรงเรียน การพัฒนากระบวนการเรียนการสอน การนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการศึกษา การยกระดับคุณภาพ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากเราได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ในหลวงรัชกาลที่ 10) ใส่เกล้าฯ เป็นแนวทางปฏิบัติ การปฏิรูปการศึกษาก็จะไปได้ถูกทิศทางมากขึ้น อาทิ ให้ครูรักเด็ก เด็กรักครู, พี่หรือเพื่อนที่เก่งกว่า ช่วยสอนน้องหรือเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า, การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนใน 4 ประการ ได้แก่ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง-มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม-มีงานทำ มีอาชีพสุจริต-เป็นพลเมืองดี เป็นต้น
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวฝากให้ช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผนการทำงาน โดยมองภาพใหญ่ของกระทรวงเป็นหลัก และมีการทำงานเป็นทีมมากขึ้น เพื่อรวมพลังจากทุกภาคส่วนให้มาร่วมปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อกำหนดเป้าหมายจัดการศึกษาให้ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ทั้งในเชิงความรู้ความสามารถ แข่งขันได้ มีคุณธรรมจริยธรรม
"โรงเรียน" ถือเป็นหน่วยเล็กที่สุดของการศึกษา แต่มีความสำคัญสูงสุด เชื่อมั่นว่าผู้บริหาร ครู และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนทุกพื้นที่ รวมทั้งบุคลากรจากโรงเรียนกลุ่มนี้ที่มีกว่า 600 แห่ง เป็นผู้ที่รู้ปัญหาและข้อมูลต่าง ๆ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา เพื่อนำไปสู่คุณภาพการศึกษาและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ตรงจุดที่สุด” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี