22 มิ.ย.61 จากกรณีเด็กชายสิทธิโชค ประเสริฐสังข์ หรือน้องปอนด์ วัย 11 ขวบ นักเรียนโรงเรียนบ้านโคกล่ามวิทยา บ้านโคกล่าม หมู่ 3 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตจากการได้รับเชื้อไข้เลือดออก โดยฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจากไข้เลือดออกรายแรกในรอบ 2 ปีในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดที่ศาลาประชาคมบ้านโคกล่าม หมู่ 3 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิระชัย สุริยะบุญ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกล่าม หมู่ 3 ร่วมกับนางสมจิตร ภูคงน้ำ นายกเทศมนตรีตำบลไผ่ นายธนบูลย์ คนหาญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านหนองโพนตำบลไผ่ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรค (สคร.) เขต 7 ขอนแก่น ได้เปิดจุดตรวจสุขภาพ เพื่อคัดกรองโรคให้กับชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับเชื้อไข้เลือดออก เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับเด็กชายสิทธิโชคฯ ที่ถูกเชื้อไข้เลือดออกคร่าชีวิต นอกจากนี้ยังมีคนในหมู่บ้านอย่างน้อย 15 ราย ได้รับเชื้อไข้เลือดออก และยังนอนรักษาอาการโดยการดูแลอย่างใกล้ชิดของหมอโรงพยาบาลกาฬสินธุ์อีก 3 ราย
นายอรุณ เนาวะเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกล่ามวิทยา กล่าวว่า หลังทราบว่าเด็กชายสิทธิโชคฯ เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ติดเชื้อไข้เลือดออกเมื่อตอนเย็นวันที่ 14 มิถุนายน ก็ได้ประสานผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 เพื่อขอปิดโรงเรียน 1 วัน พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อทำการฉีดพ่นหมอกควัน และกำจัดลูกน้ำยุงลายภายในบริเวณโรงเรียนอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม
"เราไม่ทราบว่าเด็กชายสิทธิโชคฯ ติดเชื้อไข้เลือดออกมาจากไหน เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสบายใจของคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ก็ได้หยุดทำการเรียนการสอน 1 วัน คือวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นให้ทุกคนไปตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองโรคกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งผลพบเด็กอนุบาล 1 คน มีอาการติดเชื้อไข้เลือดออก จากนั้นนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ขณะนี้อาการปลอดภัย หมอสั่งกลับบ้านได้" นายอรุณ กล่าว
นายอรุณ กล่าวอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการพ่นหมอกควัน ทำลายภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายที่เป็นพาหะนำเชื้อไข้เลือดออกแล้ว ก็ได้เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาให้ความรู้แก่เด็ก ในการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ถูกยุงลาย ที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกกัด ทำให้กำลังใจของคณะครู นักเรียน ดีขึ้น ไม่ตื่นตระหนกเหมือนวันแรกที่พบเด็กชายสิทธิโชคฯ ติดเชื้อไข้เลือดออกดังกล่าว
ด้านนางสมจิตร ภูคงน้ำ นายกเทศมนตรีตำบลไผ่ กล่าวว่า ฤดูฝนเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดโรคประจำฤดู ทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ที่ผ่านมาได้มอบหมายกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมฯ ประสานสาธารณสุขอำเภอ อสม. ผู้นำชุมชน สถานศึกษา ในการเฝ้าระวังและป้องกัน ทั้งในส่วนของการประกาศเตือน หยอดทรายอะเบท พ่นหมอกควัน อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของเด็กชายสิทธิโชคฯ จากการติดเชื้อไข้เลือดออก ถือเป็นรายแรกของตำบลไผ่ นอกจากนี้ยังมีคนได้รับเชื้อไข้เลือดออก 15 ราย จึงเป็นเรื่องที่ทุกคน ทุกฝ่าย จะต้องใส่ใจและร่วมกันรณรงค์ป้องกัน ไม่ให้โรคไข้เลือดออกระบาดในพื้นที่อีก
ขณะที่นายวิระชัย สุริยะบุญ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกล่าม หมู่ 3 กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกครัวเรือนสร้างภูมิคุ้มกันไข้เลือดออกด้วยตนเอง โดยหมั่นตรวจเช็คบริเวณบ้าน ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายโดยเด็ดขาด ส่วนที่เป็นภาชนะเก็บน้ำก็ให้หยอดทรายอะเบท หรือมีฝาปิดให้มิดชิด เวลานอนให้กางมุ้ง ป้องกันยุงลายกัด โดยจะมี อสม. เข้าไปสำรวจและติดตามผลอย่างเข้มข้นทุกวัน ขณะที่ในส่วนของการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกนั้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบรมให้ความรู้ชาวบ้าน และมีการพ่นหมอกควันในหมู่บ้าน โรงเรียน และในรัศมี 100 เมตร
อย่างไรก็ตาม สำหรับบ้านโคกล่าม ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงได้รับเชื้อไข้เลือดออก ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา เนื่องจากทราบว่ามีคนติดเชื้อไข้เลือดออกในช่วงเดียวกันถึง 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย ถึงแม้จะเข้ารับการตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคแล้วก็ตาม เพราะเชื่อว่ายุงลายและเชื้อไข้เลือดออกยังแฝงตัวอยู่ในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี