ศธ.ระดมเงินช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชน 13 ชีวิตติดถ้ำ 395,100 บาทแล้ว สพฐ.เตรียมถอดบทเรียน ให้นร.เรียนรู้ก่อนเข้าจุดเสี่ยง
27 มิ.ย.61 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุ ทีมฟุตบอลเยาวชนติดอยู่ในถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้นั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ใช้เรียนรู้ในสถานการณ์ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ดังนั้น ภายหลังจากที่ช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ออกมาได้แล้ว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คงต้องถอดบทเรียนในเหตุการณ์นี้ออกมา ว่า นักเรียนควรมีการเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ก่อนเข้าไปเที่ยวในมุมต่างๆ เช่น ไฟฉาย อาหารแห่ง น้ำดื่ม อย่างน้อยให้อยู่ได้ 1 - 2 วัน ซึ่งทุกครั้งที่เข้าไปสถานที่ที่มีจุดเสี่ยงก็จะต้องเตรียมพร้อม เตรียมการเผชิญเหตุ และเมื่อเผชิญเหตุแล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง ดังนั้น จึงต้องมีบทเรียนในเรื่องนี้เพิ่มเติม
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้เขตพื้นที่การศึกษา ได้ระดมส่งเงินมาเข้าบัญชี ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงราย เขต 3 จำนวน 131 แล้ว รวมทั้ง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และคณะทำงาน ร่วมสมทบด้วย จำนวน 5,000 บาท รวมถึง สพฐ และคณะผู้บริหาร จำนวน 17,000 บาท และเช้าวันนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพฯ นำเงินมามอบผ่านตน จำนวน 35,000 บาท ณ เวลา 9.00 น. ของวันนี้ มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ส่งเงินมาแล้ว จำนวน 131 เขต รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 395,100 บาท และกำลังทยอยโอนเงินมาร่วมทบสมเรื่อยๆ โดยเงินทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่ง จะแบ่งไปจัดซื้อเสบียงสนับสนุนทีมที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ และส่วนหนึ่งไว้ช่วยเหลือผู้ปกครองเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทา
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีการประชุมระดับนานาชาติ เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติระดับโรงเรียน เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ร่วมกับองค์กรแพลนประเทศไทย ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการดูแลโรงเรียนให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติในมิติต่างๆ อย่างยั่งยืนและชัดเจนขึ้น โดยจะมีการปรับขบวนการเรียนการสอน และกิจกรรมในรายวิชาลูกเสือ เนตรนารี มีการฝึกปฏิบัติลูกเสือกู้ชีพร่วมกับศูนย์กู้ชีพ นเรนทน ฝึกการทำ CPR ช่วยปั๊มหัวใจกรณีเกิดเหตุฉุเฉิน อบรมลูกเสือจราจร รวมถึงมีการฝึกปฏิบัติหลักสูตรไลฟ์การ์ด ช่วยป้องกันการจมน้ำให้กับตัวเองและผู้อื่น โดยในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ สพฐ.ได้ฝึกอบรมลูกเสือจราจรให้กับนักเรียน 4 รุ่น ใน 4 มุมเมือง พื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้อบรมเสร็จแล้ว 3 รุ่น รุ่นละ 30 โรงเรียน จำนวน 300 คน เป็นการเติมเต็มในเรื่องความปลอดภัยทางถนนให้กับนักเรียน และในปีต่อไปจะกระจายไปพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัดทั่วประเทศ
“มิติในการอบรมลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในโรงเรียน จะมีการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มีการจัดทำแผนป้องกันภัยพิบัติในโรงเรียน การจัดองค์ความรู้ การเตรียมพร้อม และการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติได้จริง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าวและว่า นอกจากนี้ สพฐ.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตั้งทีมกู้ภัยฉุกเฉินในกลุ่มโรงเรียน หรือโรงเรียนที่มักเกิดสถานการล่อแหลม เพื่อดูแลเรื่องเกียวกับภัยพิบัติต่างๆ การทำ CPR หรือการช่วยปั้มหัวใจ รวมถึงจัดให้มีระบบการสื่อสารสำรอง วิทยุสื่อสารที่สามารถสื่อสารได้ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีเกิดภัยพิบัติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี