ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
หมูป่ากลับบ้าน
คืนสู่อ้อมกอดครอบครัว
พร้อมแถลงข่าวเปิดใจ
ผู้ว่าฯเชียงรายห่วงเด็ก
ให้พบสื่อแค่ครั้งเดียว
รบ.เตรียมเลี้ยงขอบคุณ
“13 หมูป่า” พร้อมเดินทางกลับบ้าน 18 กรกฎาคม หลังจากสภาพร่างกายแข็งแรง และครบกำหนดการเฝ้าระวังแล้ว เตรียมแถลงข่าวผ่านรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ในเย็นวันเดียวกัน ทหารจัดแถวรับ“หมอภาคย์” กลับกองพัน เจ้าตัวยก “โค้ชเอก” เป็นฮีโร่ รัฐบาลเตรียมขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตขอใช้ “พระลานพระราชวังดุสิต” เป็นสถานที่เลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ร่วมภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง
เมื่อวันที่ 17กรกฎาคม นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย เปิดเผยว่า ทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่า อะคาเดมี และโค้ช รวม 13 คน พร้อมที่จะออกจาก รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ และจะแถลงข่าวและตอบข้อซักถามเรื่องราวต่างๆ ในเวลา 18.00 น. ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยย้ายสถานที่จาก อบต.โป่งผา มาที่ อบจ.เชียงราย โดยให้สื่อมวลชน ส่งคำถามมาล่วงหน้า ภายในเวลา 17.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคม เพื่อคัดกรองคำถามที่เหมาะสม และจะมีการขอความร่วมมือบางอย่างในการถ่ายภาพ และการถามคำถามด้วย โดยตนพร้อมด้วย ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด พัฒนาสังคม จะแถลงข่าว ร่วมกับทีมหมูป่า 13 คนและครอบครัว
ชี้อยากให้ออกสื่อแค่ครั้งเดียว
นายประจญ กล่าวว่า ขณะนี้ น้องๆ สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว และครบกำหนดในการเฝ้าระวัง จึงอยากให้กลับไปใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว การให้เด็กๆ มาร่วมแถลงข่าว เพราะเป็นที่สนใจ และต้องการให้เป็นการพูดคุยกับสื่อมวลชนเพียงครั้งเดียว ซึ่งได้พูดคุยกับผู้ปกครองและเด็กเบื้องต้นแล้วว่า หลังจากจบการแถลงข่าว ไม่ควรให้สัมภาษณ์หรือออกรายการโทรทัศน์อีก เพราะเจ้าหน้าที่เป็นห่วงการใช้ชีวิตหลังจากนี้
“ไม่อยากให้มีเรื่องกระทบจิตใจ และการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก โดยจะส่งพัฒนาสังคมเข้าไปดูแลให้เขาอยู่ในสังคมได้ ไม่ถูกคุกคาม โดยนอกจากขอความร่วมมือแล้ว จะมีทีมสหวิชาชีพ และใช้กฎหมายคุ้มครองเด็กเข้าไปดูแล” นายประจญ กล่าว และว่า เรื่องการบวช เป็นความต้องการของเด็กกับผู้ปกครองและคณะสงฆ์จังหวัดจะเป็นเจ้าภาพ ส่วนจะเป็นวันใดและวัดไหนนั้น ให้รอการนัดหมายอีกครั้ง
เรื่องขอสัญชาติไม่น่ามีปัญหา
นายประจญ กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องสัญชาติของโค้ชและเด็ก 3 คนว่า นายอำเภอกำลังดำเนินการ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จะเป็นการเร่งรัดเรื่องให้เร็วขึ้น เพราะมีการยื่นเรื่องไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ก็จะไม่ได้สัญชาติไทย ไม่ได้สิทธิพิเศษทางกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ จะขอใช้วิกฤตที่เกิดขึ้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นโอกาสในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวและทำให้จังหวัดเชียงรายเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยส่วนของถ้ำหลวง จะมีการฟื้นฟู ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ สร้างพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราว และกฎกติกาในการเข้าชมถ้ำ และจะวางแผนการโปรโมท เชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัด เช่น วัดร่องขุ่นและบ้านดำ
เตือนถามไม่สร้างสรรค์เสี่ยงผิดกม.
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงถึงสภาพจิตใจของเด็กหลังจากออกจากโรงพยาบาลและจะมีสื่อมวลชนต่างๆรุมสัมภาษณ์ ซึ่งตนเคยได้พูดมาตลอดว่า ตามมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ห้ามเผยแพร่รูปภาพหรือสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่จะกระทบจิตใจ กระทบทางกาย ถือเป็นการละเมิดโดยเจตนาก็ถือว่ามีความผิด โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีนั้นอยู่ในความอุปการะของบิดามารดาผู้ปกครอง เมื่อสื่อไปสัมภาษณ์โดยไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยและใช้คำถามที่อาจมีผลกระทบทางจิตใจหรือไปเปิดบาดแผล อาจส่งผลให้มีความผิดในมาตรานี้ได้
นอกจากนี้สิ่งที่เป็นห่วงคือการถามคำถามบางอย่างที่ไม่ระมัดระวัง หรือเป็นคำถามที่ชักจูงให้เด็กมีความประพฤติเสียหาย หรือเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ จูงใจให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กมีพฤติกรรมเสียหายหรือเสี่ยงต่อการกระทำความผิด ซึ่งผิดตามมาตรา 26 (3) มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งสื่อต้องระมัดระวังให้มาก นักจิตวิทยามาช่วยกลั่นกรองคำถาม และไม่ควรเป็นคำถามซ้ำๆ
ทหารจัดแถวต้อนรับ“หมอภาคย์”
เวลา 08.30 น. ที่กองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กองพลทหารเสนารักษ์ที่ 3 กว่า 50 นาย ได้มีการจัดแถวเพื่อต้อนรับการเดินทางกลับหน่วย ของ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 หลังจากที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยทันทีที่หมอภาคย์เดินทางมาถึง ก็ได้เข้าไปไหว้ศาลปู่ประยุทธ-ศาลปู่ดำ ที่ตั้งอยู่หน้าหน่วย หลังจากนั้นก็ได้มีพิธีตั้งแถวรายงานจำนวนกำลังพล และการปฏิบัติงานในหน่วยกองพันเสนารักษ์ที่ 3 พร้อมกับร่วมกันส่งเสียง “ฮูยาห์ๆ” ซึ่งเป็นคำประกาศชัยชนะของหน่วยซีล ก่อนที่จะนำช่อดอกไม้มามอบให้ เพื่อเป็นการต้อนรับกลับเข้าสู่หน่วยอีกครั้ง
ยกย่อง“โค้ชเอก”ยอดเยี่ยมมาก
พ.ท.นพ.ภาคย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกู้ภัยในถ้ำเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีหลายหน่วยงานจากทั่วโลกเดินทางมาช่วยเหลือ ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่สำคัญให้กับการปฏิบัติงานกู้ภัยลักษณะนี้ให้กับคนทั้งโลก ทั้งนี้ จากการได้อยู่กับเด็กๆ ในถ้ำหลายวัน ตนก็สัมผัสได้ว่าเด็กทั้ง 12 คน รวมทั้งโค้ชเอก เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ใส่ซื่อ ไร้เดียงสา และที่สำคัญทุกคนมีวินัยมาก
จากการสอบถามเด็กๆ บอกว่า ตอนเข้าไปในถ้ำนั้นทุกคนไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ ไม่มีการเก็บหิน หรือของที่อยู่ในธรรมชาติเลย และตั้งใจว่าจะเข้าไปทำกิจกรรมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็จะกลับออกมา และที่สำคัญทางโค้ชเอกเองก็เป็นเยาวชนที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็สามารถเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะได้อบรมสั่งสอนเด็กๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อย่างไรในช่วงที่ขาดอาหาร สอนให้รู้จักการเสียสละโดยที่ไม่ต้องพูด เพราะตนสังเกตเห็นโค้ชเอกแอบเอาอาหารที่เป็นส่วนของตัวเอง ไปให้เด็กๆ ได้กินอิ่มก่อน รวมทั้งสอนให้ทุกคนมีความหวังเสมอ และมีระเบียบวินัยด้วย ทำให้ทุกคนรอดออกมาได้
โคราชเตรียมจัดพิธีต้อนรับ26ก.ค.
นอกจากนี้ เด็กๆ ทุกคนจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี พูดคุยแต่เรื่องที่สร้างสรรค์ เช่น ออกไปแล้วอยากจะไปเที่ยวที่ไหน อยากจะกินอะไรกันบ้าง ซึ่งถือว่าสิ่งนี้สำคัญมากต่อสุขภาพกายและใจ พวกเขามีสิ่งที่วิตกอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าออกไปแล้ว จะทำการบ้านที่ค้างอยู่ส่งครูไม่ทันเพื่อน
พ.ท.นพ.ภาคย์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับการติดต่อจาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมาว่า จะมีการจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
ประชาชนแห่ชมภาพวาดฮีโร่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ให้ความสนใจเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมภาพวาดภารกิจการช่วยเหลือเยาวชน 13 ชีวิตทีมทีนทอล์ค (หมูป่า) อะคาเดมี ซึ่งติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณขัวศิลปะ อ.เมือง จ.เชียงรายอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
สำหรับภาพวาดดังกล่าวเป็นการร่วมมือร่วมใจกันของบรรดาศิลปินใน จ.เชียงราย กว่า 300 ชีวิต นำโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ และออกแบบโดย อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม ศิลปินชาวเชียงราย รังสรรค์ขึ้นจากสีซีเปียบนพื้นผ้าใบกว้าง 3 เมตร ยาว 13 เมตร ถือเป็นภาพวาดประวัติศาสตร์ เพราะรวมเอาศิลปินที่มีชื่อเสียงจำนวนมากช่วยกันวาดภาพขนาดใหญ่ที่รวบรวมเอากิจกรรมต่างๆ ในการกู้ภัยช่วยเหลือมาไว้ในภาพเดียว โดยเฉพาะโฉมหน้าของบรรดาฮีโร่ที่เข้าเหลือน้องๆออกจากถ้ำ
เตรียมนำไปโชว์ที่ถ้ำหลวง
โดยล่าสุดขณะนี้การวาดได้แล้วเสร็จไปประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดบางส่วนเล็กๆน้อยๆ ซึ่งหลังจากแล้วเสร็จจะโชว์ที่บริเวณขัวศิลปะแห่งนี้ประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับชม จากนั้นจะมีการนำไปตั้งโชว์ที่วัดร่องขุ่นเพื่ออาคารพิพิธภัณฑ์ที่กำลังจะก่อสร้างบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งเป็นพื้นที่้เกิดเหตุ เพื่อแสดงโชว์ให้นักท่องเที่ยวหรือประชาทั่วไปที่ไปเที่ยวยังถ้ำหลวงก็จะรับทราบข้อมูลและจดจำเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
“บิ๊กป๊อก”ย้ำ ให้สัญชาติยึดกม.
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการให้สัญชาติไทยกับเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี 3คนและโค้ช ว่า การจะให้สัญชาติ ไม่ได้อยู่ที่ผู้มีอำนาจไม่ว่าทั้งนายอำเภอ ผู้ว่าฯ รวมถึง รมว.มหาดไทย ที่อยากจะให้สัญชาติกับใครก็ได้ เพราะเรื่องนี้มีเงื่อนไขระบุกลุ่มคนที่ให้สัญชาติได้อยู่แล้ว ซึ่งจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตรงตามเงื่อนไขนั้น ส่วนความล่าช้าที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะวิธีการพิสูจน์ที่ยาก ทั้งพิสูจน์ดีเอ็นเอ และหลักฐานอื่นๆ ร่วมด้วย หากทำพลาดไปเจ้าหน้าที่รัฐจะมีความผิด ดังนั้นเรื่องนี้ต้องให้มีความชัดเจนตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันเราได้ให้สัญชาติไทยไปแล้วกว่า 2 หมื่นกว่าคน
ใกล้ได้ข้อสรุปงานเลี้ยงขอบคุณ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาสถานที่เพื่อเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยปฏิบัติงานภารกิจค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่า ขณะนี้รัฐบาลจะดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ขอใช้สถานที่ที่พระลานพระราชวังดุสิต เพื่อเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง เพราะมีความกว้างขวาง รองรับคนได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงจะต้องทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้สถานที่ไปก่อน ส่วนกำหนดการการจัดงานเลี้ยงได้กำหนดไว้เบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะอาจจะมีการปรับเปลี่ยน ให้เกิดความเหมาะสม และจะจัดขึ้นในวันไหนนั้น ต้องหารือกันอีกครั้ง
บัวแก้วขอบคุณสื่อตปท.ช่วยตีข่าว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือขอบคุณทุกประเทศที่ให้ช่วยภารกิจช่วยทีมหมูป่าฯ ออกจากถ้ำหลวงไปแล้ว และกำลังพิจารณาขอบคุณสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่นำเสนอข่าวสารให้คนทั่วโลกได้รับทราบ ทำให้ประเทศไทยได้รับการช่วยเหลือมากขึ้น และเหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีการนำเสนอเรื่องราวของประเทศไทยให้ต่างชาติได้รับทราบ และขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ กำลังรวบรวมความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับกรณีถ้ำหลวง ที่ต่างประเทศสะท้อนผ่านสถานทูตไทยในประเทศตัวเอง เพื่อมาพิจารณาว่าควรจะดำเนินการไปในทิศทางใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี