ไม่มีวันชักดาบ
ครูอุดร-หนองบัวฯกร้าว
จวกยับ‘ปฏิญญาสารคาม’
ชี้เมื่อเป็นหนี้ต้องชดใช้คืน
อย่าสอนสิ่งผิดให้ลูกศิษย์
สมาคมครู “อุดรธานี-หนองบัวลำภู” ประกาศจุดยืน ไม่มีวันชักดาบหนี้ที่กู้ยืม ชี้เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติต้องเป็นต้นแบบของสังคมในการสอนสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกศิษย์ ขณะที่ มรภ.มหาสารคามแจงแล้ว ยันไม่เกี่ยวข้องกลุ่มครูใช้สถานที่ประกาศปฏิญญาพักชำระหนี้ ระบุจากนี้จะเพิ่มการคัดกรองให้เข้มข้นขึ้น
เมื่อวันที่ 20กรกฎาคม ที่สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดหนองบัวลำภู (สกสค.หนองบัวลำภู) ภายในศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู นำคณะเข้าพบ ดร.สุเทพ บุญเติม ผอ.สกสค.หนองบัวลำภู พร้อมยื่นแถลงการณ์ว่าจะไม่ทำแบบ ครูมหาสารคาม ที่ประกาศปฏิญญามหาสารคาม ขอพักจ่ายหนี้ ช.พ.ค. และช.พ.ส. อ้างว่าเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เนื่องจากส่งไปแล้ว 7 ปี แต่เงินต้นลดเพียงแสนเดียว สร้างภาระหนี้สินทับซ้อน ตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม
นายคำพันธ์ กล่าวว่า เราคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับปฏิญญามหาสารคาม เพราะก่อให้เกิดกระแสสังคมที่คัดค้านอย่างรุนแรง เราเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ เป็นต้นแบบของสังคมในการสอนลูกศิษย์ให้สิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเป็นหนี้จะต้องชดใช้หนี้ ดังนั้นครูทั้งในระบบและครูเกษียณของอุดรธานีและหนองบัวลำภูจะไม่มีวันชักดาบแน่นอน พร้อมกันนี้ เราได้มีแถลงการณ์ 4 ข้อ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับปฏิญญามหาสารคามโดยชิ้นเชิง 2.ปฏิญญานี้นำมาซึ่งความเสื่อมเสียศักดิ์ศรีและจรรยาบรรณ 3.นี่เป็นเพียงข้อเรียกร้องของคณะครูในมหาสารคามเท่านั้น และ4.ขอเรียกร้องให้คณะครูทุกคนรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป
ด้าน ดร.สุเทพ กล่าวว่า สกสค.จะต้องมีแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขหลังจากนี้ แต่การไม่จ่ายหนี้เลยคงไม่ถูกต้องตามระเบียบและกฏหมาย ครูต้องเป็นตัวอย่างและแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ครูส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นลูกหนี้ที่ดี และไม่เห็นด้วยกับการยุติชำระหนี้ครั้งนี้
นายวุฒิพล ฉัตรจรัสกูล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม พร้อมคณะ แถลงกรณีมีการกล่าวปฏิญญามหาสารคามของเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย ว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม มหาวิทยาลัยฯ ได้รับหนังสือขอใช้ห้องประชุมเธียเตอร์ อาคาร 34 เพื่อจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ยุทธศาสตร์กู้วิกฤตการศึกษาไทย” ในวันที่ 14 กรกฎาคม พร้อมกำหนดการสัมมนา รวมทั้งรายชื่อวิทยากร จึงได้เซ็นต์อนุมัติเพื่อให้ความอนุเคราะห์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และท้ายของประกาศปฏิญญามหาสารคามนั้น ก็เป็นการลงท้ายของผู้จัดการสัมมนา จึงขอยืนยันว่ามหาวิทยาลัยฯ และบุคลากร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการประกาศปฏิญญาดังกล่าว พร้อมทั้งต้องการให้ประชาชนและสังคมเข้าใจอย่างถูกต้อง
“เราเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความอนุเคราะห์ ให้บริการแก่ชุมชน จึงให้ความอนุเคราะห์สถานที่ และโดยพื้นฐานของมหาวิทยาลัยฯ ก็เป็นแหล่งผลิตครูมาโดยตลอด ตรงนี้อาจมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจคิดว่ามหาวิทยาลัยฯ เป็นผู้เข้าร่วมหรือมีส่วนด้วย ขอย้ำว่ามหาวิทยาลัยฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับการประกาศปฏิญญามหาสารคามในครั้งนี้”นายวุฒิพล กล่าว และว่า เรื่องนี้ถือเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นและจะเป็นประสบการณ์ว่าในการพิจารณาให้ความอนุเคราะห์การขอจัดงานใดๆ หลังจากนี้จะต้องมีการคัดกรองให้รอบคอบ และมีการชี้แจงรายละเอียดมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี