3 ส.ค.61 ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.และคณะ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส และรับมอบตัวผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงจากทหาร หลังจากผ่านกระบวนการซักถามตามหลักสันติวิธีจนครบกำหนด จำนวน 7 ราย
โดยในพื้นที่จ.ยะลา คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้าน ที่บ้านเลขที่ 228 ม.4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 5 ศพ ซึ่งคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฏอัยการศึก พ.ศ.2547 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ได้ติดตามและเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาควบคุมตัวไว้เพื่อซักถาม ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนหน้า ประกอบด้วย
1.) นายสาแปอิง สะเตาะ อายุ 39 ปี มีหมายจับที่ จ.341/2561 2.) นายอับดุลเลาะ มะสาเม๊าะ อายุ 30 ปี มีหมายจับที่ จ.342/2561 3.) นายแวอาแซ แวยูโซะ อายุ 34 ปี มีหมายจับที่ จ.347/2561 4).นายมัสสัน เจะดือเระ อายุ 29 ปี มีหมายจับที่ จ.346/2561 และ 5).นายซูกรี มูเซะ อายุ 33 ปี มีหมายจับที่ จ.348/2561 ทั้งหมดเป็นราษฏรอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา รวม 5 คน
ซึ่งผลการซักถามได้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พนักงานสอบสวนจึงได้สืบสวน รวมรวบพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดจริง และได้ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลจังหวัดยะลาออกหมายจับดังกล่าว โดยได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจรมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย” โดยในวันนี้ได้มีพยานปากเอกที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้มาชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ราย ที่ ม.5 ต.สุคีริน อ.สุคีริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.61 เวลากลางวันขณะเข้าไปร่อนทองบริเวณป่าสวนยางพาราริมแม่น้ำสายบุรีอำเภอสุคิรินจังหวัดนราธิวาสนั้น ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน คือนายอัมรี เจ๊ะฮะ อายุ 37 ปี มีหมายจับที่ จ.407/2561 และ นายฮามิ เจะเงาะ อายุ 28 ปี มีหมายจับที่ จ.408/2561 ชาวบ้านต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาสมาสวนสอบสวนจนมีหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำความผิดจริง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับทั้ง 2 คนดังกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในคดียิงชาวบ้านเสียชีวิต 5 ศพนั้น จากการซักถาม 5 รายให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีผู้ต้องหารับสารภาพ ในชั้นสอบสวนว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดรวมทั้งพวกตน 10 รายขออนุมัติหมายจับทั้งหมดแล้ว โดยในการก่อเหตุมีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีทั้งคนที่ขับรถพาคนร้ายไปก่อเหตุผู้ทำหน้าที่ส่งอาวุธปืนเอสเค คนร้ายที่ทำหน้าที่ระวังด้านหน้า ลงมือลั่นไก โดยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุคือปืน .38 และเอชเค โดยปืนเอช เค พบประวัติเคยก่อเหตุไม่สงบ 6 ครั้ง
“จากการสอบสวนพล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา แจ้งว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องของการไม่พอใจเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ใช่ปัญหาก่อความไม่สงบ แต่กลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่รับงานมาก่อเหตุนี้” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ส่วนคดียิงชาวบ้านผู้เสียชีวิต 4 ราย ขณะเข้าไปร่อนทองนั้น คนร้ายที่รับมอบตัวทั้ง 2 คนรับสารภาพ
ในชั้นสอบสวนร่วมกับพวกอีกรวม 6 คน ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จ.นราธิวาส โดยพล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส แจ้งว่ามูลเหตุเป็นเรื่องของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ระแวงกลุ่มชาวบ้านที่เข้าไปร่อนทองข้ามเขตใกล้ที่ซ่องสุมกำลังของตนเองจึงหวั่นว่า จะรู้ความลับและความเคลื่อนไหวจึงก่อเหตุสังหาร 4 ศพดังกล่าว
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 6 ราย ในข้อหาก่อการร้ายวางแผนก่อการร้ายอั๊งยี่ ซ่องโจร นำเข้าวัตถุระเบิด หลังจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงสามารถสกัดจับรถยนต์กระบะที่บรรทุกระเบิดแบบต่างๆ แบบขว้าง 41 รูปวงจรระเบิด 39 ลูกจับกุมผู้ต้องหาได้หนึ่งคนอยู่ระหว่างการซักถาม และออกหมายจับ 6 คน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนรู้แหล่งที่มาของระเบิด และกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีแล้วอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมทั้งนี้ยืนยันว่าระเบิดที่ยึดได้ทั้งหมด คนร้ายเตรียมนำไปก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่นำออกนอกพื้นที่ เนื่องจากลักษณะระเบิดและวงจรหากเคลื่อนย้ายจะมีความเสี่ยงและไม่สะดวกทำให้มั่นใจว่าต้องใช้ก่อเหตุในพื้นที่ แต่การตรวจยึดได้จำนวนมากทำให้เชื่อว่ามีบางส่วนที่อาจเล็ดลอดออกไปได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังแล้ว
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการผ่านผมกำชับให้ดูแลพื้นที่ป้องกันเหตุร้ายอย่าให้เกิดเหตุความไม่สงบ สืบสวนหาข่าวระวังเหตุแต่หากเกิดเหตุแล้วต้องจับกุมได้โดยเร็ว” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี