กระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่พะเยา และลำปาง สำรวจมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท เมื่อวันที่ 7-9 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังนโยบายค่าจ้าง300บาทมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ 1 มกราคม2556
โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการแรงงานสัญจรเสริมสร้างองค์ความรู้ให้สถานประกอบการกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่พะเยา และลำปาง จัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.)
โดยพะเยาเป็นจังหวัดที่มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำต่ำสุดในประเทศ เมื่อปรับขึ้นเป็นวันละ300บาท จึงเป็นจังหวัดที่มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราที่สูงขึ้นกว่ามากกว่าจังหวัดอื่น
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานจัดโครงการแรงงานสัญจรเสริมสร้างองค์ความรู้ให้สถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) พร้อมจ่ายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนให้นายจ้างเข้าถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจเอสเอมอี พร้อมรับฟังปัญหาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเลิกจ้าง
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงาน จ.พะเยา ในปี 2555 พบว่า จังหวัดพะเยามีประชากร 489,129 คน มีสถานประกอบการจำนวน 1,238 แห่ง มีลูกจ้าง 9,009 คน ส่วนใหญ่เป็นการประกอบธุรกิจประเภทค้าปลีก ค้าส่ง รองลงมาเป็นกิจการก่อสร้าง สถาบันการเงิน ส่วนการเลิกจ้างมี 41 ราย จากสถานประกอบการ 22 แห่ง
ทั้งนี้จากรายงานของศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการให้พร้อมจ่ายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ พบว่า ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาเนื่องจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำมี 5 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 8 คน เช่น ผู้ประกอบการร้านนาฬิกา น้ำดื่ม และอลูมิเนียม ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากธุรกิจไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามา
จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นคาดว่าผลกระทบมีไม่มากนัก ส่วนข้อเรียกร้องของประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา ที่ให้กระทรวงแรงงานสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนเยียวยาเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ขยายพื้นที่ชายแดนแรงงานต่างด้าวจากเชียงรายให้มาถึงจังหวัดพะเยาเพื่อให้สามารถจ้างแรงงานต่างด้าวมาทำงานได้มากขึ้น เป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และก่อสร้างถนนสายเชียงใหม่ - ด่านบ้านฮวก เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าไปยังเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและขยายระบบขนส่งโลจิสติกส์เพื่อรองรับการปรับอัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนั้นจะต้องทราบความชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการได้เสนอขอจ้างเป็นจ้างเหมารายชั่วโมงนั้นเรื่องดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามระบบคณะกรรมการค่าจ้างที่มาจากไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา ซึ่งประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้างและรัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานกำหนดตามกฎหมาย รมว.แรงงานกล่าว
ด้านนายวิสา คัญทัพ ผู้ช่วย รมว.กระทรวงแรงงาน กล่าวในขณะเป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการแรงงานสัญจรเสริมสร้างองค์ความรู้ให้สถานประกอบการกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ณ ห้องประชุมจันทน์ผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ว่า เป็นการรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของแต่ละอุตสาหกรรม เช่นโรงงานผลิตเซรามิก ซึ่งกระทรวงแรงงานและรัฐบาลยังเดินหน้าในการช่วยเหลือสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การเพิ่มผลผลิตเพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานจังหวัดลำปาง พบว่า มีสถานประกอบการรวม 4,125 แห่ง ลูกจ้าง 57,523 คน ส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก อาทิ การผลิตอาหาร รองลงมาเป็นค้าปลีกค้าส่ง การผลิตไม้และเครื่องเรือน เซรามิคและแก้ว รวมทั้งสิ้น 28 ประเภทกิจการ
การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นจังหวัดที่ 2 หลังจากการปรับค่าจ้างอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอีก 70 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้ประกอบการเซรามิคนั้นผลกระทบไม่ได้เกิดจากการปรับค่าจ้าง แต่เนื่องจากเป็นต้นทุนจากวัตถุดิบในการผลิตที่สูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลที่แท้จริงอีกครั้ง ขณะเดียวกันสถานการณ์ด้านแรงงานทั่วประเทศยังไม่น่าวิตก เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ ประกอบกับกับมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือ จะเห็นได้จากตัวเลขการจดทะเบียนเปิดกิจการเพิ่มขึ้นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าการปิดกิจการ
ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท เพิ่งจะมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศเพียงไม่กี่เดือน คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอมอีที่ถูกจับตามองว่าเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี