21 พฤษภาคม 2564 เมื่อเวลา 00.10 น. หน่วยกู้ภัยเขาทะลุ ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร สามารถลำเลียงศพของนายธีรยุทธ ชูแก้ว อายุ 43 ปี และ นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ขึ้นมาจากก้นเหว บนภูเขาสูง ในหมู่ที่ 3 หลังจาก เปิดฉากดวลปืนกับ ตร.สืบสวน สภ.นาสัก และตร.สืบสวน ตร.ภาค 8 จนถูกกระสุนปืนของ ตำรวจเสียชีวิตอยู่ภายในเหวข้างบ้านของคนร้าย 

เหตุการณ์ วิสามัญคนร้ายถึง 2 ศพ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 พค.64 เมื่อพล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร รับรายงานจาก พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ว่าได้เกิดเหตุตำรวจวิสามัญคนร้ายรายสำคัญของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ถึง 2 ราย ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์.รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร  พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เยี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8  ร.ต.ท.ชัยวัตร ชัยเดช พงส.สภ.นาสัก ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐานชุมพร  แพทย์จาก รพ.สวี นายปรีชา จิตมั่น อัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดหลังสวน นางสาวนนท์ลภัส ชูสอน ปลัดอาวุโส อ.สวี หน่วยกู้ภัยเขาทะลุ กำลังตำรวจรุดที่เกิดเหตุ 

บนภูเขาสูงในซอยร่วมมิตร หมู่ที่ 3 ต.เขาค่าย อ.สวี เส้นทางทุรกันดาร ต้องใช้รถยนต์กะบะขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น จากถนนสายเขาปีปไปยังบ้านเขาค่าย แยกขึ้นบนถนนในหมู่บ้านร่วม 10 กม.ท่ามกลางสวนทุเรียน สวนยางพารา ถนนดินที่ด้านข้างเป็นเหวลึกตลอดทางพบว่า ที่ยอดภูเขาสูง มีกระต๊อบไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บนปากเหวลึก มีสวนทุเรียนเรียงรายรอบบ้าน มีถนนดินขึ้นถึงบ้านเพียงด้านเดียวเท่านั้น อีกทั้งต้องเดินเท้าร่วม 1 กม. กว่าคณะของจนท.ทุกฝ่ายจะถึงที่เกิดเหตุด้วยความทุลักทุเล ต้องเดินฝ่าโคลนบนถนน ท่ามสายฝนที่ตกลงมาเล็กน้อยตลอดเวลา  

พบว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาสัก และ ตร.สืบสวน บก.สส.ภ.8 กำลังช่วยกันให้การปฐมพยาบาล นายเอกนันท์ พันธุมาศ อายุ 26 ปี 45/1 อาชีพรับจ้าง ที่ได้รับบาดเจ็บขาด้านซ้ายหัก จากการวิ่งหลบหนีตำรวจ จนตกลงไปในเหวขาหัก ส่วนด้านล่างที่เป็นเหวลึกกว่า 100 เมตร พบว่าศพของนายธีรยุทธ ชูแก้ว และนายณัฐพล อยู่ที่ก้นเหว แพทย์ อัยการ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ต้องใช้เชือกโรยตัวลงไป ชันสูตรพลิกศพ พบว่าศพของนายธีรยุทธ ถูกยิงที่ศรีษะและเบ้าตาซ้าย ตามลำตัว กระสุนหลายขนาด ฝังในลำตัวหลายนัด ที่ตัวยังคงกอด อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 กระสุนเต็มแมกกาซีน แต่ภายในลำกล้องเต็มไปด้วยโคลน 

ส่วนศพของนายณัฐพล มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัว หลายนัด ในมือขวากำปืนขนาด 9 มม.ไว้แน่น จึงให้หน่วยกู้ภัยเขาทะลุ ช่วยกันลำเลียงขึ้นจากก้นเหวด้วยความยากลำบาก นำส่ง รพ.สวี เพื่อชันสูตรอย่างละเอียด และต้องส่งไปยัง รพ.สุราษฏร์ เพื่อชันสูตรในแผนกนิติเวชอย่างชัดเจนอีกครั้ง ส่วนในที่เกิดเหตุยังพบลูกระเบิดสังหาร เอ็ม26 หล่นอยู่ข้างบ้าน 2ลูก ปืนขนาด 9 มม.1กระบอก และที่ตีนบันไดบ้านพบยาเสพติดในถุงสีน้ำเงินอีก 1ซอง รวมถึงพบแมกกาซีน ใส่กระสุนเอ็ม 16 อีก 3 แมกซ์ กระสุนเต็มทุกแมกซ์   

พล.ต.ต.ถาวร เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจาก พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เยี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ว่ามีคนร้ายรายสำคัญของ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่เป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก เข้ามากบดานอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.เขาค่าย จึงส่ง พ.ต.อ.เทพพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8ตร.ชุดสืบภาค8 เข้ามาประสานกับชุดสืบสวน สภ.นาสัก พบว่า นายธีรยุทธ พร้อมด้วยนายเอกนันท์ พึ่งก่อเหตุ ยิงใส่ตำรวจ สภ.นาสัก ที่ตั้งด่านตรวจยาเสพติดเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีขึ้นไปกบดานบนยอดภูเขา 

จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันที่ 20 พ.ค.64 ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าคนร้ายทั้ง 2 คน กลับขึ้นที่บ้านพักที่ใช้กบดาน ตำรวจร่วม 10 นาย ได้วางแผนเดินเท้าขึ้นไปล้อมบ้านของคนร้าย แต่คนร้ายไหวตัว นายธีรยุทธ คว้าปืนสั้น และ อาวุธสงคราม เอ็ม 16 แล้วยิงเปิดทางใส่ตำรวจ วิ่งกระโดดลงจากบ้านลงไปในเหว พร้อมด้วยนายเอกนันท์ คว้าปืน 9 มม.กระโดดตามลูกพี่ลงไป และมีนายเอกนันท์ พันธุมาศ วิ่งหลบหนีลงไปในเหวลึก แต่เกิดขาหักล้มลงร้องโอดโอย ส่วนคนร้ายทั้ง 2 เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจที่ล้อมอยู่แล้วระดมยิงใส่ 2 คนร้าย จนเสียงปืนเงียบเข้าไปพบว่าคนร้ายทั้ง 2 เสียชีวิต จึงแจ้ง จนท.หน่วยต่างเข้าไปทำการพลิกศพ 

ผบก.ภ.จวชุมพร กล่าวต่อไปว่า นายธีรยุทธหรือ ไอ้มุ่ย จอมโจรร้ายชื่อดัง มือปืนเบอร์ 1 ของภาคใต้ มีประวัติฆ่าคนมาอย่างโชกโชน ในพื้น จ.นครศรีธรรมราช ยังมีหมายจับคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา 4 หมาย หมายจับคดี แหกคุกเรือนจำนครศรีธรรมราช หมายจับคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และประวัติการก่ออาชญากรรมมากมาย  เมื่อหลบหนีมาได้มีเมียเป็นพนักงานขายรถยนต์บริษัทดังใน จ.ชุมพร ได้อาศัยพื้นที่สวนทุเรียนและบ้านบนสวนของเมียเป็นที่กบดาน และมีนายณัฐพลมาเป็นลูกสมุน เริ่มหัดออกอาละวาดยิงปืนในหมู่บ้านจนเป็นที่หวาดกลัว รวมถึงพัวพันกับยาเสพติด แต่ตำรวจยังไม่ผลีผลามเข้าจับกุม เนื่องจากคนร้ายมีทั้งอาวุธสงคราม ลูกระเบิด จนกระทั่งได้รับการประสานงานจาก ตำรวจสืบสวน ภาค 8 มาร่วมวางแผนจับกุม จนนำสู่การวิสามัญมาตกรรมในครั้งนี้