วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
8 ธันวาคม 2568 ความคืบหน้ากรณี นายอัษฎาง โสมแผ้ว หรือนุ อายุ 28 ปี ชาวบ้านจอมศรี หมู่ 13 ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม เสพยาบ้าจนหลอน และคิดไปว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงขอให้ตากับยายอยู่เป็นเพื่อนด้วย ขณะเดียวกันนายรุก สิงนวน หรือช่างรุก อายุ 42 ปี มีศักดิ์เป็นน้า ขับรถจะมากรีดยาง เจอหลานชายยืนเหน็บอีโต้ใต้รักแร้ เกรงพ่อแม่จะได้รับอันตราย จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 และได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.หนองบ่อ ช่วยมาระงับเหตุ จำนวน 3 นาย นายนุเห็นเจ้าหน้าที่ก็พยายามเดินหนีเข้าไปในสวนยาง ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ดักหน้าดักหลัง ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทั้งตายายคือนายเกรียม สิงนวน อายุ 68 ปี นางชา สิงนวน หรือยายอ้วน และนายรุก สิงนวน อายุ 42 ปี ผู้เป็นน้าชาย เห็นนายนุ เซถลาล้มลงตรงหน้าคอกหมู โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณเอวซ้าย กระสุนตุงที่เอวขวาขาดใจตายคาที่โดยหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

หลังเกิดเหตุญาติคาใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจชุดสายตรวจทั้ง 3 นาย เพราะผู้เสียชีวิตไม่มีอาการต่อสู้ขัดขืน เหตุที่เดินหนีเพราะกลัวถูกจับกุม รวมทั้งก่อนหน้านี้เขามีอาการหลานยา ก็หูแว่วตาฝาดบอกตากับยายว่าคนเยอะ จึงให้ทั้งสองไปนั่งอยู่ใกล้ๆเป็นเพื่อน
ในขณะที่ตำรวจสายตรวจ สภ.หนองบ่อ เข้าระงับเหตุก็ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ นอกจากอาวุธปืนที่เอว พอหลังเกิดเหตุห้ามทุกคนถ่ายภาพ อ้างว่ามีกล้องแคมเมอราอยู่ที่หน้าอกเป็นหลักฐานอยู่แล้ว แต่กลับไปแจ้งกับพนักงานสอบสวน สภ.นาแก ว่า ผู้เสียชีวิตต่อสู้ขัดขืนจึงมีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงป้องกัน โดยทางญาติจึงเรียกร้องให้ทางตำรวจเปิดคลิปภาพในกล้องกันจะๆ หากนายนุต่อสู้ขัดขืนตามที่กล่าวอ้าง พร้อมน้อมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงขณะนี้ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากทางฝ่ายตำรวจทั้งสองโรงพัก
ต่อมา พ.ต.ท.สง่า อินทร์สาธร สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบ่อ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้นำพวงหรีดและเงินจำนวนหนึ่ง เป็นสินน้ำใจการจัดพิธีศพนายนุ พร้อมกล่าวคำขอโทษ แม้จะไม่ยอมรับตรงๆว่าลูกน้องทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งจะขอเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อเยียวยาในการสูญเสียครั้งนี้

โดยวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. พ.ต.ท.สง่า อินทร์สาธร สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบ่อ เดินทางมาพร้อมกับตำรวจจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีตำรวจคู่กรณี เพราะไม่ต้องการให้มาประจันหน้ากับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งนางชาผู้เป็นยายที่เลี้ยงดูนายนุมาแต่เกิด ให้เหตุผลว่าหลานชายที่เสียชีวิต ถือเป็นเสาหลักกรีดยางในสวนจำนวน 12 ไร่ ขายได้เดือนละประมาณ 30,000 บาท เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว จึงคำนวณจากอายุผู้ตาย 28 ปี ถึง 60 ปี ถ้ายังมีเสียชีวิตอยู่ จะหาเงินให้ยายได้ประมาณ 1.7 ล้านบาท จึงขอให้คู่กรณีทั้ง 3 นาย เยียวยาในจำนวนดังกล่าว ซึ่งผลการเจรจายังไม่เป็นที่ยุติ ทางตำรวจขอกลับไปหารือกันใหม่ แล้วจะให้คำตอบอีกครั้ง
ส่วนทางด้านคดียังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจ 3 นาย และพ.ต.ท.สง่า อินทร์สาธร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า การมอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต ไม่ใช่เป็นการยอมรับผิด แต่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี