วันนี้ 11 ก.ค.56 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือพระวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ขณะนี้ทาง พ.ต.ท.เอกพงษ์ พลมณี รอง ผกก.3 บก.ป.และพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ได้ลงพื้นที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งจะมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังสอบปากคำไปแล้วบางส่วน เช่น นางลอน มนัส เจ้าของที่ดินที่เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ขันติธรรม และหญิงสาวที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลวงปู่เณรคำ

พ.ต.อ.วรวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทาง พ.ต.ท.สวิก นุชเจริญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.3 บก.ป.ได้เข้าพบพระราชธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดมณีวราราม เจ้าคณะ จ.อุบลราชธานี เพื่อสอบถามกรณีต้งสังกัดของหลวงปู่เณรคำ ว่าสังกัดอยู่วัดไหน ถ้าไม่มีสังกัดจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า หากภายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ หลวงปู่เณรคำ ยังไม่เข้าชี้แจง ทางเจ้าคณะจังหวัดก็จะทำหนังสือแจ้งไปยังพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่เณรคำ ที่วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พิจารณาให้หลวงปู่เณรคำ อีกครั้ง หลังจากถูกขับพ้นสังกัดแล้ว และหากยังไม่มีต้นสังกัดใหม่ ก็จะถือว่าหลวงปู่เณรคำ เป็นพระเร่ร่อน จากนั้นก็จะพิจารณาสั่งให้ลาสิขาบท ต่อไป โดยขั้นตอนนั้นให้มีการทำหนังสือรายงานใหทราบด้วย

ผกก.3 บก.ป.กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่กำลังมีการตรวจสอบเกี่ยวกับทอง ที่มีการรับบริจาคไว้เป็นจำนวนมากถึง 8,000 กิโลกรัม นั้น ได้รับรายงานว่า ภายหลังตรวจสอบหลักฐานเอกสารที่ตรวจค้นได้ พบว่า ทองคำดังกล่าวมีการนำไปฝากไว้ที่ร้านทองหลายแห่งใน จ.อุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนจะมีปริมาณเท่าใด ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบต่อไป และขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมสอบสวนขยายผลว่า ปริมาณทองคำทั้งหมดเป็นของใคร และมีใครเป็นผู้นำมาฝาก รวมทั้งมีปริมาณเท่าใดกันแน่