“จาตุรนต์” เล็งส่งออกผู้บริหารศธ.มีโอกาสเติบโตข้ามห้วย...เหตุผลในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ในส่วนของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ (ก.พ.ร.) ที่รับโอนมาเป็นเลขาธิการ (กกอ.) นั้น รัฐบาล เป็นผู้เสนอชื่อมาให้ศธ.รับโอน เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงานด้านอุดมศึกษา เนื่องจากเคยเป็นผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยเป็นรองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้ามาก่อน “ที่ผ่านมา ศธ. มีปัญหาว่าจะต้องรับผู้บริหารจากหน่วยงานอื่นมาตลอด ทำให้คนใน ศธ.เองหมดโอกาสที่จะเติบโต ผมจึงคุยกับนายกฯ ว่า ในอนาคตขอให้ดูแลข้าราชการของศธ.บ้าง โดยอาจส่งออกไปเติบโตที่หน่วยงานภายนอก” รมว.ศธ.กล่าว แล้วจะเติบโตข้ามห้วยไปไหนได้ครับ..ฉัตรเสมายังคิดไม่ออก...
“จาตุรนต์” เสนอเกลี่ยครูเกิน-ช่วยครูขาด...“ผมมีข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหาครูเกินและครูขาด คือ การตัดโอนอัตราจากโรงเรียนที่มีครูเกิน ไปยังโรงเรียนที่มีครูขาด เป็นการบังคับโดยอัตโนมัติให้ครูต้องย้ายตามอัตราไปในโรงเรียนที่ขาดครู แต่ก็ยังไม่เป็นข้อยุติ ต้องรอให้ ก.ค.ศ.ไปศึกษารายละเอียดก่อน ขณะเดียวกันจะให้ศึกษาหลักเกณฑ์การโยกย้ายในภาพรวมด้วย ซึ่งผมได้ให้นโยบายว่า ต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ในการจัดการศึกษาเป็นหลัก เช่นเดียวกับเกณฑ์พิจารณาความดีความชอบ ต้องเป็นไปตามผลการปฏิบัติงานจริงของครู” นายจาตุรนต์ กล่าว...แล้วสรุปว่าเกลี่ยก่อนแล้วให้ต่ออายุราชการไปอีกถึง 70 ปีเลยหรือ? ตกลงว่าเด็กจบมหา’ลัยด้านครูตกงานแน่นอนใช่ไหมครับท่าน...
ชี้เด็กไทยวิกฤติ “ตกงาน” เพียบเหตุความสามารถทางภาษาน้อย...“ผมเห็นด้วยและถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่บริษัทหรือสถานประกอบการออกมากำหนดคุณลักษณะพิเศษในการคัดเลือกเด็กเข้า ทำงาน ที่ว่าเด็กจะต้องมีความสามารถในหลายภาษา เด็กจะได้รู้ว่าจะมาเรียนไปเรื่อยๆ รู้ภาษาเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้อีกต่อไป และจะต้องเร่งเตรียมตัวด้านภาษา ให้กับตัวเองมากขึ้น และไม่ใช่จะมารอให้มหาวิทยาลัยป้อนให้ เพราะโตแล้ว และช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด” รศ.นพ.กำจร กล่าว...ฟังท่านรองเลขาสกอ.กล่าวนี่ก็เรียนจบตกงานแน่...สรุปว่าทิศทางที่เรียนแล้วไม่ตกงานไปทางไหนครับช่วยชี้ทางสว่างให้หน่อยครับ
วงหารือ 3 ฝ่ายเคาะไม่ย้ายอุเทนฯ เสนอทำแผนศึกษาร่วมกับจุฬาฯ...ปัญหาที่ดินอุเทนฯ-จุฬาฯ อาจจบสวย หลังวงหารือร่วมเห็นพ้องให้อยู่ต่อ แต่ต้องพัฒนา พร้อมเล็งเปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันใหม่ เบื้องต้นให้ทั้ง 2 ร่วมทำแผนจัดการศึกษาตนได้เชิญ นายสืบพงศ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯวิทยาเขตอุเทนถวาย, ม.ร.ว.กัลยา ติงศภัทิย์ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับกรณีจุฬาฯ ขอคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากอุเทนถวาย โดยเสนอทางเลือกให้ทั้งจุฬาฯ และอุเทนถวาย ใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวจัดการศึกษาร่วมกัน ให้เป็นสถาบันใหม่ที่มีชื่อว่า “อุเทนถวายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เน้นการเรียนการสอนทางด้านช่างฝีมือ ซึ่งขณะนี้เป็นสาขาที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการ...รศ.นพ.กำจร กล่าว...จบเสียทีก็ดีครับท่านทุกฝ่ายจะได้สบายใจ
ฉัตรเสมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี