วันอาทิตย์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556, 11.26 น.
27 ต.ค.56 ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชิดชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้ที่เราประเมินไว้ว่า ประมาณวันที่ 29 - 30 ต.ค.56 มวลน้ำที่ไหลจากท้ายเขื่อนลำตะคอง จากตัวเมืองไปตามลำน้ำลำคะคอง ที่ไปรวมกับมวลน้ำที่ไหลมาจากคลองลำน้ำมูล เป็นน้ำที่ล้นสปิลเวย์จากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย , เขื่อนลำมูลบน - เขื่อนลำแชะ อ.ครบรี ไหลลงพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ทำให้เกิดอุทกภัย และปริมาณน้ำได้ลดลงแล้ว เหลือที่มีปัญหาอยู่ตามริมตลิ่งน้ำนน้ำมูลระดับน้ำ 50 - 60 ซม.ขณะนี้น้ำเริ่มไหลถึงพื้นที่เขต อ.พิมาย แล้ว มวลน้ำจะสูงสุดเพิ่มอีกไม่เกิน 30 ซม.ซึ่งน่าจะเป็นไปตามนี้ไม่น่าจะเกินอีก 30 ซม.
โดย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับสั่งการในพื้นที่ให้เราดูแลพี่น้องประชาชนเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย และอุทยานประวัติศาสตร์ ปราสาทหินพิมาย ไม่ให้มวลน้ำเข้าท่วมได้เด็ดขาด ซึ่ง นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม นำบิ๊กแบ็คมาช่วยทำเป็นผนังกั้นน้ำ ฉะนั้นระดับน้ำหรือมวลน้ำที่มาถึงสูงสุดในช่วง 2 วันดังกล่าว เราเทียบกับระดับน้ำสูงสุดเมื่อปี 2553 ว่าเป็นอย่างไร สูงขนาดไหน เราก็กั้นระดับเดียวกันกับปี 2553
โบราณสถานเก่าแก่อย่างปราสาทหินพิมาย และพิพิธภัณฆสถานแห่งชาติที่จะต้องป้องกั้นน้ำท่วม การมีผนังกั้นน้ำจะสามารถป้องกันได้ 100% หรือไม่ นายชิดชนก กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ตัวบิ๊กแบ็คที่ไปตั้งจะตั้งเรียงเป็นแนวตามตลิ่งริมลำน้ำจักราช ตัวบิ๊กแบ็คสูง 1.20 เมตร เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งสูงแล้วเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะปราสาทหินพิมาย แต่ในส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จะอยู่ริมน้ำมูล โดยส่วนนั้นเราใช้กระสอบทรายถึงสองชั้น โดยตั้งไว้ในเกณฑ์จากตลิ่งสูง 1.50 เมตร
ตนอยากเรียนไปยังพี่น้องประชาชนเรื่องน้ำลำตะคองขอรับอง และยืนยัน 100% ว่า เขื่อนลำตะคองไม่ได้ปล่อยระบายน้ำออกมาจากอ่างเก็บน้ำลำตะคองแน่นอน และขณะนี้เราเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งข้างหน้านี้ได้แล้วกว่า 93% ส่วนสถานการณ์อีก 4 เขื่อน ประกอบด้วย เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย , เขื่อนลำมูลบน - เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง สถานการณ์เริ่มปลอดภัยแล้ว
ขณะนี้เมื่อมีสภาพอากาศหนาวเย็นมาแล้ว สภาพการฝนตกหรือฝนตกหนักจะไม่มีแล้ว ฉะนั้นในส่วนล้นของเขื่อนเป็นการล้นออกมาเอง ซึ่งในส่วนที่เป็นสปิลเวย์จะเป็นตัวที่ทำให้ให้ล้นเองโดยอัตโนมัติ เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทั้ง 4 เขื่อน ขณะนี้ลดลงตลอดเวลา โดยวันที่ 29 และ 30 ตุลาคม 2556 น้ำจะพีดสูงสุดที่ อ.พิมาย หลังจากนั้น อ.พิมาย จะลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ หลังจากนั้นในเกณฑ์ประมาณ 5 วัน ก็จะเข้าสู่ภาวะปรกติ น้ำก็จะไหลต่อไปยัง อ.ชุมพวง ไปยัง จ.บุรีรัมย์ ต่อไป ตอนนี้อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ ปกติประชาชนจะทราบดีว่าจะปรากฏน้ำท่วมอยู่แล้ว แต่สำหรับปีนี้อาจจะสูงกว่าเดิมประมาณ 20 - 30 ซม.ซึ่งขณะนี้เราเฝ้าดูแลสถานการณือย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเต็มที่ตลอด 24 ชม.
สถานการณ์น้ำท่วม อ.พิมาย ระดับน้ำที่ท่วมตามสถานที่ราชการ ฝั่งที่ลุ่มของลำน้ำลำจักราช ลำน้ำแข่งเรือพิมาย เช่น ด้านหน้า สถานีตำรวจ , ที่ว่าการอำเภอ , สำนักงานที่ดินอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , กศน. , ที่ทำการ อบต.ในเมือง น้ำท่วม 50 - 60 ซม.ส่วนด้านหลังระดับสูงถึง 1 - 1.20 เมตร ส่วนบริเวณตลาดพิมายเมืองใหม่ ระดับน้ำจากเดิมที่ลดลง แต่ตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงขณะนี้น้ำเริ่มท่วมเพิ่มขึ้น 50 - 60 ซม.ท่วมสถานที่สำคัญ เช่น บ้านเอื้ออาทร จำนวน 829 หลังคาเรือน , สถานีขนส่ง , สำนักงานขนส่งอำเภอพิมาย และภายในพื้นที่เดียวกันบริเวณร้านค้า , ร้านโซห่วย , ร้านทอง ต่างรับมือล่วงหน้าไว้แล้ว โดยต้องช่วยเหลือตัวเอง มีการนำอิฐบล็อคก่อปูนกั้นไม่ให้นำทะลักเข้าท่วม รวมทั้งในกระสอบทรายกั้น
ขณะที่ในส่วนด้านฝั่งลำน้ำมูลน้ำเพิ่ม 10 ซม.จนระดับน้ำบริเวณเขื่อนพิมายเริ่มปริ่มคอสะพาน ส่วนริมตลิ่งระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นบ้างแล้วประมาณ 5 - 10 ซม.และเริ่มค่อยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่มีแนวกั้นของกระสอบทรายขวางไว้ จึงยังไม่เข้าท่วมพื้นที่สำคัญ ส่วนพื้นที่รอบนอกตัว อ.พิมาย รวม 10 ตำบล น้ำได้ท่วมเต็มพื้นที่แล้ว เช่น ต.ในเมือง , ต.ทุ่งสัมฤทธิ์ , ต.ชีวาน , ต.ท่าหลวง , ต.ธารละหลอด , ต.โบสถ์ , ต.ดงใหญ่ เป็นต้น โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 80 - 100 ซม.บางจุดโดยเฉพาะในทุ่งนาระดับน้ำสูง 1.20 - 2 เมตร เช่น ต.ในเมือง หมู่ 16 ด้านหลังคลองชลประทาน นาข้าวเสียหายยับเยิน น้ำท่วมต้นข้าวหมด ซึ่งส่วนใหญ่ที่ถูกน้ำท่วมขังจะเป็นพื้นที่ลุ่ม เสียหายมากที่สุดคือไร่นาที่กำลังตั้งท้อง ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ในเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
นายสุขดี บุญลำพู เกษตรอำเภอพิมาย กล่าวว่า ได้รับแจ้งน้ำท่วมนาข้าว 2 ตำบล มี ต.ในเมืองและ ต.รังกาใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับแจ้งความเสียหาย เพราะต้องประเมินดูระยะเวลาที่น้ำท่วมเสียก่อนว่าน้ำจะท่วมนานแค่ไหน ในเมื่อเสียหายจริงๆ จะต้องมีเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบอีกครั้ง ต้องรอดูสถานการณ์น้ำว่าจะไหลเข้ามาเพิ่มอีกต่อเนื่องหรือไม่