29 ต.ค.56 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอดิเรก วัฒนาอุดมชัย โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ร.ศ.จิระพันธ์ ห้วยแสง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ ได้เข้าตรวจสอบปัญหาการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 9 ชั้น พร้อมอาคารเอนกประสงค์ 3 ชั้น งบประมาณ 282,850,000 บาท ซึ่งก่อสร้างโดย บริษัท วี.สถาปัตย์ จำกัด แต่เมื่อวานนี้ระหว่างเทพื้นชั้น 6 ก็เกิดพังถล่มลงมา และมีคนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ 2 คน แต่โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต
การตรวจสอบวันนี้ ทางผู้รับเหมายังคงปล่อยให้คนงานก่อสร้างทำงานตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยคนงาน 90 คน ยังคงทำการฉาบพื้น เทปูนตามปกติ โดยมี นายประสิทธิชัย ปกครอง วิศวกรของ บริษัท วี.สถาปัตย์ จำกัด ได้แสดงตัวให้ข้อมูลกับผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งแต่พื้นดินไปจนถึงชั้น 5 ที่มีปัญหาการพังถล่มลงมาของน้ำปูน ซึ่งได้พบโครงเหล็ก ลวดสริง ขาดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
นายอดิเรก วัฒนาอุดมชัย โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบด้วยตาเปล่า สาเหตุคาดว่าเกิดจากวัสดุในการเทพื้นอาคารไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาคารหลังนี้ตัวพื้นอาคารจะเป็นการเทแบบโพเทนชั่น หรือการเทพื้นทั้งแผ่นด้วยการขึงสริง ที่นิยมทั่วไป แต่หากวัสดุรองรับน้ำหนักไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้น้ำปูนที่มีน้ำหนักกว่า 26 ตัน ในแต่ละชั้น พังลงมา โดยในชั้นนี้ สังเกตได้จากวัสดุที่ใช้รองพื้นเพื่อเทคาน และโดยเฉพาะเสาค้ำยันแผ่นเหล็ก หลายตัวมีการดีดตัวและอีกหลายตัวเหล็กรองพื้นก็ไม่เสมอกับพื้นปูน ซึ่งเหมือนกับว่าไม่มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีความเสี่ยงที่จะพังลงมาก่อนที่จะทำการขึงสริงด้วยซ้ำไป ดังนั้น ในระหว่างนี้ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะทำการตั้งกรรมการตรวจสอบตัวอาคารสูง ตั้งแต่ฐานราก เพื่อสรุปผลให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป
ขณะที่ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัด กล่าวว่า ปัญหานี้ถือเป็นความมักง่ายของผู้รับเหมา มีการใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นของเก่า ในส่วนของทางจังหวัด ก็จะตั้งกรรมการเข้าตรวจสอบที่เป็นเอกเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษาฯ ซึ่งเค้าเรียกว่า คณะกรรมการสามัญฯ ที่จะมีหน้าที่ในการตรวจสอบหากเกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณกว่า 282 ล้านบาท เป็นงบที่ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในกรณีพิเศษฯ ซึ่งในส่วนพื้นที่ทางมหาวิทยาลัยฯ จะสามารถทำการก่อสร้างได้ทันที โดยไม่ต้องขออนุญาตสำนักงานเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงหากการบริหารการก่อสร้างเป็นไปด้วยความมักง่าย การตรวจสอบนอกจากโครงสร้างโดยคณะกรรมการสามัญฯ แล้ว ก็จะต้องตรวจสอบใบรายงานต่อตัววิศวกร ว่าได้เข้ามาดูการก่อสร้างหรือไม่ หรือเป็นเพียงการใช้ชื่อแต่ไม่เข้ามาดูงาน ซึ่งหากตรวจพบจะทำเรื่องสั่งพักใบอนุญาตวิศวกร ผู้ควบคุมงานก่อสร้างทันที หากพบผลสอบว่าเกิดจากการขาดความรับผิดชอบ โดยยืนยันว่าจะทำการตรวจสอบให้รัดกุมที่สุด เพราะอาคารแห่งนี้เป็นอาคารเรียนที่สูงถึง 9 ชั้น และจะต้องให้นักศึกษาเข้าไปเรียนหนังสือ คณะครูก็ต้องเข้าไปใช้ แต่หากไม่มีความแข็งแรงจะมีปัญหาใหญ่ในอนาคต
ด้าน ร.ศ.จิระพันธ์ ห้วยแสง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฯ กล่าวว่า ปัญหานี้เชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุ เพราะเท่าที่ตรวจสอบดู ก็เป็นการพังทลายลงมา คงจะเกิดจากปัญหาหลายอย่าง และในขณะนี้การก่อสร้างได้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 30 - 40% มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วประมาณ 50 - 60 ล้านบาท ในงวดที่ 7 ส่วน งวดที่ 8 ก่อนที่จะอนุมัติ ก็จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบจากทางจังหวัด จนเป็นที่พอใจเสียก่อน
ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า ภายหลังจากการตรวจสอบปัญหาแล้ว ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมกลุ่มผู้ควบคุมงานของมหาวิทยาลัยฯ 6 คน ประกอบด้วย ผศ.สุรินทร์ พงษ์สกุล , ผศ.ทรงเกียรติ ซาตัน , นายพัฒนา พึ่งพันธุ์ , ดร.วิริยะ แดงทน , นายพิสิษฐ์ ศรีน้อย และ น.ส.ปกิตตา ยอดสง่า เข้ามาสรุปผลเบื้องต้น หลังทางจังหวัดยังได้สั่งให้ผู้รับเหมา ทำการรื้อแผ่นพื้นชั้นที่ 6 ที่พังลงมาทั้งหมด เพื่อรอกระบวนการตรวจสอบความแข็งแรงของตัวอาคาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี