นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิตได้ประชุมหารือ เพื่อพิจารณาการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของเกษตรกรในการขอเพิ่มผลผลิตต่อไร่ของข้าวนาปี ในปีการผลิต 2556/57 เนื่องจากมีเกษตรกรในหลายจังหวัดได้แจ้งว่า ค่าเฉลี่ยผลผลิตต่อไร่ที่ใช้อ้างอิงในหลายพื้นที่ ต่ำกว่าที่เกษตรกรเพาะปลูกได้จริง ทำให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยที่กำหนด ทำให้ไม่สามารถนำข้าวเปลือกส่วนที่เกินกว่าค่าเฉลี่ยมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้ เช่น บางพื้นที่กำหนดค่าเฉลี่ยผลผลิตไว้ที่ 600 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้จริง 800 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งจะรับจำนำข้าวเปลือกได้ไม่หมด ทำให้เกษตรกรต้องนำข้าวที่เหลือไปขายนอกโครงการรับจำนำข้าวเปลือกซึ่งได้ราคาต่ำกว่า
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้มีการหารือในที่ประชุม โดยเห็นสมควรให้พิจารณาทบทวนค่าเฉลี่ยผลผลิตใหม่ แต่เนื่องจากต้องมีการเก็บตัวอย่างและข้อมูลเป็นรายแปลงและใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงไม่สามารถคิดค่าเฉลี่ยผลผลิตได้ทันในปีฤดูกาลผลิตข้าวนาปี ปี 2556/57 นี้ โดยได้เสนอให้คิดค่าเฉลี่ยผลผลิตใหม่ในฤดูถัดไป
นายวราเทพกล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต จะได้เสนอแนวทางให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาชดเชยให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวได้ผลผลิตมากกว่าค่าผลผลิตเฉลี่ยที่กำหนดซึ่งไม่สามารถนำข้าวมาจำนำ ให้ได้รับการชดเชยในลักษณะเช่นเดียวกับที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาให้เกษตรกรที่รับจำนำข้าวเปลือกไม่ทันในวันที่ 15 กันยายน 2556 โดยชดเชยประมาณ 2,000 กว่าบาทต่อตัน ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยผลผลิตส่วนเกินจะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำ ซึ่งปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำในฤดูกาลนี้ จำนวน 11 ล้านตัน คาดว่าผลผลิตส่วนเกินจะอยู่ที่ 1.2-1.5 ล้านตัน ใช้วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยมติที่ประชุมดังกล่าวจะนำเสนอต่อ กขช. เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับค่าเฉลี่ยผลผลิตของพันธุ์ข้าวในรายจังหวัดมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยที่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ปี 2556/57 ที่ความชื้น 15% แยกเป็นกลุ่มพันธุ์ข้าวเป็นดังนี้ ข้าวหอมมะลิ มีค่าเฉลี่ยในเขตชลประทาน 423 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 369 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวเจ้าหอมจังหวัด ในเขตชลประทาน 574 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 463 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวเจ้าปทุมธานี 1 ในเขตชลประทาน 768 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 627 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนข้าวเจ้าอื่นๆ ในเขตชลประทาน 632 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 514 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนข้าวเหนียว ในเขตชลประทาน 501 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 384 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนค่าผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่รวมทั้งประเทศที่ความชื้น 15% ในเขตชลประทานอยู่ที่ 595 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 410 กิโลกรัมต่อไร่
ส่วนความก้าวหน้าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2556/57 นั้น ขณะนี้มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนแล้ว 2,814,864 ราย เกษตรกรผ่านการประชาคม 2,355,402 ราย คิดเป็นร้อยละ 83 ของเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียน และได้ออกใบรับรองให้เกษตรกรแล้ว 2,002,285 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 85 ของการทำการประชาคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี