เป็นที่ยอมรับกันอย่างถ้วนหน้าว่า กรุงเทพมหานครมีพื้นที่จำกัดอันเนื่องมาจากการขยายตัวของประชากร และความเจริญทางด้านวัตถุเพิ่มมากขึ้นจนยากที่จะหยุดยั้งแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาต่างๆ ตามติดออกมา
ปัญหาหนึ่งของคนเมืองในปัจจุบันอันเกิดจากความจำกัดของพื้นที่คือ ผู้อยู่อาศัย มีชีวิตที่ปราศจาก “สุขภาวะ” ที่ประกอบด้วยขาดพื้นที่ในการออกกำลังกาย,ขาดพื้นที่ในการทำกิจกรรมเล็กๆ เพื่อสร้างสุขภาพใจ อาทิ การทำแปลงปลูกผัก การหาที่พักผ่อนหย่อนใจเล็กๆ เพื่อคลายความเครียดที่เกิดจากการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของชีวิตในเมืองหลวง
เป็นที่น่ายินดีว่า เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน (ศวพช.) มหาวิทยาลัยสยาม และชุมชนเลิศสุขสม สำนักงานเขตภาษีเจริญ จัดงานพิธีเปิด “พื้นที่สุขภาวะชุมชนเลิศสุขสม” บริเวณใต้สะพานคลองบางขี้แก้ง ถ.พุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร โดยพื้นที่นี้เป็น 1 ใน 7 พื้นที่นำร่อง เพื่อพัฒนาพื้นที่สุขภาวะในเขตภาษีเจริญ
อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การสร้างพื้นที่สุขภาวะ จะส่งผลต่อการเกิดพฤติกรรมทางสุขภาพที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในทุกมิติ ทั้งสุขภาวะทางกาย เช่น ทำให้เกิดการลดละเลิกสิ่งเสพติดของมึนเมา ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดภาวะเครียด และเพิ่มพัฒนาการเด็กและเยาวชน ให้มีพื้นที่ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพิ่มการเรียนรู้ และสร้างความเป็นชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยปัจจุบันปัญหาของเมืองใหญ่ คือ ขาดการตัดสินใจในการจัดการพื้นที่ร่วมกัน
อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ พูดถึงเรื่องนี้ ว่า “การวางแผนและบริหารจัดการองค์ประกอบทางกายภาพ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสุขภาวะให้กับเมือง เรื่องสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อสุขภาวะของประชาชน เพราะหากมีสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดีก็จะส่งผลให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีตามไปด้วย”
เช่นเดียวกับ นางอารมณ์ ยมทอง ประธานชุมชนเลิศสุขสม กล่าวว่า ชุมชนเลิศสุขสม ถูกแบ่งแยกเป็นสองฝั่งมาเนิ่นนานนับสิบปี นับตั้งแต่ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ตัดผ่าน จนทำให้สายสัมพันธ์ของชาวบ้านไม่แนบแน่นดังเดิม ขณะที่บริเวณดังกล่าวก็กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม เต็มไปด้วยขยะมูลฝอย น้ำคลำ และป่ารก เสี่ยงต่อการเป็นพื้นที่ก่ออาชญากรรม
นางอารมณ์ บอกอีกว่า การพัฒนาพื้นที่นี้ เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะเป็นบริเวณใต้สะพาน การนำเครื่องจักรมาปรับพื้นที่ไม่สะดวกต้องใช้แรงงานและความร่วมด้วยช่วยกันของชาวบ้าน ซึ่งมีการปรับปรุงพื้นที่โดยปลูกต้นไม้ให้สวยงามกลางคืนก็มีการเปิดไฟให้แสงสว่างเพื่อความปลอดภัย และส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายโดยการนำโต๊ะปิงปองมาติดตั้งไว้ให้ประชาชน 2 ฝั่งชุมชนได้มาออกกำลังกาย ขณะที่คนสูงอายุก็จะออกมาใช้พื้นที่นั่งพูดคุย ทำให้คน 2 ฝั่งได้กลับมามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอีกครั้ง ซึ่งการมีพื้นที่แบบนี้จะช่วยให้ชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน ปราศจากเรื่องยาเสพติด รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี และยังพยายามเน้นการทำงานกับเยาวชนเพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของเราที่จะมาดูแลชุมชนในอนาคตต่อไป
ดร.กุลธิดา จันทร์เจริญ ผู้อำนวยการ ศว.พช. กล่าวว่าการจัดการพื้นที่สุขภาวะ” (Healthy Space) คือ ทำให้เกิดพื้นที่ความสุขของคนในชุมชน โดยปรับพื้นที่รองรับกิจกรรมทางกาย ด้วยวิถีของชุมชนเช่น เพิ่มพื้นที่ปลูกผัก ปรับภูมิทัศน์ให้หน้าบ้านน่ามอง เพิ่มการจัดการขยะ โดยการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่สุขภาวะใน 1 ปีที่ผ่านมา ได้ระดมความร่วมมือจากชุมชนที่ตระหนักถึงปัญหาและข้อจำกัดเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นลักษณะปัญหาของคนเมืองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความเจริญเชิงโครงสร้างในแบบที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ สำหรับในพื้นที่ชุมชนเลิศสุขสม มีบ้านเรือนริมคลองที่ล้อมรอบไปด้วยสวนผลไม้นานาพันธุ์เมื่อเลิกอาชีพทำสวนออกไปทำงานในเมือง วิถีชีวิตการปลูกผัก ทำสวน ก็หายไปด้วย จึงได้นำนวัตกรรมจักรยานปั่นน้ำ ด้วยการออกแบบพื้นที่ปลูกผักที่ใช้วิธีรดน้ำผักด้วยการปั่นจักรยาน แรงปั่นจะไปช่วยผลักดันน้ำให้รดน้ำผัก ได้ปลูกผักและได้ออกกำลังกายไปในตัว ซึ่งการแสวงหาการออกกำลังกายภายใต้พื้นที่จำกัดจะต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมมาเป็นตัวช่วย พื้นที่สุขภาวะก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อสุขภาวะชุมชน ที่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างขวางก็สามารถสร้างได้ และเพียงไม่กี่ตารางเมตรนี่แหละ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น
แบบอย่างของการสร้างชุมชนสุขภาวะเช่นเดียวกับ ชุมชนเลิศสุขสม จึงน่าที่จะเป็น แม่แบบให้กับชุมชนอื่นๆ ได้จัดทำกันบ้าง
เพราะในอนาคตนอกเหนือจากสร้างสุขให้กับคนในชุมชนแล้วยังเตรียมที่จะพัฒนาต่อยอดปรับปรุงพื้นที่ออกแบบการท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ไม่ต้องไปหาดูที่อื่นไกลเพราะใกล้ๆ อย่างในกรุงเทพฯ ก็มี แถมยังสร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ชุมชนอื่นๆ อีกด้วย
จากพื้นที่รกร้าง มีทั้งขยะและน้ำเน่า การสัญจรที่ไม่ปลอดภัย ณ วันนี้ พื้นที่คลองบางขี้แก้งจึงได้เปลี่ยนแปลงเป็น “พื้นที่สุขภาวะ” ที่เป็นกุญแจสำคัญทำให้ผู้คนในชุมชนทั้งสองฟากฝั่งมีคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งกายและใจ
ปานมณี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี