สถานการณ์การเมืองทวีความเข้มข้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความเสียใจกับ โพสต์ทูเดย์ ที่ผู้สื่อข่าวในสังกัด “ สิทธิณี ห่วงนาค” ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด ณ ที่ชุมนุมของ กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ขอให้หายในเร็ววัน...ไม่ทราบว่าจะฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งจับมือระเบิดมาลงโทษได้หรือไม่..แต่จากแถลงการณ์ของ รองนายกรัฐมนตรี “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” และ พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถนนบรรทัดทอง ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพียงเล็กน้อย ก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร....
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กปปส. นำขบวนมาเยี่ยมเยียนหน่วยงานต่างๆ ย่านเกษตรกลางบางเขน รอบแรกเริ่มจาก กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอให้ประกาศหยุดงาน เรื่อยมาถึงกรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หลายหน่วยงานประกาศหยุดให้ตามคำขอ บางหน่วยงานไม่ประกาศหยุด แต่อนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์จะไปร่วมชุมนุมไปได้ตามอัธยาศัย...... กปปส. กลับมาอีกรอบหนึ่ง คราวนี้เอาจริง คล้องโซ่ประตูรั้วหยอดกาวลูกกุญแจ ตัดน้ำตัดไฟไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงานได้.....ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ เลยไปกรมทางหลวงชนบท..กลับมาสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ..หมดเวลาที่ กรมประมง...เดือดร้อน กรมประมง เพราะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา มิเช่นนั้นปลาเป็นพันๆ ตัว คงตายหมด....ฝากถึง กปปส. ด้วยว่า มาตรการนี้ต้องดูตามความเหมาะสม และต้องฟังคำชี้แจงของหน่วยงานด้วย ไม่เช่นนั้นท่านอาจเสียมวลชนได้.....
ในที่สุดชาวนาก็ทนไม่ได้กับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล... “ประสิทธิ์ บุญเฉย” นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ประกาศลั่นว่า ชาวนาส่วนใหญ่เดือดร้อนหนักเพราะยังไม่ได้รับเงินจากการนำข้าวเปลือกนาปีฤดูการผลิต 2556/2557 ไปจำนำ ทวงถามกระทรวงพาณิชย์บอกว่าไม่มีเงิน หากรัฐบาลรักษาการ ยังไม่เร่งแก้ไขชาวนาใน 26 จังหวัด จะรวมตัวกันปิดถนนประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ตอนนี้ชาวนาเดือดร้อนหนัก ไม่มีเงินไปซื้อปัจจัยการผลิตมาทำนา บางรายไม่มีเงินจ่ายค่าเช่านา....ถ้าปิดถนนแล้วยังไม่สำเร็จ อาจมารวมกับ กปปส. ในกรุงเทพ.....ถ้าถึงขั้นนั้นรัฐบาลจะหนาวยะเยือก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ควง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” และ มิสเตอร์ข้าว “วราเทพ รัตนากร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ เป็นงบผูกพันไว้แล้วก่อนที่จะมีการยุบสภา จึงยืนยันว่ามีเงินจ่ายให้กับเกษตรกรแน่นอน แต่รัฐบาลรักษาการจะใช้เงินได้ต้องให้ กกต. เห็นชอบก่อน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กกต. ......รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังบอกด้วยว่า หลังเลือกตั้งจะขายข้าวได้ตามปกติ และดีขึ้น เพราะรัฐบาลได้ทำการตลาดไว้แล้ว....ท่านพูดอย่างมั่นใจเหมือนกับว่ารัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาเป็นรัฐบาล ชุดต่อไปอย่างนั้นแหละ......
ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกตัวว่า แม้โครงการรับจำนำข้าวจะขาดทุนทางบัญชีแต่ถือว่าเป็นการชดเชยให้กับเกษตรกรและชาวนา เพื่อให้มีรายได้สูงขึ้น..ไม่ควรเป็นประเด็นในการโจมตีว่าสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ.....ท่านพูดแบบใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ ...ที่เขาโจมตี เขาโจมตีว่าคนในรัฐบาล และพวกพ้องได้ผลประโยชน์จากโครงการนี้จำนวนมหาศาล และเงินที่นำมาใช้ในโครงการก็ต้องไปกู้ยืมมา....เกษตรกรเป็นแค่เครื่องมือของการแสวงหาผลประโยชน์ต่างหาก....ถ้าขาดทุนเพื่อให้ชาวนามีรายได้จริงๆ ตัวเลขขาดทุนเป็นแสนล้านคงไม่มีรัฐบาลประเทศไหนเขาทำกัน...
นี่ยังไม่รวมถึงการขายข้าวแบบ รัฐบาลต่อรัฐบาล ที่ ป.ป.ช. ออกมาแถลงว่า ไม่มีการขายจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” และ “ภูมิ สารผล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกอีก 15 ราย พร้อมกับเตรียมไต่สวน นายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ทราบดีว่าเกิดความเสียหายแต่ไม่ยับยั้งไว้.....ผลจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม....
ป.ป.ช. อีกเหมือนกันที่ชี้มูลกรณีการทุจริตโครงการแปรรูปและการตลาดลำไยปี 2547 โดยระบุว่า อดีตรัฐมนตรีว่ากากรกระทรวงเกษตรฯ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ไม่ปรากฏว่ามีพยานหลักฐานว่ากระทำผิด อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ “บรรพต หงส์ทอง” มีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ส่วนผู้ที่ผิดวินัยร้ายแรงกลับเป็น ข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯ 7 ราย พนักงานของ อ.ต.ก. และ ธกส. 4 ราย เอกชน 11 ราย และ 1 ในข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ คือ ปลัดกระทรวงเกษตรท่านปัจจุบัน “ ชวลิต ชูขจร” ...แต่ท่านปลัดฯ ออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวน และสรุปไปแล้วว่าไม่มีความผิดให้ยุติเรื่อง ประกอบกับในปี 2550 ได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทิน ออกมา คดีนี้ก็เข้าข่ายล้างมลทินด้วยจึงไม่น่าจะมีอะไร.....ช่างโชคดีจริงๆ ท่านคงทำบุญมาเยอะ.....
“แว่นขยาย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี