สลด!!ม.5น้อยใจถูกยึดโทรศัพท์ ลั่นไกปลิดชีพพ่อแม่-ตัวเองดับ

สลด!!ม.5น้อยใจถูกยึดโทรศัพท์ ลั่นไกปลิดชีพพ่อแม่-ตัวเองดับ

วันอาทิตย์ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557, 20.19 น.
Tag :

วันที่ 9 มี.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสลดเมื่อนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ใช้อาวุธยิงตนเองและพ่อแม่เสียชีวิตคาบ้านพัก โดยเมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.ท.กิตตินันท์ ขันทะวงศ์ ร้อยเวร สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ 
 
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายภาณุวัตร ศรพรหม อายุ 44 ปี ทำงานอยู่กรมป่าไม้หัวหน้าหน่วยต้นน้ำจังหวัดน่าน นางเยาวลักษร์ ศรพรหม อายุ 41 ปี ภรรยา และห้องข้างๆ พบศพลูกชายวัย 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ข้างศพพบปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ตกอยู่บนที่นอน
 
จากการสอบสวนเพื่อนบ้านทราบว่า ได้ยินเสียงปืนดังเมื่อช่วงกลางดึก แต่ไม่ใครออกมาดู กระทั่งตอนเช้าไม่เห็นใครออกมาจากบ้าน ทั้งที่มีเสียงปืนดัง จึงเข้าไปตรวจสอบจนพบว่ามีการยิงกันตาย 3 ราย
 
ขณะที่บุตรชายคนโตของครอบครัว ให้การว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงหัวค่ำครอบครัว เพิ่งไปรับประทานอาหารร่วมกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปนอน กระทั่งรุ่งเช้าตนโทรศัพท์ไปที่บ้านแต่ไม่มีใครรับ จึงเดินทางไปที่บ้านของพ่อแม่พบว่า ประตูห้องนอนพ่อแม่ล็อค จึงไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยงัด กระทั่งพบว่าพ่อแม่และน้องชายเสียชีวิตแล้ว
 
ทั้งนี้ผู้คนก่อเหตุเป็นน้องชายของตน เนื่องจากน้องของตนมักคิดว่าพ่อแม่รักตนมากกว่า ประกอบก่อนหน้านี้น้องชายถูกยึดโทรศัพท์และตำหนิเรื่องผลการเรียน จึงตัดสินใจก่อเหตุสลดดังกล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top