ศอ.รส.สั่งถ่ายสดถกลต.ใหม่พรุ่งนี้ บี้ทุกหน่วยงานห้ามต้อนรับกปปส.
วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557, 14.05 น.
Tag :
ช21 เม.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา13.00น.ที่บช.ปส.พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลประชุมว่าที่ประชุม ศอ.รส. มีมติเห็นว่า เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารโดยตรง โดยไม่มีการบิดเบือนอันเป็นส่วนสำคัญ ที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย ศอ.รส. จึงเห็นสมควรให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือ NBT และช่อง 9 อสมท. จัดการถ่ายทอดสดการหารือการจัดเลือกตั้งใหม่ทดแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง กับผู้แทนพรรคการเมือง ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ โดยให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ประสานงานกับสำนักงาน กกต.และผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เพราะ ศอ.รส. ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การจัดการเลือกตั้งเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และโดยเฉพาะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะนำความสงบเรียบร้อยมาสู่ชาติบ้านเมืองในขณะนี้ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวง เลขาธิการ หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่เทียบเท่า เพื่อแจ้งมติของที่ประชุม ให้ทราบ และสั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า อธิบดีหรือเทียบเท่า ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินคดีอาญาและดำเนินคดีแพ่งโดยเร่งด่วนในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐ แล้วทำการปิดล้อม บุกรุก หรือข่มขู่ หรือทำให้เสียทรัพย์ รวมถึงให้หลีกเลี่ยงการต้อนรับหรือกระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายเป็นการสนับสนุนหรือเห็นด้วยกับการกระทำของแกนนำกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่มอื่นใด ซึ่งอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ ข้อสั่งการดังกล่าวของ ศอ.รส. เป็นไปตามอำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ทั้งนี้ ศอ.รส. ร่วมกับส่วนราชการได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการต่างๆ ที่ถูกปิดให้เริ่มเปิดทำการได้ถึง 70 แห่งแล้ว และมีหน่วยราชการเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก ปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐแล้วทั้งหมด 28 หน่วยงาน เป็นจำนวนทั้งสิ้น37 คดี
นอกจากนี้ทาง ศอ.รส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา คือ คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 191 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน 51 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน 140 คดี คดีเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 180 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน 66 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน 114 คดีรวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น 371 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น 203 หมาย ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 258 คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,713 คน