พนักงานกกต.ขวัญเสียกลัวถูกยุบ หลังประกาศคสช.งดลต.ท้องถิ่น
วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557, 19.00 น.
Tag :
16 ก.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 85และ 86/2557 ให้งดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานครไว้เป็นการชั่วคราวและให้ใช้การสรรหาแทนนั้น ทำให้ที่สำนักงานกกต.ในวันนี้บรรดา ข้าราชการพนักงานการเลือกตั้งต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ประกาศคสช.ที่ออกมาโดยแสดงความกังวลว่า ถือเป็นการส่งสัญญาณของคสช.หรือไม่ว่าต่อไปอาจจะมีการเสนอยุบกกต.หรือเปลี่ยนตัวองค์อำนาจของกกต.หรือไม่ รวมทั้งเชื่อว่าจะไม่มีการเลือกท้องถิ่นไปจนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งด้านบริหารเลือกตั้งก็ได้เสนอให้ที่ประชุมกกต.ได้รับทราบถึงประกาศคสช.ดังกล่าวแล้ว โดยทางสำนักงานฯยังเห็นว่าในกรณีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งและการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นที่ที่ค้างอยู่อีกกว่า 200 สำนวน กกต.ยังสามารถพิจารณาต่อไปให้แล้วเสร็จได้ และหากเห็นว่าสมควรต้องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็จะประสานไปยังกรมปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการสรรหาแทนตามประกาศคสช. ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.-31 ธ.ค.นี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระและกำลังจะครบวาระทั้งหมด 255 แห่ง โดยแบ่งเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 8 แห่ง เทศบาลตำบลจำนวน 157 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 86 แห่ง และกรุงเทพมหานครอีก 1 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่คณะทำงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของคสช.ที่มีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าคณะได้เชิญเลขาธิการกกต. และเจ้าหน้าที่ด้านการเลือกตั้งไปหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น แม้กกต.จะนำเสนอว่ากรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครบวาระแล้วไม่มีการจัดการเลือกตั้งนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องงบพัฒนาท้องถิ่น เพราะไม่มีสภามาพิจารณา แต่ทางคณะทำงานของคสช.ก็ได้มีความเห็นต่อกกต.ว่า น่าจะชะลอการเลือกตั้งท้องถิ่นไปก่อนเพราะหากเลือกตั้งก็จะได้ผู้บริหารที่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองระดับชาติอีก รวมถึงหากมีรัฐธรรมนูญและมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งฉบับใหม่ ซึ่งอาจจะมีการกำหนดที่มาของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นใหม่ ก็ต้องดำเนินการเพื่อให้ได้สมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นชุดใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด จึงอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ จึงทำให้ประกาศคสช.ที่ออกมาในกรณีดังกล่าว มีการวิเคราะห์กันเพิ่มเติมโดยเชื่อว่าเป็นความต้องการของคสช.ที่จะสลายขั้วการเมืองเพราะสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นก็ตามเป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองใหญ่ หากไม่มีการเลือกตั้งนักการเมือง และพรรคการเมืองก็จะหมดเวทีเล่น ขณะเดียวกันการกำหนดให้คณะกรรมการสรรหามาจากผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ รวมถึงผู้ที่จะได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องเป็นข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการไม่น้อยกว่าระดับ 8 ขึ้นไปนั้น ก็เป็นการดึงพรรคข้าราชการให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนก่อนการกระจายอำนาจ และมองว่าทำให้เมื่อถึงเวลาที่จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ก็ยากที่ฐานการเมืองของพรรคการเมืองใหญ่ชุดเก่าจะกลับเข้ามาได้