อุทธรณ์ยกฟ้อง‘แนวหน้า’
คดีเหลิมเมา
ขณะเจรจาไฟใต้ที่มาเลย์
ศาลชี้เสนอข่าวโดยสุจริต
‘ลูกวัน’ยืนยันพ่อไม่ป่วย
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ต่อนายเจะอามิง โตะตาหยง, บริษัทหนังสือพิมพ์แนวหน้า,นายโชคชัย สุมน ,บริษํทสารสู่อนาคตจำกัด,นายชูเกียรติ ยิ้มประเสริฐ เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ กรณี รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ไปเจรจาด้านการเมืองและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ที่ประเทศมาเลเซีย และมีพฤติกรรมคล้ายคนดื่มแอลกอฮอในวงสนทนา
คดีนี้มีต้นตอมาจากการให้สัมภาษณ์ของ นายเจะอามิง โตะตาหยง จำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่ง สส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ และนสพ.แนวหน้าได้นำคำสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1
มาลงตีพิมพ์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2556 โดยพาดหัวข่าวว่า “โจรใต้ซุ่มโจมตี ตร.ปชป.ชี้มุสลิมอัดเละ “เหลิม”เมาแอ๋ดับไฟใต้”สรุปใจความ ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้และมุสลิมทั่วโลก วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมความไม่เหมาะสมของ รตอ.เฉลิม ในการไปปฎิบัติภารกิจกล่าว ส่วนนายกรัฐมนตรีก็ถูกตำหนิว่าสอบไม่ผ่านในการบริหารงานบุคคล เอาคนที่ไม่ตั้งใจมาแก้ปัญหามาสร้างพฤติกรรมไม่เหมาะสมดื่มแอลกอฮอในวงสนทนา กับผู้นำมุสลิมโลก
ซึ่งข้อความคำสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1ถูกนำไปลงในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ที่ตกเป็นจำเลยด้วย โดยหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์พาดหัวข่าวว่า “แฉมุสลิมเอือม เฉลิมดวลไวน์เจรจาดับไฟใต้”
ประเด็นดังกล่าว รตอ.เฉลิม ในฐานะโจทอ้างว่า ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เพราะไม่ได้เป็นการติชมโดยสุจริต เพราะโจทก์ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ในระหว่างที่ร่วมวงสนทนากับผู้นำมุสลิมในประเทศมาเลเซีย ระหว่างเจรจาด้านการเมืองและแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ และโจทก์เองก็มีความตั้งใจแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ ขอให้ศาลลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328 และ83
ต่อศาลชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ได้มอบหมายอำนาจให้นายโอภาส สร้อยสน ทนายความดำเนินการแทน โดยยืนยันตามคำฟ้องจำเลยที่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก็ รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 และเรื่องที่จำเลยที่ 2 และ3 ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในข้อกฎหมาย ว่า พรบ.จดแจ้งการพิมพ์พ.ศ.2550 ไม่ได้บัญญัติให้เจ้าของหรือบรรณาธิการต้องรับผิดชอบทางอาญา อีกทั้งเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในฐานะสื่อมวลชนต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะจึงไม่มีความผิดชี้แจงของจำเลย จึงเห็นควรวินิจฉัยเป็นประการแรก และเมื่อปรากฎว่า จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ และจำเลยที่ 5 เป็นบรรณาธิการที่โจทก์อ้างว่าตีพิมพ์ข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ด้วย ศาลชั้นต้นเห็นควรให้วินิจฉัยในคราวเดียวกันและให้วินิจฉัยว่า คดีโจทก์ในส่วนของ จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 ไม่มีมูล
ต่อมาโจทก์ไม่เห็นด้วยกับการพิพากษาของศาลชั้นต้นและได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลทุธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอาญาธนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทรธ์เมื่อวันที่5 สิงหาคมที่ผ่านมา
วันเดียวกัน นายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม ป่วยหนัก และต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่า ขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังมีสุขภาพแข็งแรง แต่การที่ปรากฎภาพของตน และ ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง น้องชายเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตนเป็นผู้โพสต์ภาพดังกล่าวเองนั้น เป็นการไปเยี่ยม ส.อ.ฉลอง อยู่บำรุง ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของ ร.ต.อ.เฉลิม และมีศักดิ์เป็นอาของตน โดย ส.อ.ฉลองเข้ารักษาอาการป่วยเกี่ยวกับไต ที่โรงพยาบาลเลิดสิน จึงอยากชี้แจงถึงข้อเท็จจริง เพราะไม่ต้องการให้มีการเข้าใจผิดและวิพากษ์วิจารณ์กัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี