เล็งส่ง550ชื่อสปช.ให้คสช.ศุกร์นี้ พบ20องค์กรเสนอขัดหลักกฎหมาย
วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557, 13.20 น.
Tag :
17 ก.ย. 57 เมื่อเวลา 10.50 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงถึงความคืบหน้าประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 77 จังหวัด ว่า วันนี้ (17 ก.ย.) คณะกรรมการสรรหา สปช.ที่เหลืออีก 7 ด้าน จะมีการหารือกันอีกครั้ง ในเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ที่กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร1 พัน4 รอ.) ซึ่งถ้าแล้วเสร็จก็คาดว่าวันที่ 19 ก.ย. สามารถนำรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละ 50 รายชื่อ เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้
ส่วนคณะกรรมการสรรหา สปช.ระดับจังหวัด ขณะนี้มีจังหวัดที่สามารถคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.จังหวัดละ 5 คน ได้เรียบร้อยแล้ว 49 จังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 28 จังหวัดนั้นจะทยอยประชุมไปจนถึงวันที่ 22 ก.ย.นี้ ดังนั้น คาดว่าในวันที่ 23 ก.ย.จะสามารถนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.ในระดับจังหวัดเสนอให้ คสช.พิจารณาได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
นายภุชงค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง คณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านอื่น ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ระบุเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็น สปช. ขององค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร และกรณีที่มีบุคคลถูกเสนอชื่อมากกว่า 2 องค์กร ว่า ปัญหาดังกล่าว สำนักงาน กกต. เคยหารือกับ คสช. ตั้งแต่ก่อนเปิดรับการเสนอชื่อแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่เมื่อตรวจพบ สำนักงาน กกต. จะทำหมายเหตุให้คณะกรรมการสรรหาได้รับทราบ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นเสนอรายชื่อบุคคลมากกว่า 2 คน ตามที่กฎหมายกำหนดนั้น เพียง 20 องค์กร จาก 4,545 องค์กร ส่วนบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเพื่อรับการสรรหาทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัดนั้น มีเพียง 203 คน นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีบุคคลที่ยื่นเสนอชื่อเกิน 1 ด้าน จำนวน 5 คน
อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่รู้ว่าตนถูกเสนอชื่อเกินหนึ่งด้าน ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเลือกที่จะเข้ารับการสรรหาด้านใดด้านหนึ่ง
ทั้งนี้นายภุชงค์ ยอมรับว่า กรณีที่มีบุคคลถูกเสนอชื่อมากกว่า 2 องค์กร อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่อยากมองว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้ได้เปรียบบุคคลอื่นๆ และไม่น่าจะมีการนำประเด็นดังกล่าวไปเป็นเรื่องร้องเรียนภายหลังได้ เพราะเมื่อดูจำนวนมีเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด ซึ่งตนเชื่อว่าองค์กรนิติบุคลไม่มีเจตนา แต่เป็นลักษณะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหาที่จะพิจารณาว่าจะเลือกบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งทางสำนัก กกต. ก็ไม่สามารถตัดสิทธิบุคคลเหล่านี้ได้