บิ๊กตู่ตั้ง14อรหันต์“พลเอก”
คุมเบ็ดเสร็จ
จัดโผ250สปช.ขั้นสุดท้าย
กกต.เผย11ด้านได้ครบแล้ว
จ่อเคาะทุกจังหวัด23กันยา
“อนุพงษ์”ย้ำไม่มีล็อกสเปค
“แดง”พล่านบุกโวยตำรวจ
ห้ามโยง“ชุดดำ”ฆ่าร่มเกล้า
เมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 117/2557 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยระบุอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 และ
มาตรา15 แห่งพรฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช.พ.ศ.2557 คสช.จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก สปช.ดังนี้ 1.คณะกรรมการคัดเลือก สปช.ประกอบด้วยผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้
ท็อปบู๊ทยกแผงกก.คัดเลือก’สปช.’
1.1พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) 1.2พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงานและปลัดกระทรวงกลาโหม 1.3พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ และผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) 1.4พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม และผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) 1.5พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และรองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) 1.6พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก 1.7พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และผู้ช่วยผบ.ทบ. 1.8 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และผู้ช่วยผบ.ทบ.1.9พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผบ.สส. 1.10พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)และหัวหน้าคณะทำงานเตรียมการปฎิรูป กระทรวงกลาโหม 1.11พล.ร.อ.จักรชัย ภู่เจริญยศ รองผบ.ทร. 1.12พล.อ.อ.สฤษดิ์พงษ์ โกมุทานนท์ รองผบ.ทอ. 1.13พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)และ1.14พล.อ.อุทิศ สุนทร หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายและสั่งการของผู้บังคับบัญชาในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่เกิน250คน-ส่งให้หัวหน้าคสช.
2.ให้คณะกรรมการคัดเลือก สปช.มีอำนาจหน้าที่ดังนี้ 2.1พิจารณาคัดเลือกบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สปช.จากบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดเสนอจังหวัดละ 1คน 2.2พิจารณาคัดเลือกบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สปช.จากบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านตามมาตรา4 (1) ถึง(11) แห่งพรฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิก สปช.พ.ศ.2557 เสนอตามจำนวนที่เห็นสมควร 2.3นำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกตามข้อ2.1และ2.2 แต่ต้องไม่เกิน 250คน เสนอต่อหัวหน้าคสช.เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงแต่งตั้ง สปช.ต่อไป สั่ง ณ วันที่ 17สิงหาคม2557 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
กกต.เผย11ด้านได้ชื่อครบแล้ว
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการความหน้าการสรรหาสมาชิก สปช.ว่า ในส่วนของคณะกรรมการสรรหา 11ด้าน ได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละ 50รายชื่อเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 60จังหวัดที่สรรหาเสร็จแล้วและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา ได้ทยอยนำรายงานผลการคัดเลือกมาส่งยังสำนักงาน กกต.แล้ว 27จังหวัด ส่วนอีก 17จังหวัด คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดจะทยอยประชุมเพื่อคัดเลือกต่อไป โดยวันสุดท้ายที่มีการนัดประชุมคือ วันที่ 22กันยายน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลการสรรหาทั้ง 11ด้านและอีก 27จังหวัด กกต.จะทำเอกสารงมอบให้ คสช.ภายในวันที่ 18กันยายนนี้หรืออย่างช้าคือเช้าวันที่ 19กันยายน ขณะที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดที่ยังไม่เสร็จอีก 17จังหวัดก็จะทยอยส่งในภายหลัง คาดว่าวันที่ 23กันยายน จะส่งรายชื่อผลการสรรหาในส่วนของจังหวัดให้ได้แล้วเสร็จ
เมื่อถามว่า หาก คสช.ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็น สปช.ทั้ง 250 คนแล้ว จะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดได้หรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของ คสช.ว่า จะให้เปิดเผยได้หรือไม่ กกต.คงไม่เกี่ยว
มท.1กำชับผู้ว่าฯยึดโรดแมปรบ.
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทยให้กับผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ กทม.และรัฐวิสาหกิจในสังกัด มท.มีใจความตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อมั่นในตัวผู้ว่าฯหรือพ่อเมืองตั้งแต่สมัยเด็กๆ จึงไม่มีอะไรมาก เพราะในอดีตพ่อเมืองต้องทำงานสนองเป็นหูเป็นตาให้กับพระมหากษัตริย์ ซึ่งการมอบนโยบายครั้งนี้ การทำงานของรัฐบาลมีเวลาไม่นาน นายกรัฐมนตรีก็พูดไปแล้วมีโรดแมปชัดเจน ขอให้ยึดเอาตามนั้น คือต้องนำนโยบายรัฐบาลมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติราชการระยะเวลา 1 ปี เพื่อรองรับการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ส่วน มท.ก็ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ดี เพราะหน้าที่ของเราคือการไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ชาวบ้าน
สปช.ด้านปกครองฯได้ครบแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาสมาชิก สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่น ได้เปิดเผยความคืบหน้าการสรรหา สปช.ว่า ขณะนี้การสรรหาผู้เหมาะสมเป็น สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่นได้ครบ 50คนแล้ว ซึ่งมาจากทุกสาขาอาชีพและมีความรู้ความสามารถในการบริการงานการปกครองส่วนท้องถิ่น ตนยืนยันว่า ไม่มีการล็อกสเปกอย่างแน่นอน เนื่องจากการทำงานของ สปช.ต้องใช้ผู้มีความรู้และมีความสามารถที่จะปฏิรูปโครงสร้าง กฎหมาย หรือปรับปรุงระบบการทำงานให้มีผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับคนที่พลาดจากการสรรหา สปช.250คน ต้องรอดูกรอบแนวทางของนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการในรูปแบบใดในการประมวลข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะแล้วส่งให้ คสช.และสปช.เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ เพราะคนที่ถูกเสนอชื่อนั้น ล้วนแล้วแต่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น
‘ตุ๊ดตู่-ธิดา-เหวง’พบรองผบ.ตร.
วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐและนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการตามหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเร่งครัด เกี่ยวคดีจับกุมกลุ่มชายชุดดำ
คาใจโยงชุดดำฆ่า“พ.อ.ร่มเกล้า”
โดย นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่ม นปช.ยังติดใจสงสัยต่อการแถลงข่าวกลุ่มชายชุดดำ เนื่องจากเห็นว่าทางตำรวจพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่า กลุ่มชายชุดดำเป็นผู้ก่อเหตุทำให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตระหว่างชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี2553และการแถลงข่าวพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่า การชุมนุมปี2553 เชื่อมโยงถึงปี2557 จึงเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นำคดีผู้เสียชีวิตปี2553 ทั้งทหารและประชาชน เข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ละดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือคุกคามผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ ส่วนการแถลงข่าวผลการจับกุมและการทำแผน ต้องกระทำโดยมีหลักฐานและข้อมูลชัดเจน ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองใด พร้อมยืนยันว่า กลุ่มนปช.ยินดีให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีทางการเมืองให้เป็นไปตามหลักฐานและกฎหมาย
‘สมยศ’แจงแค่ครอบครองอาวุธ
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในการดำเนินคดีชายชุดดำไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังและไม่เคยกล่าวว่า กลุ่มชายชุดดำเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธสงครามเท่านั้น อีกทั้งจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่ พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิต แต่ถ้าการสอบสวนขยายผลพบว่า มีความเชื่อมโยง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยเด็ดขาด ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่เคยคุกคามบีบคั้น หรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพและพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุมปี2553 ส่วนใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ทาง สตช.จะดูคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีอาวุธสงคราม ถ้าคดีใดมีส่วนเกี่ยวข้อง ดีเอสไอก็จะขอโอนสำนวนไป
ขณะที่ นายจตุพร พอใจในการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องและไม่รู้จักกับกลุ่มชายชุดดำ ขณะที่มั่นใจว่าจะไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะการออกมาตามกรอบกติกาไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง
เอกชนขนเสาไฟฟ้าบุกทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น เวลา 03.00น.มีขบวนรถยกและรถ 6ล้อ ขนอุปกรณ์เสาไฟฟ้าสเตนเลส มาตั้งข้างรั้วประตู1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี น.ส.สุทธิรัตน์ ไม่แจ้งนามสกุล ตัวแทนบริษัทเอ็นจี ไลท์ จำกัด พร้อมลูกน้องอ้างว่า มาดูแลวางเสาไฟฟ้าและพยายามจะนำเข้าไปในสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้าและด้านข้าง กระทั่งเวลา 05.00น.เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยัง ผอ.ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและฝ่ายสถานที่ แต่ได้คำตอบว่า ไม่มีการสั่งซื้อเสาไฟฟ้า จนถึง เวลา07.00น.จึงสั่งให้เก็บของกลับออกไป
คาดหวังโฆษณาสินค้าผ่านสื่อฟรี
ทั้งนี้ น.ส.สุทธิรัตน์ ได้โชว์เอกสารหนังสือร้องเรียนศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เมื่อวันที่15กันยายน เลขที่รับ10168 ที่ทำถึงนายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและถึง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ที่ให้นำเสาไฟฟ้าเข้ามาตั้งได้ แต่เมื่อมีการประสานจนพบชัดเจนว่า ไม่มีการอนุญาตให้เข้ามาติดตั้งเสาไฟฟ้าดังกล่าว ทางตำรวจจึงให้บริษัทดังกล่าวเก็บสินค้ากลับไป โดยที่ น.ส.สุทธิรัตน์ ไม่แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใดและยอมเก็บของไปโดยดี พร้อมกับไม่บอกว่า ใครอนุญาตให้เข้ามา ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.สุทธิรัตน์ เคยข้ามาในทำเนียบฯและห้องผู้สื่อข่าวถึง 4ครั้ง เพื่อยื่นหนังสือให้เห็นถึงสินค้ามีคุณภาพ แต่ไม่ได้รับความสนใจและตำรวจได้เชิญตัวออกไป จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่า บริษัทนี้ต้องการขายสินค้าและโฆษณาออกสื่อเท่านั้น โดยไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานที่หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี