เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อม พ.อ.สมหมาย บุษบา เสนาธิการกองทัพภาคที่2 ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฏหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล ที่โรงเรียนหันห้วยทรายพิทยา ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น 1ใน358โรงเรียน อยู่ใน17จังหวัดของภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคกลาง ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า มีการทุจริตการก่อสร้าง ซึ่ง ทาง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฏหมายและฝ่ายยุติธรรม คสช.สั่งให้ดำเนินการถึงที่สุด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ามีการล๊อคสเปค โดยทั้ง2บริษัทที่ประมูลงานได้พบว่าเจ้าของคนเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้ป.ป.ท.จะประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน(ป.ป.ง.)เพื่อขอกำลังร่วมตรวจสอบเพื่อให้แล้วเสร็จครบทุกโรงเรียนภายใน6เดือน เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ
“เราลงไปสุ่มสอบมาแล้ว 30 แห่งใน 6อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาพบว่าทุกแห่งก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานสภาพสนามชำรุดทุรดโทรมจนใช้งานไม่ได้ บางแห่งก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์และไม่เป็นไปตามสเปกที่ต้องมีโครงหลังคา ส่งผลให้พื้นสนามที่เป็นยางสังเคราะห์EVAชำรุด โค้งงอ “เลขาธิการ ปปท.ระบุ
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบลงลึกไปถึงงบประมาณก่อสร้างพบมีการแยกย่อยรายละเอียดเป็นค่าปูคอนกรีต ค่าปูพื้นยางสังเคราะห์ และค่าอุปกรณ์อื่นๆ แพงกว่าท้องตลาด อาทิ งานปูพื้นยางสังเคราะห์ ตาราเมตรละ 2,600 บาท จากราคาปกติ 1,600 บาท
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นงบประมาณของสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555จากงบแปรญัตติ ของสส.ในพื้นที่ ประกอบด้วยรายการค่าก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุดโทรม และที่ประสบอุบัติภัย วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,947,278,000บาท โดยงบประมาณดังกล่าวได้มีการจัดสรรให้กับโรงเรียนใน 17จังหวัด รวม358โรงเรียน เพื่อใช้ก่อสร้างสนามฟุตซอลเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น689,530,800บาท โดยสนามขนาด 426 ตารางเมตร วงเงิน 2.5 ล้านบาท สนามขนาด 1,512 ตารางเมตร วงเงิน 5 ล้านบาทต่อ1สนาม
ด้าน พ.อ.สมหมาย กล่าวว่าจากสายตาที่เห็นสนามฟุตซอลในวันนี้รู้สึกสะท้อนใจว่าแต่ละสนามฯ สร้างได้คุณภาพแย่มาก ตีราคาแพงเต็มที่ได้3 แสนบาทเท่านั้น สงสารเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ
พ.ต.อ.สมหมาย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโจรลักขุดที่ดิน สปก.บริเวณบ้านภูเขาทอง ม.3 ต.ไชยมงคง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปขายหลายร้อยไร่ ว่า ได้รายงานให้หัวหน้าคสช.และแม่ทัพภาค 2 ทราบแล้ว ทั้งนี้ตนสงสัยว่า มีการลักลอบขุดดินในที่ สปก.ตั้งแต่ปี 2544 แต่สปก.ไม่ได้ทำการยั้บยั้งแต่ประการใด
“ พื้นที่ ส.ป.ก.ที่มีการแอบลักลอบขุดดินไปขายมี เสี่ยยุ้ย หรือชื่อจริงตัวย่อ ว. เป็นผู้ดำเนินการลักลอบหน้าดินไปขายให้กับนายทุนโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำมาเป็น10ปี ไม่มีใครตรวจสอบ พอทหารเข้าไปจัดการ กลุ่มนายทุนก็นำเครื่องจักร รถขนดินออกนอกพื้นที่แล้ว ทำให้สงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเอี่ยวหรือไม่”
ด้าน ร.ต.อ.สุชาติ ซ้อนพุดซา พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการลักลอบขุดดินไปขายให้มารับทราบข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ส่วนกรณีที่มีโครงการบ้านจัดสรรหลายแห่งรับซื้อดินจากนายทุนก็ต้องตรวจสอบว่ามีบ้านจัดสรรกี่โครงการ ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหารับซื้อของโจรต่อไป
นายเลิศศักดิ์ สุขสวัสดิ์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตนเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อรู้ปัญหาก็รีบขัดการทันที และจากนี้จะต้องตรวจสอบทุกแปลงเราต้องทำเป็นระยะๆไปโดยตลอด รายละเอียดประมาณ 3 ล้านไร่ ล่าสุดพบความผิดปกติของที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่จังหวัดนคราชสีมาแล้วกว่า 1,000 แปลง ที่น่าจะมีการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ไปดำเนินการผิดวัตถุประสงค์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี