ฉลองชุมนุมครบรอบปี
กปปส.คึก!
ร่วมบวชถวายในหลวง
แดงซุ่มอาลัยนวมทอง
จี้DSIรื้อคดี‘ชายชุดดำ
’อ้างถูกซ้อมรับสารภาพ
เวลา 07.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม ที่วัดสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร หรือ พระสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) เป็นประธานโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ เพื่อบำเพ็ญธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557
กปปส.ร่วมทำบุญชุมนุม1ปี
โดยงานดังกล่าวมี พระเทพโมลี เจ้าคณะ จ.พังงา เป็นพระอุปัชฌาย์ และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมกับมีกลุ่ม กปปส. กว่า 500 คน อาทิ นายกษิต ภิรมย์ นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ นายอิสสระ สมชัย นายชุมพล จุลใส และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ มาร่วมทำบุญครบรอบ 1 ปี การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
‘พระสุเทพ’ให้ปล่อยวางยึดสันติ
ทั้งนี้ พระสุเทพ ปภากโร ได้ปาฐกถาธรรมพิเศษแก่ผู้ร่วมโครงการว่า ย้อนไปวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มวลมหาประชาชนได้ไปสู้อย่างมีสันติ วันนี้ครบรอบ 1 ปี จึงได้ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการชุมนุม 24 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ การบวชครั้งนี้ต้องการให้มวลมหาประชาชนทำใจปล่อยวางได้แล้ว ให้ยุติบทบาทการต่อสู้ไว้เพียงเท่านี้ เอาเวลาที่เหลือมารณรงค์ให้ประชาชนมายึดถือองค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้า ให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี ให้จดจำไว้เป็นอุทาหรณ์เพื่อสอนลูกหลานว่า หัวใจที่ยิ่งใหญ่ของวีรชนเหล่านั้นเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ แม้ญาติพี่น้องเพื่อนพ้องจะเสียใจ แต่ต้องอดกลั้นไว้ด้วยขันติธรรม
แดงรำลึก8ปี“ลุงนวมทอง”
เวลา 04.00 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณสะพานลอย ถ.วิภาวดีรังสิต หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ นายนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่เสื้อแดงมาผูกคอตายเพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อปี 2549 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลและทหารกว่า 1 กองร้อย ได้นำกำลังเข้าตรึงพื้นที่ดังกล่าว หลังทราบว่า กลุ่มแกนนำเสื้อแดงจะนำมวลชนมาวางดอกไม้รำลึกครบรอบ 8 ปี การเสียงชีวิตดังกล่าว
หลายองค์กรร่วมวางดอกไม้
จากนั้นเวลา 06.30 น. นายอานนท์ นำพา ทนายความกลุ่มเสื้อแดง ได้เดินทางมาเพื่อมาวางดอกไม้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตและเชิญตัวไปพูดคุยที่กองอำนวยการ หลังหารือกว่า 30 นาที จึงยอมให้วางดอกไม้เพียงคนเดียว ก่อนจะให้ขึ้นรถแท็กซี่เดินทางกลับ ต่อมา นักศึกษากลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กว่า 10 คน ก็มาขออนุญาตวางดอกไม้เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้ยืนนิ่งไว้อาลัย 1นาที ก่อนจะขอร้องให้เดินทางกลับทันที
‘ตุ๊ดตู่-เหวง-ธิดา-เจ๋ง’มาด้วย
ต่อมา นางบุญชู ไพรวัลย์ ภรรยานายนวมทอง มาวางดอกไม้และร้องไห้ ก่อนตำรวจให้กลับทันทีและขอไม่ให้สัมภาษณ์และเวลา 11.30น.นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช.,นางธิดา ฐาวรเศรษฐ์ ที่ปรึกษาประธาน นปช.,นพ.เหวง โตจิราการและนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เดินทางมาวางดอกไม้ไว้อาลัยการตายของ นายนวมทอง โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดง 10คน ยืนคอยให้กำลังใจและมอบดอกไม้แก่บุคคลดังกล่าวด้วย
ตำรวจไม่ให้ปราศรัยหวั่นป่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.2 ได้เจรจากับแกนนำว่า ให้เข้าไปวางพวงดอกไม้ได้ทีละคนเท่านั้น และขอร้องไม่ให้มีการปราศรัยในบริเวณดังกล่าวโดย นายจตุพร เป็นตัวแทน ก็รับปากปฏิบัติตามโดยให้แกนนำแต่ละคนเดินไปวางพวงดอกไม้ทีละคนและขึ้นรถกลับทันทีไม่มีการกระทำผิดฝ่าฝืนประกาศ คสช. แต่อย่างใด
ทนายร้องDSIอ้างชุดดำถูกซ้อม
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ กนส.เข้ายื่นหนังสือกับ พ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอความเป็นธรรมให้ 5ผู้ต้องหาคนร้ายชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน ในเหตุสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 10เมษายน2553 โดย นายวิญญัติ ระบุว่า ทีมทนายความได้เข้าพบผู้ต้องหาทั้ง 5คนที่เรือนจำและผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายข่มขู่ให้รับสารภาพ ดังนั้นการสอบสวนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ดีเอสไอทำการสอบสวนใหม่
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัณ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้เพื่อพิจารณารายละเอียดกรณีอ้างว่า ผู้ต้องหาถูกทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพ ซึ่งต้องตรวจสอบให้ได้ความกระจ่าง ก่อนนำเรื่องเสนอต่อ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ว่าที่อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาจะรับไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ต่อไป
“แม้ว-ปู”ทัวร์ตามหาบรรพบุรุษ
ด้านความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ทั้ง 2 คนได้เดินทางออกจากกรุงปักกิ้งไปยังมณฑลกวางโจว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์ผ่านหน้าเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ได้เดินทางไปเคารพหลุมฝังศพบรรพบุรุษและไปดูบ้านที่แม่เคยอยู่ตอนช่วงอายุ 9 ถึง 13 ขวบ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนอพยพมาประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้ไปเคารพหลุมฝังศพและบ้านที่เคยอยู่ของฝ่ายพ่อ ซึ่งต้องขอบคุณทางการจีนที่ช่วยสืบหาให้จนพบต้นกำเนิดบรรพบุรุษพ่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี