โผ‘เศรษฐา1/1’นิ่งแล้ว-หวังบูมดิจิทัล
อัด‘ก.คลัง’4เก้าอี้
‘สุทิน-เกรียง’หนึบนั่งที่เดิม
‘จิราพร’ขยับรมช.พาณิชย์
‘พวงเพ็ชร’ที่ปรึกษานายกฯ
‘สุชาติ’นั่งรมช.สาธารณสุข
“เศรษฐา 1/1” โควตา “เพื่อไทย” นิ่งแล้ว ไม่มีกระเพื่อม อัด“ก.คลัง” 4 เก้าอี้ มุ่งดิจิทัล วอลเล็ต “สุทิน-เกรียง” นั่งเก้าอี้เดิม “จิราพร” รมช.พาณิชย์ ขณะที่ “ธรรมนัส” หวังคุมเบ็ดเสร็จ ก.เกษตรฯ ทาบ “พวงเพ็ชร” นั่งที่ปรึกษานายกฯ“เสี่ยเฮ้ง”รมช.สาธารณสุข “ภูมิธรรม” ยันไม่มี“ทักษิณ”ร่วมวงกินข้าวเที่ยงจัด “โผ ครม.” เผยคุย“เศรษฐา”เรื่องเตรียมเดินทางไปดู “ทุเรียน” ที่จันทบุรี “อนันต์” การันตี “ลุงป้อม”
ส่งชื่อนั่ง รมต.มั่นใจคุณสมบัติไร้มลทิน‘ไผ่ลิกค์’ไม่นอยด์ชวดเก้าอี้รมช.เกษตรฯเผยนายกฯส่งกฤษฎีกาชุดใหญ่ ตีความคุณสมบัติ แย้มอาจคัมแบ็ค ลั่นพปชร.ไม่แตก’บิ๊กป้อม’นุ่งขาวห่มขาว นำ พปชร.ประชุมใหญ่สามัญ ประกาศสโลแกนใหม่‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส’ยันส่งชื่อเดียวปรับ ครม.
เมื่อวันที่ 26เมษายน2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวกินข้าวมื้อเที่ยงวานนี้ (25 เม.ย.67) ร่วมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการนัดรับประทานอาหารร่วมกันกับ นายเศรษฐา ไม่มี นายทักษิณ ร่วมวงด้วยและไม่มีอะไรเลย คุยกัน 2คน เป็นการคุยเรื่องงานหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องที่จะเดินทางไป จ.จันทบุรีในวันที่ 27เม.ย.67 เพื่อดูเรื่องทุเรียน เมื่อถามว่ามีการพูดคุยถึงรายชื่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะปรับเข้าออกหรือไม่ นายภูมิธรรม ปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่นายกฯ จะตัดสินใจ ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะนายกฯเป็นผู้ประสานงานในเรื่องดังกล่าว
‘ภูมิธรรม’ยันไม่มี’แม้ว’ร่วมจัดโผครม.
เมื่อถามอีกว่า วงกินข้าวดังกล่าวมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมวงด้วย ถือเป็นการไปตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อรัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราคุยเรื่องการทำเอฟทีเอ ไอยูยูและงานด้านต่างประเทศหลายๆเรื่อง ยืนยันว่า การคุย 3คน ไม่มีพูดคุยเรื่องปรับ ครม.เมื่อถามย้ำอีกว่ามีการคุยระหว่างนายกฯ กับนายทักษิณ เรื่องปรับ ครม.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เห็นเลย พร้อมยืนยันว่าการไปคุยที่โรงแรมวานนี้ (25 เม.ย.67) ไปคุยกันนี่ ไม่มี นายทักษิณและเราไม่ได้พบ นายทักษิณ
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯซึ่งนายกฯจะดูการทำงานของรัฐมนตรีทั้งหมด หากเดินหน้าดีก็จะเดินหน้าไป ถ้ามีปัญหาก็ต้องมาหารือกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้อย่างชัดเจน มีเพียงแต่ข่าวที่ออกมาว่าจะปรับนู่นปรับนี่ ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนได้พูดคุยบ้าง ซึ่งพูดคุยกันธรรมดาปกติ ถ้าเราเห็นว่าไม่มีอะไรจำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีการปรับอะไรมาก ทั้งหมดนี้การปรับก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตัดสินใจของนายกฯเป็นหลัก” นายภูมิธรรม กล่าว
ปรับครม.เสร็จก่อนค่อยตั้งโฆษกรบ.
เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีการเสนอปรับ ครม.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะเพิ่งทำงานได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องที่พวกเขาจะต้องประเมินกันเอง และหากมีความชัดเจนเมื่อไหร่ก็ต้องเสนอเข้ามา เมื่อถามว่าโฆษกรัฐบาลจะต้องมีการปรับตามกระแสข่าวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้า ครม.ไม่ปรับ จะปรับโฆษกได้อย่างไร ถ้า ครม.ปรับชัดเจนก็อาจจะมีการปรับโฆษกรัฐบาล เพราะเรื่องโฆษกรัฐบาลเป็นเรื่องเล็กกว่าการปรับ ครม.เมื่อถามว่าจะเป็นการปรับโฆษกคนเดียวหรือทั้งคณะ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องโฆษก หากมีจริงก็ต้องรอให้ปรับครม.เรียบร้อยก่อน
‘บิ๊กป้อม’แต่งขาวประชุมใหญ่’พปชร.’
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการจัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค ณ ที่ทำการพรรค อาคารรัชดา วัน ถนนรัชดาภิเษก กทม.ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับครม.ซึ่งมีรายงานว่า พรรคได้ส่งรายชื่อไปทั้งหมด 4 ชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีช่วย ในโควตา ที่ว่างของพรรค อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา , นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร เขต 3และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.และนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร
ทั้งนี้ทันทีที่พล.อ.ประวิตรเดินทางมาถึงลงรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยพล.อ.ประวิตร สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวทั้งชุด เป็นเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวโลโก้พรรค กางเกงสแล็คสีขาวและรองเท้าผ้าใบสีขาว
อุบไต๋ส่ง4รายชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
ก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงความเหมาะสมของ 4แดตดิเดตใหม่ของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า อยากรู้ไปทำไมผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าอยากรู้เพราะเป็นการบริหารประเทศ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า บริหารได้อยู่แล้วซึ่งได้คนเดียว”พร้อมไม่ตอบคำถามว่าจะเอาคนหนุ่มหรือคนมีอายุรวมถึงปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องส่งไปถึง 4รายชื่อ จากนั้นผู้สื่อข่าวแซวว่า ทำไมวันนี้ถึงนุ่งขาวทั้งชุด พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ แต่ทำท่าหมั่นเขี้ยวสื่อและใช้มือทำท่าชกหยอกล้อสื่อ
ชู‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ
ต่อมา พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นกล่าวเปิดการประชุมว่า หนึ่งปีที่ผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์และสส. ได้ขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรค โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีสวัสดิการ รายได้ที่ดี มีความสุขทุกครอบครัว เพื่อเร่งพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น “เพื่อให้พรรคเป็นที่ศรัทธาของประชาชนมากขึ้น พรรคจึงได้เตรียมปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์และเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพมากยิ่งขึ้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว
เปิดสโลแกนใหม่พรรค’พปชร.’
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐขอประกาศตัวเองว่าเราขอเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการปกป้องสถาบัน และบริหารเศรษฐกิจที่ทันสมัย เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ ด้วยสโลแกนใหม่ที่ว่า “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส” และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอีกไม่นานพรรคจะได้ประกาศรายละเอียดทั้งหมดอีกต่อไป
สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ จะเป็นการพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ดำเนินการไปแล้วและงบการเงินปี 2566 รวมถึงพิจารณาแก้ไขข้อบังคับของพรรค
‘บิ๊กป้อม’บอกส่งชื่อเดียวไม่ใช่’อรรถกร’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาในการนำประชุมเพียง 30 นาที ก่อนจะเดินทางกลับซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามว่า รายชื่อครม.เรียบร้อยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าให้ไปถามนายกรัฐมนตรี ก่อนย้อนถามว่าใครบอกว่าส่งไป 4 ชื่อ ก็เป็นเรื่องของกระแสข่าวเมื่อถามย้ำว่า ส่งไปชื่อเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เออ ชื่อเดียวๆ”เมื่อถามว่าเป็นนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ใช่”ก่อนจะแก้ว่า“ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่บอก”
‘อนันต์’การันตี‘บิ๊กป้อม’ส่งชื่อนั่งรมต.
ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่สามัญประจำปี ถึงกรณีที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคหรือยัง ว่า เมื่อ 3วันที่แล้ว ได้แจ้งว่าส่งชื่อของตนไปแล้วในนามของพรรคพปชร.แต่ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร จึงขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ
ยืนยันคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อส่งรายชื่อไปแล้ว ได้กรอกประวัติรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายอนันต์ กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่ขอตอบ เพราะยังมีเวลาอีกระยะหนึ่ง เรื่องคุณสมบัติต่างๆ ยืนยันว่าคนที่มาเป็น สส. ต้องผ่านคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา98มาแล้วในระดับหนึ่ง ส่วนการมาเป็นรัฐมนตรีจะใช้มาตรา160 เมื่อมาพิจารณาอย่างละเอียด ตนก็ไม่ได้ขาดคุณสมบัติแต่อย่างใด เพราะเรากลัวปัญหานี้เหมือนกัน เนื่องจากในอดีตเคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นในพรรคมาแล้ว ยืนยันคุณสมบัติของตนไม่มีปัญหาอะไร ดูมาละเอียดทุกข้อแล้ว ส่วนกรณีมีข้อกล่าวหาอยู่ในองค์กรอิสระบ้างหรือไม่นั้น นายอนันต์ กล่าวว่า เป็นนักการเมืองมา 6 สมัย ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่มีคดีเล็กคดีน้อย ไม่มีอะไรทั้งสิ้นและอยู่มาด้วยความเรียบร้อย รวมทั้ง 6 สมัยของการเป็นสส.ไม่เคยสอบตก ทำงานกันเต็มที่ อยู่กับประชาชนมาเกือบ 20ปี เราเห็นปัญหา แม้บางเรื่องจะแก้ไขไม่ง่าย แต่ต้องค่อยๆ ปรับ ทำตามที่คิดว่าจะทำได้ อยู่ในความเป็นจริง
‘บิ๊กป้อม’การันตีส่งรายชื่อไปแล้ว
เมื่อถามว่าหากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีคิดว่าจะมาจากปัจจัยใด นายอนันต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใหญ่ เราไม่ได้ตั้งเอง แต่เมื่อส่งชื่อไปตามระบบของพรรคและเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค โดยกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ที่ส่งชื่อ ตนได้รับแจ้งมาเท่านี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า หัวหน้าพรรคการันตีชื่อแล้วใช่หรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า การันตีแล้ว โดยหัวหน้าพรรคได้เน้นย้ำว่าให้ทำงานอย่างเต็มที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แก้ปัญหาในสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน พร้อมกับเน้นย้ำ สส.ทุกคนให้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาประชาชน และเชื่อว่าวันนี้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่า จ.กำแพงเพชรได้ สส. ยกจังหวัดมา 2 ครั้ง ควรจะมีรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า ในครั้งแรกที่คุยกันโควตานี้คือของ จ.กำแพงเพชร ครั้งแรกให้เกียรตินายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ให้ไปจนสุดก่อน และชื่อที่ต่อจากนายไผ่คือตน ซึ่ไม่ได้คิดอะไร เพราะอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ เป็น สส. ก็ทำงานเต็มที่ โดยไม่ทิ้งพื้นที่
หากพลาดเก้าอี้-พรรคพปชร.ไม่แตก
เมื่อถามว่า หากผลออกมาอย่างไร จะไม่มีปัญหาอะไรภายในพรรคใช่หรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า “โอ้โห จะไม่มีปัญหาอะไร อันนี้เป็นเรื่องปกติ ผลออกมาเป็นอย่างไรเราต้องยอมรับ เพราะเราตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ ขอย้ำว่าทำงานเต็มที่ จะได้หรือไม่ได้ ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น วันนี้เป็นผู้แทนอยู่ในสายเลือดแล้ว ตั้งแต่ปี40 เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นเป็น สว.เลือกตั้ง และเป็น สส.4สมัย เข้าใจสัจธรรมการเมือง ไม่ได้คิดอะไร” ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีจะท้อหรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า ไม่มีท้อ ถ้าไม่ได้ก็ทำงานต่อไป ไม่ได้มีอะไร แต่ถ้าได้ก็จะเหนื่อยมาก ต้องทุ่มเทเพิ่มขึ้น ย้ำว่าวันนี้ยังไม่ตอบไม่ได้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐยังมีเอกภาพอยู่ เราพร้อมรับทุกสถานการณ์และช่วยงานพรรคเต็มที่ ทั้งตนและนายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคทำงานแบบไม่คิดอะไรเลย เพื่อให้พรรคเราเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับเป็นสถาบันการเมืองในอนาคต.
‘ไผ่’ไม่น้อยใจวืดรมต.พปชร.ไม่แตก
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประชุมใหญ่สามัญ นายอนันต์ ผลอำนวย และ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กําแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐรวมถึง นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐได้มายืนรอรถยนต์เพื่อเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เสนอชื่อรัฐมนตรีไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ นายอรรถกร นายวราเทพ จึงย้อนถามว่า ใครเป็นคนพูด ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า หัวหน้าพรรคพูดและถามย้ำว่า เป็นชื่อของ นายอนันต์ หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า“ท่านพูดแล้วไม่ใช่หรอ”เมื่อถามว่า หากรัฐมนตรีไม่ได้มาจาก จ.กําแพงเพชร พรรคจะแตกหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ขอไม่พูด ก่อนที่นายอนันต์จะกล่าวเสริมว่า พรรคนี้ตอกเสาเข็มหนาแน่น แข็งแรงแน่นอน ส่วนนายไผ่ กล่าวติดตลกว่า พรรคไม่ใช่แก้ว จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามนายไผ่ลิกค์ ส.ส.ว่า ถอดใจแล้วหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ไม่ได้ถอดใจ นายอนันต์จึงกล่าวเสริมว่า เราเชียร์กันจนถึงนาทีสุดท้าย เมื่อถามย้ำว่า รายชื่อที่ออกมานิ่งหรือยัง นายไผ่กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่มีใครตอบ
คุณสมบัติไม่พร้อม/ไว้รอสมัยหน้า
ผู้สื่อข่าวถามนายอนันต์ว่า มีความมั่นใจว่า จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ หัวหน้าพรรคเสนอชื่อไปแบบนั้นแล้ว ทั้งนี้ คนในพรรคทำงานได้ทุกคน ผู้สื่อข่าวจึงถาม นายไผ่ ว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ไม่น้อยใจ เนื่องจากตนติดปัญหา และได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งนายกฯ บอกว่าอยากให้เรื่องนี้มีความชัดเจน เดี๋ยวจะมีทางออก เพราะผู้ใหญ่หลายคนบอกว่า เป็นการตีความกฎหมายที่คลาดเคลื่อน ไม่มีอะไรใหญ่โต เพราะฉะนั้น เพื่อความสบายใจ และเสถียรภาพ ก็ต้องว่ากันไป ยืนยันว่าตนไม่น้อยใจ เมื่อถามว่า ในอนาคตยังมีโอกาสใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ก็มีโอกาส แต่เพื่อความชัดเจน จะมีการยื่นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่ตีความ เพราะนายกฯ ต้องการความชัดเจน ที่ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการชุดใหญ่ เมื่อถามว่า จะเสนอให้กฤษฎีกาตีความเมื่อไหร่ นายไผ่ กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ เมื่อถามยํ้าว่า แสดงว่าไม่ทันปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบนี้ใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่น่าทัน เมื่อถามว่า จะเป็นรอบหน้าใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ก็หวังว่าอย่างนั้น แต่ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีอะไร ชิวๆ
‘สุชาติ’ดอดเข้าทำเนียบฯจ่อนั่งรมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับ ครม.ที่คาดว่า รายชื่อใกล้จะแล้วเสร็จ มีความเคลื่อนไหวในช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 15.20น.นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้าและเวลา 15.45น.ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล จากนั้น เวลา 15.40น.นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าไปบนตึกไทยคู่ฟ้าและออกไปในเวลา 15.52น.
เวลา 15.53น.นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีรายชื่อติดโผว่าจะได้รับการปรับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาลพร้อมกันด้วยรถคนละคัน เมื่อลงจากรถได้เดินขึ้นด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า โดยผู้สื่อข่าวพยายามเรียกซึ่งนายสุชาติได้พยายามเอามือปิดหน้า ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามเรียกทักทายนายสุชาติอีกครั้งแต่ไม่ตอบ และไม่หันมามองโดยรีบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที จากนั้นเวลา 16.00 น. นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในเวลาไล่เลี่ยกัน เวลา 17.00น.นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียกรัฐมนตรีที่มีรายชื่อว่าจะถูกปรับออกจาก ครม.เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยเวลา 16.13น.นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่มีชื่อถูกปรับออก เดินขึ้นหลังตึกไทยคู่ฟ้าด้วยเช่นกัน มีรายงานด้วยว่า นายกฯ ได้เรียก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เดินทางมาพบด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากนพ.ชลน่าน ติดภารกิจที่ จ.น่าน ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้
พท.โผนิ่ง’สุทิน-เกรียง”นั่งที่เดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนพรรคเพื่อไทย(พท.) เป็นที่แน่ชัดแล้วว่านิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรัฐมนตรีใหม่ 4คน ประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร มาเป็นรองนายกฯควบ รมว.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็น รมช.คลังและน.ส.จิราพร สินธุไพร เป็น รมช.พาณิชย์ นายพิชิต ชื่นบาน นาย จักรพงษ์ แสงมณี เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ เป็น รมว.สาธารณสุข เช่นเดียวกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ควบรองนายกฯอีกตำแหน่ง ขณะที่นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทยและนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
ปรับออก3คน-‘เสี่ยเฮ้ง’นั่งรมช.สธ.
ส่วนรัฐมนตรีที่จะถูกปรับออก 3 คน คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเข้ามานั่งเก้าอี้รมช.สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ได้มีการทาบทาม นางพวงเพชร ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯด้วย
‘อรรถกร’โควต้าพปชร.รมช.เกษตรฯ
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า สำหรับโควต้ารัฐมนตรี ในส่วนของพรรคพปชร.ที่ว่าง 1ตำแหน่ง โดยมีรายชื่อแคนดิเดตที่จับตาระหว่าง นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ที่มีกระแสข่าวถูกส่งชื่อเสนอเป็นรัฐมนตรี โดยมีรายงานว่าชื่อของนายอรรถกร จะไปนั่งเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ และชื่อนายอนันต์ เบียดมาในช่วงโค้งสุดท้ายท่ามกลางการสนับสนุนของกลุ่มกำแพงเพชร รวมถึงพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ล่าสุดเป็นที่ชัดเจนว่า นายอรรถกร ได้รับเอกสารกรอกคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว โดยจะมานั่งในตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ
อัด‘ก.คลัง’4เก้าอี้ มุ่งดิจิทัลวอลเล็ต
การปรับ ครม.ยังมุ่งเน้นไปที่กระทรวงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่มีการเพิ่มให้นายพิชัย ชุณหวชิร เข้ามาเป็นรมว.คลัง ควบตำแหน่งรองนายกฯ และยังเพิ่ม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เข้ามาเป็น รมช.คลังอีก 1คน เมื่อรวมกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ทำให้กระทรวงการคลังมีรัฐมนตรีทั้งสิ้น4คน เพื่อต้องการมุ่งเน้นขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดนายพิชัย เข้าไปดูห้องทำงานที่กระทรวงการคลังและนายเผ่าภูมิ ได้ยื่นเอกสารลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรมว.คลัง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อมีการปรับนายไชยา พรหมาและนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ออก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ได้ขอแลกโควตา รมช.พาณิชย์ของพรรค พปชร.กับ โควตา รมช.เกษตรและสหกรณ์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร.มาเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์รวมถึงให้น.ส.จิราพร สินธุไพร ไปเป็นรมช.พาณิชย์
’เต้ มงคลกิตติ์‘ดอดซบ’ปชป.’
ช่วงสาย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้าพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) เพื่อขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และช่วงบ่าย นายมงคลกิตติ์ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายมงคลกิตติ์จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ ในวันที่ 27 เม.ย.ด้วย
พร้อมเข้ากราบ‘ชวน หลีกภัย’
โดยนายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่าตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้วดยเป็นการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ เมื่อตนตัดสินใจว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงได้เดินทางไปพบนายเฉลิมชัย บ้านในเวลา11.30น.เพื่อแจ้งความประสงค์ ช่วงบ่ายจึงเดินทางเข้ามายังที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯซึ่งได้พบกับ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งนายชวนก็ยินดีที่มีคนมาช่วยพรรค
หวังช่วยดึงคนรุ่นใหม่เข้าพรรค
ส่วนการที่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะตนเข้าใจกฎระเบียบต่างๆอยู่แล้วและเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ช่วงตกจึงต้องการขุนพลรวมทั้งเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของและเป็นพรรคที่มีการเมืองเยอะที่สุด เมื่อตนเข้ามาก็จะสามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้พรรคพอสมควรจึงต้องการให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นหลักของบ้านเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนได้และต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะๆ
ต้องการตอบแทนบุญคุณ’เฉลิมชัย’
ส่วนที่ตัดสินใจเลือกเข้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายเฉลิมชัยมาเป็น 10 ปีมีบุญคุณต่อกัน ดังนั้นการที่ตนเลือกที่จะเข้าประชาธิปัตย์ เพราะต้องการเข้ามาช่วยพรรค และทดแทนบุญคุณนายเฉลิมชัย ตนได้เป็นสส.ครั้งแรก ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนายเฉลิมชัย
ส่วนตำแหน่งในพรรคนั้น ไม่ได้พูดคุยกัน จะให้ตนทำอะไร ก็ได้จะทำเต็มที่ ตนสามารถที่จะช่วยเหลือพรรคได้เรียกว่า เป็นม้าเร็วในการ เคลื่อนที่ไป 77 จังหวัด ซึ่งการลงพื้นที่ตนชำนาญทั้งหมด ไม่ต้องฝึกกันแล้ว
ส่วนเรื่องการตรวจสอบการทุจริต ก็เห็นฝีมือตนอยู่แล้ว ถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น ตนก็พร้อมจะลงสมัครทั้งกรุงเทพฯนนทบุรี และพิษณุโลก อย่างไรก็ตามการประชุมประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคฯ ในวันที่ 27 เม.ย. นี้ ตนไปร่วมสังเกตการณ์ด้วยแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี