ป.ป.ช.เตรียมสอบ'พงศ์พัฒน์'ปมปกปิดทรัพย์ พร้อมขยายผลผิดม.157
วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 20.10 น.
Tag :
25 พ.ย. 57 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงคดีการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรจสอบสวนกลาง และอดีตรองผบช.ก. พร้อมพวกอีก 10 คน ในคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพ และคดีอาญาร้ายแรงหลายความผิด ว่า ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมพยานหลักฐาน และภายในสัปดาห์นี้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานกับตำรวจ เพื่อขอดูทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก. ที่ถูกยึดได้ ว่าเป็นของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หรือไม่ และมีที่มาที่ไปอย่างไร เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าตรงกับทรัพย์สินที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์เคยยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ผบช.ก.หรือไม่ จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ช.อีกครั้งหนึ่ง หากเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน หรือร่ำรวยผิดปกติ ป.ป.ช.ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นกระบวนการเดียวกับที่ ป.ป.ช.เคยตรวจสอบกรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคมมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานคงจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีพยานหลักฐานอยู่แล้ว หากพนักงานสอบสวนยืนยันว่าหลักฐานเป็นของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ก็สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนั้น ป.ป.ช. จะตรวจสอบขยายผลไปถึงกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์จะอยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัว ป.ป.ช.ก็จะไม่ตัดสิทธิการให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดย ป.ป.ช.สามารถเข้าไปรับฟังคำชี้แจงของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ในเรือนจำได้
“ในเมื่อเรื่องนี้มีประเด็นที่สาธารณให้ความสนใจ ป.ป.ช.ก็ต้องเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก ไม่ใช่รอให้มีการร้องเรียนเข้ามาอย่างเดียว เพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หรือดำเนินการอะไรเป็นพิเศษแต่อย่างใด”นายสรรเสริญกล่าว
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบในส่วนของพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.รวมทั้ง 2 คนขับรถที่พบว่ามีทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกันนั้น ต้องดูอีกรอบหนึ่ง เพราะรายอื่นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ซึ่งจะเหลือเพียงเรื่องร่ำรวยผิดปกติอย่างเดียว โดย ป.ป.ช.จะต้องไปหาข้อมูลว่าพื้นฐานของแต่ละคนเป็นอย่างไร เพราะในการตรวจสอบเรื่องร่ำรวยผิดปรกติต้องมีข้อมูล ว่ามีเหตุอันควรสงสัย