ตามที่คุณนิคม ได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมโดยยื่นวัตถุพยานสำคัญ เพื่อต้องนำสู่การพิจารณาของ สนช. เพื่อให้มีมติการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม สนช. ในข้อ 153 และ 155 ที่ประธาน สนช. ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการประชุมถอดถอนนั้น ต้องยึดถือสำนวนของ ป.ป.ช. เป็นหลัก
แต่ ป.ป.ช. มิได้ดำเนินการไต่สวนเพื่อถอดถอนโดยตัวของ ป.ป.ช. เอง แต่ทำหน้าที่แทนสภา ซึ่งแต่เดิมมาก็คือวุฒิสภา ซึ่งอดีตประธานวุฒิสภา เป็นผู้ส่งเรื่องนี้ไปยัง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการถอดถอน โดยให้ดำเนินการไต่สวน และส่งกลับมาว่า สมควรจะชี้มูลความผิดในเรื่องถอดถอนหรือไม่ ดังนั้น ป.ป.ช. จึงมิได้มีอำนาจดำเนินกระบวนการถอดถอนเองแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดเอาไว้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่ของ ส.ว.
ในกระบวนการทั้งหลาย จำเป็นต้องทำอย่างเคร่งครัด ทำอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบข้อบังคับ และตามหลักนิติธรรม จะทำนอกเหนือจากกระบวนการทั้งหมดหาได้ไม่ เพราะเราเป็นเครื่องมือหนึ่งในรัฐธรรมนูญ และของวุฒิสภาในขณะนั้น แต่บัดนี้ทาง สนช. ได้ทำหน้าที่ในฐานะเป็นสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จึงต้องรับภาระเรื่องนี้แทนวุฒิสภา
กระบวนการที่ ป.ป.ช. ดำเนินการต้องยึดเป็นหลัก ตามข้อบังคับที่ 153 แต่หากต้องการเพิ่มเติมพยานหลักฐานได้ต้องตามข้อบังคับที่ 155 ได้ตรวจสำนวนและรายละเอียด อยากเรียนว่า ให้ดูรายงานและสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นของคุณนิคม รวมทั้งหมด 110 หน้า เพราะเราไม่ได้มีการปกปิด ซุกซ่อน หรือซ่อนเร้นอะไรเลย ทุกอย่างปรากฏในนี้หมด
คุณนิคมยื่นขอเพิ่มเติมพยานวัตถุสำคัญต่อประธาน สนช. โดยขอนำแผ่นบันทึกวีดิทัศน์การประชุมร่วมของรัฐสภา ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขที่มาของ ส.ว. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาจำนวน 2 แผ่นดังที่ได้แถลงต่อที่ประชุมเมื่อครู่นี้ และต้องการนำมาแสดงต่อ สนช. เพื่อพิจารณา
วัตถุพยานดังกล่าว ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริง ได้มีการรวบรวมไว้ในสำนวนเรียบร้อยหมดแล้ว ก่อนที่จะมีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ดังปรากฏหลักฐานวัตถุพยาน ไม่ใช่ 9 แผ่น แต่มีรวมทั้งหมด 91 แผ่น ตามที่ได้กล่าวถึงอยู่ในสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง และได้มีการยึดหลักว่า จะต้องนำเอาพยานวัตถุทั้ง 91 แผ่นนี้ รวมถึงบันทึกการประชุมร่วมของรัฐสภานำมาประกอบกันด้วย
ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เริ่มจากเรา แต่ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนโดยถือหลักพยานหลักฐานตั้งแต่ชั้นศาลรัฐธรรมนูญด้วย โดยสำหรับบันทึก 91 แผ่นนี้ ก็สืบเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการไต่สวน และรับเข้าไว้ในการไต่สวนเรียบร้อยหมดแล้ว ฉะนั้นพยานวัตถุที่ผู้ถูกกล่าวหา (นายนิคม) ได้นำมานั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของพยานวัตถุจำนวน 91 แผ่นนี้ แต่ได้ดำเนินการตัดต่อเพื่อให้กระชับขึ้น หรือว่าเพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่จะแก้ข้อกล่าวหานั่นเอง
“แต่ถ้าจะถามว่ามันอยู่ในสำนวนแล้วหรือยัง อยู่หมดแล้ว อยู่ในซีดี 91 แผ่นทีได้ชี้แจงต่อ สนช. ไปแล้ว”
วัตถุพยานเหล่านี้ เป็นสิ่งซึ่งสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ส่งให้กับ ป.ป.ช. ภายหลังขอเอกสาร และพยานหลักฐานดังกล่าว รวมทั้งขอสำเนารายงานการประชุมทั้งหมดมาพิจารณาด้วย หมายความว่า แผ่นบันทึกวีดิทัศน์นี้ ไม่ต้องเปิดดูก็ได้ แต่อ่านได้เลยในสำเนารายงานบันทึกการประชุมทั้งหมด ที่จะต้องนำมาประกอบ เพื่อที่จะดูรายละเอียดว่าใครพูดอะไร เพราะดูจากบันทึกนั้นเราก็พอเห็น แต่มันจะต้องทบทวนว่า แต่ละท่านพูดอะไร มีการโต้แย้งว่าอย่างไร มีการคัดค้านว่าอย่างไร ซึ่งตัวรายงานนั้นเป็นเรื่องของการกล่าวหา ที่เราได้ไต่สวนพยาน-เอกสารที่เกี่ยวกับการกระทำของคุณนิคม กรณีการปิดอภิปราย แล้วตัดสิทธิ์สมาชิกผู้สงวนคำแปรญัตติในวาระที่ 2 สมัยสามัญทั่วไป เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. ปรากฏครบถ้วนในสำเนารายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภาแล้ว
“จากแผ่นบันทึกวีดิทัศน์นี้สามารถอ่านดูได้ตามเอกสารประกอบในสำนวน วัตถุพยานก็ดี บันทึกรายงานการประชุมของสภาทั้งหมดที่กราบเรียนมานี้ ในกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาตรวจสอบดูแล้ว หลังจากแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามิได้ใช้สิทธิ์ในการตรวจดูแต่อย่างใด คงจะเข้าใจว่ารู้เรื่องเหล่านี้ดีหมดแล้ว”
ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาเองได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจา และด้วยหนังสือ โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกข้อ และมอบเอกสารประกอบคำชี้แจง เพื่อประกอบการพิจารณาของ ป.ป.ช. และขอให้เรียกพยานบุคคลเพื่อไต่สวนเพิ่มเติม เราก็ให้หมดทุกคน ตอนที่ท่านต่อสู้คดี ไม่ได้มีการตัดพยานหรือห้ามไม่ให้นำเอกสารหลักฐานใดมาประกอบทั้งสิ้น
“เพราะในส่วนที่กล่าวอ้างว่า มีแผ่นบันทึกวีดิทัศน์ ต้องการให้สรุปให้เห็นใตแต่ละส่วนที่จะชี้แจงต่อสภาแห่งนี้ ก็เลยตัดต่อให้กระชับขึ้น ซึ่งก็ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หาใช่ประกอบกับการไต่สวน ซึ่งเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. มิได้อนุญาตให้เอาเข้ามา เพราะปรากฏครบถ้วนหมดแล้ว อยู่ในซีดี 91 แผ่น อ่านรายละเอียดได้โดยไม่จำเป็นต้องดูด้วยซ้ำไป”
ป.ป.ช. ให้โอกาสอย่างถึงที่สุด เนื่องจากเห็นว่าการกระทำหน้าที่ของประธาน หรือสมาชิกทั้งหลาย ล้วนเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ แต่มีการร้องเรียน มีการกล่าวหา และวุฒิสภาในขณะนั้น มอบหมายให้ทำหน้าที่และยังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไว้แล้ว เราเลยต้องวินิจฉัยให้เที่ยงธรรม และถูกต้องที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี