11 ธ.ค.57 นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ได้ออกมากล่าวใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์หลายเรื่อง เช่นว่า พรรคใช้เงินในการเลือกตั้งมาก ให้ยอมรับความจริงเลิกหลอกตัวเอง หันมาทำนโยบายเพื่อคนส่วนใหญ่ หวังอำนาจพิเศษเพื่อเป็นรัฐบาล ให้ปฏิรูปพรรค ไม่มีทางชนะการเลือกตั้ง และจะสูญพันธ์ุ และจะพาประเทศล่มจม

โดย นายราเมศ กล่าวว่า เป็นคำกล่าวหาโจมตีเพื่อทำลายพรรคประชาธิปัตย์เพียงเท่านั้น พรรคอยู่มาได้ 69 ปี ดำเนินการทางการเมืองยึดมั่นในระบบการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าไม่ดีจริงไม่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้แน่ พรรคไม่ได้ตั้งมาเฉพาะกิจ แต่ตั้งมาด้วยศรัทธาในการรับใช้ประเทศชาติและประชาชน

"พรรคของนายพิชัยดีนักหรือ ตั้งกี่ครั้งถูกยุบกี่ครั้ง เพราะทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น การใช้เงินในการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์เราใช้ตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียง เพราะถ้าใช้เงินซื้อเสียงสมัยที่ผ่านๆ มา พวกคุณมีอำนาจคุณจัดการเล่นงานแล้วแน่ และคงถูกยุบไปเหมือนเช่นพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน" นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวต่อว่า พรรคเรายอมรับความจริงอยู่แล้ว ในความเป็นสถาบันทางการเมืองพรรคพร้อมเป็นทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ผลงานที่ผ่านมาประชาชนทราบดี พรรคออกแบบนโยบายที่ให้ความยั่งยืนกับประเทศและประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเหมือนบางพรรค ที่สำคัญพรรคไม่เคยคิดออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกงบ้านโกงเมือง ไม่เคยมีนโยบายว่าจังหวัดไหนเลือกเราเราพัฒนาจังหวัดนั้น ไม่เคยสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากมายมหาศาล เช่นพรรคเพื่อไทย ที่โครงการรับจำนำข้าวประเทศเสียหายไปเป็นกี่แสนล้าน

นายราเมศ กล่าวอีกว่า พรรคไม่หวังอำนาจพิเศษมาเป็นรัฐบาล แต่เราหวังอำนาจประชาชนในการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน และเป็นรัฐบาลตามครรลองของรัฐธรรมนูญทุกประการ นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลือกนายกรัฐมนตรีมาจากสภาถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เชื่อว่านายอลงกรณ์ก็คงไม่มาเป็นรัฐมนตรี

"พรรคประชาธิปัตย์จะชนะหรือแพ้อยู่ที่ประชาชน เราทำหน้าที่ได้หมด ที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ไม่ต้องเป็นห่วงพรรคเรา เอาพรรคคุณให้รอดจะดีกว่าเพราะถ้าสูญพันธ์คงมาไม่ถึง 69 ปี" นายราเมศ กล่าว

ทั้งนี้ การปฏิรูปในพรรคมีการพัฒนาไปตามเวลา ไม่ได้หยุดนิ่งในปัญหาของประเทศชาติและประชาชน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนดีมีคุณธรรม ลูกพรรคไม่คิดทำในสิ่งที่ไม่ดี นี้คือสิ่งที่ทำให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าหัวหน้าพรรคชั่ว ลูกพรรคทำในสิ่งที่ชั่ว พรรคก็จะสูญพันธ์ุแน่นอน ซึ่งมีให้เห็นมาแล้ว ตั้งพรรคทำชั่วถูกยุบ ตั้งใหม่ทำชั่วอีกถูกยุบอีก ตั้งใหม่อีกทำชั่วอีก คงไม่นานสูญพันธ์อีกแน่

ส่วนกรณีที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำประเทศล่มจม อยากให้นายพิชัยไปยืนพูดหน้ากระจก เพราะมันจะสะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยต่างหากที่จะทำให้ประเทศชาติล่มจม เป็นรัฐบาลแต่ละโครงการทำไปเสียหายกับประเทศไปเท่าไหร่ ถ้าเป็นรัฐบาลต่อนี้แหละที่ประเทศจะล่มจม อย่าพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ชี้นิ้วด่าพรรคประชาธิปัตย์ แต่หารู้ไม่ว่าอีก 4 นิ้วหันเข้าพรรคตัวเองทั้งนั้น ให้ไปถามนายอลงกรณ์ ซึ่งอยู่พรรคประชาธิปัตย์มานานจะรู้ดีว่า พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยมีความต่างกันอย่างไร