วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เอื้อใคร!'อำนวย'สั่งเดินหน้าซื้อยาง มัดมือชกครม.ถลุง8พันล.

เอื้อใคร!'อำนวย'สั่งเดินหน้าซื้อยาง มัดมือชกครม.ถลุง8พันล.

วันอังคาร ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 19.02 น.
Tag :
  •  

10 ก.พ.58  แหล่งข่าวระดับสูงจาก คณะรัฐมนตรี(ครม.) เปิดเผย ความคืบหน้าล่าสุด ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเสนอ ครม. ขออนุมัติเงิน  เพื่อใช้ในการรับซื้อยางพาราในโครงการมูลภัณฑ์​กันชน  รักษาเสถียรภาพราคายางพารา ในการประมูลยาง กว่า อีก 8,000 ล้านบาท ว่า ล่าสุด สำนัก เลขาธิการ ครม.ได้ขอเลื่อนการเสนอขออนุมัติเงินดังกล่าวไปเป็นอังคารที่ 17 ก.พ.58 เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ติดภารกิจไปราชการในต่างประเทศ ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุม ครม. ในวันนี้ได้ 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายอรุณ เลิศวิไล กรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการองค์ การสวนยาง ได้ทำหนังสือ ที่ กษ.1602/174 ลงวันที่ 9 ก.พ.58 เรื่องการขอชะลอการเข้าประมูลยางตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ถึงนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานกรรมการบริหารองค์การสวนยาง โดยระบุว่า ตามที่องค์การสวนยางได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชน รักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดยการประมูลผ่านกลไกลการตลาดกลางยางพาราทั้ง6 ตลาด และเครือข่าย(ตลาด สกย.108ตลาด) ขององค์การสวนยางนั้น

บัดนี้ องค์การสวนยาง ได้นำเงินกู้ จำนวนเงิน 6,000 ล้านบาท ที่ได้กู้ จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ตามที่ ครม. ได้อนุมัติ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.57 เพื่อใช้ดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว องค์การสวนยางได้เข้าประมูลยาง ผ่านกลไกตลาดกลาง ประกอบด้วยยางแผ่นรมควัน(ไม่อัดก้อน)  ยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง SRT20 และยางแผ่นดิบ ณ วันที่ 9 ก.พ.58 ประมาณ ยางที่ประมูลได้จำนวนทั้งหมด 97,816.38 ตัน ส่งผลให้เงินกู้ จำนวนดังกล่าวได้ซื้อยางหมดแล้ว  ดังนั้น ตั้งแต่ วันที่ 10  ก.พ.58 เป็นต้นไป องค์การสวนยางจึงไม่มีเงิน ที่จะใช้ซื้อยางในโครการมูลภัณฑ์กันชนดังกล่าว จึงจำเป็นต้องชะลอการเช้าประมูลยาง จนกว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้ เพิ่มเติมจาก ครม.


อย่างไรก็ตาม จากหนังสือดังกล่าว นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ ได้ มีการสั่งการ ด้วยลายมือ ในหนังสือที่ส่งมา โดยระบุว่า ขณะนี้ ยางยังไม่เพียงพอ ตามสัญญา 2 แสนตัน จึงให้ดำเนินการดังนี้ 1.อสย.เข้าประมูลตามปกติของโครการ โดยแจ้ง ให้ผู้ขายทราบว่า การชำระเงิน อาจล้าช้า ระหว่างการขออนุมัติจาก ครม., 2.ให้ตลาดกลาง ทำความเข้าใจกับเกษตรกรและผู้จำหน่าย ให้เข้าใจอย่างทั่วถึง และข้อ 3.หากมีปัญหาในทางปฎิบัติให้ รายงาน ให้ทราบโดยทันที  

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า จากหนังสือดังกล่าว ถือว่าเป็นการโดยมิชอบ และผิดปกติ เนื่องจาก ครม. ยังไม่มีการอนุมัติเงิน ให้มีการดำเนินการในโครงการดังกล่าวต่อ และหากดำเนินการต่อไป หาก ครม. ไม่อนุมัติอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ เพราะตามกฏหมาย การดำเนินการในโครงการใดๆ ที่ต้องใช้งบประมาณ ต้องผ่านการอนุมัติเงินถึงสามารถดำเนิการต่อได้ การสั่งการดังกล่าว ถึงเท่ากับ บีบให้ ครม.อนุมัติ ให้มีการดำเนินการตาม

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ในการเสนอ ครม.ในครั้งนี้ แทนที่จะเสนอในเรื่อง การดำเนินการแก้ปัญหาราคายาง ในส่วนน้ำยางดิบ  และยางแผ่นดิบที่เกษตร ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ขายยางชนิดดังกล่าว แต่กลับไม่มีการเสนอให้ แก้ปัญหาแต่กลับเสนอขอเงินในการรับซื้อยาง ในส่วนที่ไม่ได้มาจากเกษตรกรจริง โดยส่วนใหญ่ ตามโครงการมูลภัณฑ์กันชน ที่กล่าวอ้างขออนุมัติไปแล้ว 6,000 ล้านบาทที่หมดไป พบว่า ไม่ถึงมือเกษตรกรจริง เพราะขณะนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ขายน้ำยางดิบและยางก้นถ้วย เท่านั้น เนื่องจากไม่มีเครื่องมือ ที่จะทำยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่จะเข้ามาขายในโครงการได้ ซึ่งในส่วนของ อสย. และสหกรณ์ ที่นำยางมาตามที่ นายอำนวย อ้างมาตลาด เท่าที่ตรวจสอบ ทั้งปี ก็ไม่สามารถผลิตยางแผ่นรมควันได้ถึง 5,000 ตัน และจากการตรวจสอบ ในส่วนเงินที่นำไปใช้ทั้งหมด กว่า 6,000 ล้าน จึงชี้ให้เห็นว่า ทั้งหมดเป็นการช่วยเหลือเอกชน และผู้ส่งออกยางพาราเกือบ 99% ไม่เกิดประโยชน์ ต่อเกษตรกรที่แท้จริง และไม่มีการกำหนดด้วยว่า คนที่จะเอายางมาขายต้องเป็นใคร ทั้งที่ เรื่องข้าว และสินค้าอื่นคนที่จะต้องมาขายมีการกำหนดว่าต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ ในโครงการนี้กลับไม่มีการกำหนดคุณสมบัติ เอาไว้ ถือว่าแปลกมาก

"ผมไม่ทราบว่า กระทรวงเกษตรฯ เขาทำอะไรกันอยู่ เพราะยางที่เกษตรกรขายตอนนี้ มีเพียง น้ำยางสด และยางแผ่นดิน ซึ่งยังราคาต่ำ แต่คุณอำนวยยังสั่งให้ อสย. ซื้อยางในตลาดกลางอีก ซึ่งยางที่เขาซื้อ ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าและผู้ส่งออกเอามาขาย เกษตรกรที่ไหนขายยางในตลาดกลาง เป็นวันละ 3,000 ตัน มีแต่พ่อค้าเอายางมาขาย  เอายางที่ไหนมาขาย เขาขายเฉพาะน้ำยาง และเกษตรกรที่ไหน มีโรงอบ เขาไม่มี ถามว่าตอนนี้ รัฐบาลช่วยใคร ตอนนี้ ซื้อยางช่วยพ่อค้าเก็บแล้ว 97,000 ตัน ไม่พอ จะซื้อให้ได้อีก ถึง 2 แสนตัน ตกลงเขาช่วยใครครับ ก่อนหน้านี้เห็นท่านรัฐมนตรีเกษตรฯ(นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) ก็บอกให้ไปดู เรื่องราคารับซื้อน้ำยาง และยางแผ่นดิบ แต่ก็ยังช่วยกลุ่มเดิม คือพ่อค้า ตกลงกระทรวงเกษตรฯ ไม่ทราบว่าเขาช่วยใคร ตอนนี้ ยางก็ ใกล้ปิดการกรีด ก็ยังไม่ช่วยเกษตรกร แล้วยังเดินหน้า ช่วยพ่อค้าอีก แปลกที่นายอำนวย กล้ามากที่กล้าสั่งให้ อสย. เดินหน้า ทั้งที่ ครม.ยังไม่อนุมัติเงิน อย่างนี้ ไม่ทราบปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือเปล่า" แหล่งข่าวกล่าว 

จากการตรวจสอบ ในส่วนของสต๊อกยางของรัฐบาลขณะนี้ พบว่า มีมากถึงกว่า 3 แสนตัน โดย ในส่วนของเดิม 2.1 แสนตัน ที่ทำสัญญา ขายให้กับเอกชนจีน ที่บอกว่า จะเร่งระบายยาง ขณะนี้ ยางยังค้าในสต๊อก เพราะขายยางไปได้แค่ 8 พันกว่าตัน ซึ่งเป็นยางเก่าที่เอกชนกดราคารับซื้อในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 40 บาท จากที่มีเอกสารแนบท้าย 2 และเอกสารแนบท้าย 4 ที่สอดไส้ในสัญญา ที่มีการลงนาม จากหน้าสัญญา ตกลงซื้อขายที่ 63.56 บาท  และมีการหักค่าดำเนินการอีก 3.30 บาท เหลือที่ขายจริง 60.36 บาท ต่อกิโลกรัม แต่ไม่เคยขายได้ เพราะสัญญาแนบท้ายให้ปรับลดตามคุณภาพ ส่งผลให้เอกชน ซื้อยางเฉพาะยางคุณภาพต่ำ จนกดราคารับซื้อในประเทศ และมียางใหม่ในโครงการมูลภัณฑ์กันชนอีก 9.7 หมื่นตันอีกด้วยซึ่งอาจเป็นปัญหาระยะยาว หากไม่ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน 

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบเชิญลึก ยังพบว่า ในส่วนเอกสารสัญญาซื้อขายยางที่ อสย. ลงนามสัญญากับทางเอกชนจีน ที่เป็นปัญหาที่มีการมองว่าเอื้อเอกชนจีนนั้น เท่าที่ตรวจสอบตามหลักการ สัญญาที่มีการลงนามสัญญาใดๆ ที่กระทรวงหรือหน่วยงานรัฐจะต้องลงนามที่เป็นผลผูกพันธ์ที่ไม่ใช่สัญญา โดยปกตินั้น จะต้องส่งให้ทางสำนักอัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจร่างสัญญา เพื่อไม่ให้รัฐบาลเสียเปรียบ แต่ปรากฎว่า ในส่วนของ อสย. ที่ส่งไปที่อัยการ นั้น มีเพียงสัญญาหลัก แต่ไม่ได้มีเอกสารแนบท้ายไปด้วย และมีการสอดไส้กันภายหลังระหว่างลงนาม ซึ่งทำให้ รัฐบาลเสียเปรียบอย่างมาก และส่งผลให้ราคาในประเทศ ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จาก การกดราคารับซื้อของเอกชนโดยอ้างสัญญาแนบท้าย 2 เรื่องการปรับลดตามคุณภาพ จากปัญหาที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากรัฐมนตรี ได้สั่งให้เลขาส่วนตัว มาขอเอกสารแนบท้าย ที่เป็นปัญหา ที่ อสย. เพื่อทำการตรวจสอบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม\'คดีฮั้ว\' แบ่งเป็น 3 ลอต ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต
  • ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! \'รพ.ราชทัณฑ์\'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ\'แพทยสภา\' ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
  • อดทนต่อคำปรามาส! \'นิพิฏฐ์\'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้\'คดีชั้น 14\' อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'
  • \'สมชาย\'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง\'วิษณุ\'ไปศาลอาญาทำไม? 'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
  • \'นายกฯ\'ยินดี พระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ได้ตำแหน่งสันตะปาปาองค์ที่ 267 'นายกฯ'ยินดี พระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ได้ตำแหน่งสันตะปาปาองค์ที่ 267
  • \'อิทธิพร\'ลุยประจวบฯ เช็คความพร้อมเลือกตั้ง สท.-นายกเทศมนตรี 'อิทธิพร'ลุยประจวบฯ เช็คความพร้อมเลือกตั้ง สท.-นายกเทศมนตรี
  •  

Breaking News

เริ่มแล้ว!!! การแข่งขันเรือใบ Trat Regatta 2025 ระดับนานาชาติครั้งแรกในจังหวัดตราด

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved