2 เม.ย.58 ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จ.ขอนแก่น นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีสำนวนที่มีการร้องเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า มีสำนวนคดีมาก ซึ่งมีศาลอุทธร์ภาค 4 ร่วมกับ กกต.ดำเนินการอยู่ 12 จังหวัด ก็เป็นธรรมดาที่คดีการเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีมากกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งมีคดีที่ไม่เป็นสาระหรือคดีที่เกี่ยวกับทุจริตที่แท้จริง เช่น การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) โดยที่ผู้สมัครเลือกตั้งกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.พ.ศ.2550 โดยมีคดีที่ไม่ทุจริตที่แท้จริงอยู่ 50% นอกนั้นจะเป็นการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นหลัก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ เพราะปัจจุบันนักการเมืองไม่ได้ซื้อเสียงเหมือนเดิม แต่มีการซื้อเสียงล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้ง โดยรูปแบบเป็นการให้บริการต่างๆ แทนเงิน
การใช้นโยบายประชานิยมทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ก็ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับโครงการลักษณะแบบนี้ อยู่ที่คนออกแบบกฎหมายซึ่งมาจากประชานิยมยุคใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากไม่ว่าระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น เราควรที่จะตรวจสอบหลังจากที่เขาทำโครงการนิยมครบ 1 ปี ว่าได้ทำโครงการนิยมจริงหรือไม่ หากไม่ทำจริงก็ถูกถอดถอนเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำนวนคดีเลือกตั้งระดับชาติ ขณะนี้เหลือเพียงคดีเดียวคือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวหาผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กรณีใส่ร้ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าก็จะเสร็จเรียบร้อย และนำเข้าวาระการประชุมของ กกต.ส่วนในระดับท้องถิ่นมีอยู่ประมาณ 60 เรื่อง คาดว่าจะเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้
"ผู้จักการเลือกตั้งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายการปกครอง เพียงแต่ว่าบทที่เขาจะสวมจะสวมเป็นใคร ถ้าสวมบทเป็น กกต.ก็จะดี มีความเชื่อมั่นมีความเป็นกลางทางการเมือง ถ้าสวมบทเป็นกจต.ท่านจะสุจริตท่านจะเป็นกลางอย่างไร นักดารเมืองจะเชื่อมั่นตรงนั้นหรือไม่ ว่าท่านสุจริตหรือเป็นกลางจริงก็ขึ้นอยู่ที่การสวมบทของท่าน หากหลังจากการเลือกตั้งมีนักการเมืองร้องคัดค้านมาว่า คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) มีการทุจริตการเลือกตั้ง ทาง กกต.ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบ กกต.จะต้องทำอย่างไรในเมื่อเอกสารหลักฐานต่างๆ อยู่ที่ กจต." นายบุญส่ง กล่าวว่า
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า ทางสำนักงาน กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งไว้แล้ว ทั้งในเรื่องของจำนวนเจ้าหน้าที่ ความรู้ และความสามารถต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญที่กำลังจะเกิดขึ้นได้กำกับชัดเจนถึงการเลือกตั้งว่าให้มีความสุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งนี้ เราได้จัดอัตรากำลังของบุคลากรใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรับมือกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาเราก็ต้องทำตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เราได้นำแนวคิดของสำนักงาน กกต.เสนอไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เราไม่หนักใจเพราะเราได้กำกับดูแลมาตั้งแต่ต้นแล้ว ส่วนกรณีที่จะมีการตั้ง กจต.นั้น ในอดีตที่ผ่านมา กกต.ได้จัดการเลือกตั้งมาโดยสำเร็จเรียบร้อยมาตลอด แต่จะมีก็ตอนเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเท่านั้น หากถามว่ามีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของ กกต.หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศการจัดการเลือกตั้งได้อยู่แล้ว หากมีการจัด กจต.ขึ้นมาจะจัดองค์กรอย่างไร ซึ่งในส่วนนี้มีผู้สมัตรร้องว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทำผิดจะทำอย่างไร ซึ่งเรามั่นใจว่า กกต.ทำงานดีอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี