1 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.15 น.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเพื่อนชาวเนปาล และผู้ที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ของประเทศเนปาล ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว โดยพระราชทานเงิน 10 ล้านบาท ในการช่วยเหลือดังกล่าว และในเบื้องต้นทางรัฐบาลได้มอบเงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลเนปาลไปแล้ว จำนวน 2 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6 ล้านบาท ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้กำลังรวบรวมความช่วยเหลือต่างๆ ที่ประชาชนคนไทยได้ร่วมมือกันเสียสละเพื่อช่วยเหลือเนปาลในระยะต่อไป
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการขนส่งอุปกรณ์ เครื่องอุปโภคบริโภค และจัดส่งบุคลากรด้านต่างๆ ไปยังประเทศเนปาล เราถือเป็นแกนนำในการบรรเทาภัยพิบัติอยู่แล้ว หลายประเทศก็มาฝึกกับเรา ในครั้งนี้ได้นำทีมแพทย์ของเราไปตั้งโรงพยาบาลสนาม และศูนย์ประสานงานทางด้านการแพทย์ด้วย ทั้งยังมีการเตรียมส่งเจ้าหน้าไปเพิ่มเติมในการพิสูจน์เอกลักษณ์เพิ่มเติมด้วย ในส่วนของประชาชนที่สนใจบริจาคเพื่อช่วยเหลือนั้น สามารถบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย บัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 รวมทั้งที่ศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยทหารทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้บริจาคสามารถนำหนังสือการรับเงินบริจาคที่ออกให้ หรือใบโอนเงิน สลิปของธนาคาร ที่บริจาคเป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีเงินได้ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายช่องทางของเอกชน ซึ่งจะส่งต่อมาให้รัฐบาล
"สำหรับการช่วยเหลือของเรานั้นอาจจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นความจริงใจของรัฐบาลไทย และพี่น้องประชาชนคนไทยที่ร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเนปาล เพราะเราก็คือครอบครัวเดียวกัน บ้านเมืองก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่ร่วมแสดงน้ำใจ คนไทยเราไม่แพ้ชาติไหนในโลก วันนี้เพื่อนเราลำบาก ต้องดูแลเพื่อน ให้ผ่อนคลายทุกข์ของเขา ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกัน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่จริงใจต่อกันอย่างแท้จริง" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 26 - 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ประเทศมาเลเซียด้วยว่า เป็นการประชุมภายใต้หัวข้อ "ประชาชนของเรา ประชาคมของเรา วิสัยทัศน์ของเรา" เพื่อประสานความร่วมมือของอาเซียนในด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง ในทุกมิติ โอกาสนี้ตนได้เสนอว่า เราควรจะพัฒนาตราสินค้าอาเซียน หรือ ASEAN Brand ร่วมกัน เพื่อให้เกิดการยอมรับ โดยเน้นในเรื่องของอาหารก่อน ยกตัวอย่างหลายประเทศสนใจผลไม้ หรือผลผลิตทางการเกษตร แต่ติดปัญหาเรื่องใบรับรองมาตรฐานยังไม่เรียบร้อย จึงควรเร่งผลักดันในเรื่องมาตรฐานของภูมิภาค และต้องสร้างทายาทหรือสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า Smart Farmer ที่มีส่วนร่วมกันในการบริหารกิจการต่างๆของครอบครัว ทั้งนี้ตนยังได้ร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย ก็ได้พูดคุยกันถึงความคืบหน้าในเรื่องต่างๆ เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งระหว่าง 3 ประเทศ ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการค้าระหว่างกัน การพัฒนาพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้ง 3 ประเทศ คือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน หรืออื่นๆ เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศด้วยความจำเป็น แล้วก็พยายามสร้างความสงบเรียบร้อย สร้างเสถียรภาพให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็นำแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดินที่เคยปฏิบัติกันมาแล้วมาปรับปรุง ประยุกต์ ปฏิรูป บูรณาการ ประสานงาน ให้รวดเร็วขึ้น และเป็นรูปธรรม รัฐบาลตั้งใจทำ แม้ว่าจะไม่ครบหมดทุกเรื่อง แต่ก็ถือว่าได้เริ่มเกือบทุกอย่างไว้ให้แล้ว บางเรื่องเร็ว บางเรื่องช้า บางอย่างก็อยู่ระหว่างตัดสินใจกันอยู่ นะ เพราะตอนรัฐบาลเข้ามามีปัญหามาก เศรษฐกิจก็ไม่ดีนัก รายได้ประเทศก็ตกลง จากทั้งการส่งออกสินค้าเกษตร และราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีน้ำมันลดลงด้วย รายได้รัฐก็ลดลง นอกจากเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ก็มีเรื่องความมั่นคง การจัดระเบียบ ป่าไม้อะไรต่างๆ มาตรฐานการบิน การค้ามนุษย์ การทำผิดกฎหมาย ข้อสำคัญคือการร่างรัฐธรรมนูญด้วย ทุกอย่างตีกันหมดตอนนี้ เพราะต้องรื้อทั้งหมด
"อย่าเอามาเป็นอารมณ์กันมากนัก สิ่งสำคัญวันนี้ผมอยากให้มองดูด้านเศรษฐกิจ กับความมั่นคงก่อนเป็นหลัก แต่เศรษฐกิจมันแก้ไม่เร็วนักหรอก เพราะขึ้นอยู่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้วย ราคาน้ำมันก็สำคัญ ถ้าแพงไป สินค้าก็แพงขึ้น แต่รัฐก็เก็บเงินได้เยอะขึ้น เมื่อราคาลดลงอย่างนี้ ประชาชนก็พอใจ แต่เศรษฐกิจตกลง ตอนนี้ก็กำลังหาทางอยู่ ไม่เคยหนีปัญหา รับฟังทุกที่ แล้วก็จะแก้ไข เร่งดำเนินการ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาของเราคงไม่แตกต่างจากคนอื่นมากนัก เพียงแต่ว่าเราจะต้องทำให้มันเร็วขึ้น เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานั้นตนคงไม่กล่าวเป็นผลงานรัฐบาลฝ่ายเดียว ทุกคนมีส่วนร่วม รัฐบาล ข้าราชการ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกภาคส่วน ช่วยเรามาตลอดระยะเวลาของรัฐบาล 6 เดือนกว่าๆ รวมกับ คสช.เกือบปี ก็ช่วยกันเต็มที่ หยุดเลือดไม่ไหลอีก คอยให้น้ำเกลือ ตอนนี้ก็เริ่มแข็งแรงขึ้นมาเรื่อยๆ แต่จะให้ไปวิ่งเลยทันทีคงไม่ได้ เพราะนอนซมมานานแล้ว
นายกฯ ยังได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมแสดงความยินดีกับ "น้องเมย์" รัชนก อิทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทย ที่เพิ่งได้แชมป์เอเชียที่ประเทศจีนด้วยว่า อยากจะให้ทุกคนร่วมกันแสดงความยินดีให้กับน้องน้องเมย์ ซึ่งตนได้บอก กับผู้สนับสนุนและทางรัฐมนตรีว่า เวลาที่เด็กไทยไปได้รางวัลมา ทุกคนก็คาดหวัง จนทำให้เด็กมีความรู้สึกกดดัน การเล่นก็ตกลง เพราะฉะนั้นต้องให้กำลังใจเขา เล่นให้เต็มที่ อย่ากังวล ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร รวมทั้งต้องส่งเสริมเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย ในส่วนของการคัดนักกีฬาต้องมาจาก 2 ส่วน คือ ประเภทหนึ่งสมาคมคัดมา อีกส่วนเป็นพวกช้างเผือก ส่งเข้ามาจากต่างจังหวัด แล้วมาคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเล่นพรรคเล่นพวก
ในช่วงท้ายของรายการ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวทำความเข้าใจและรายงานผลการดำเนินงานด้านการต่างประเทศด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี