17 พ.ค.58 พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ในฐานะทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอ นายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามและแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การอพยพของชาวโรฮีนจา โดยแสดงความเห็นว่า คนเหล่านี้ควรจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้ดำรงชีวิต ซึ่ง นายกฯ ได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์เช่นกัน และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าตรวจและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อดูแลบริเวณน่านน้ำไทย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อมีการตรวจพบเรือชาวโรฮีนจา ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบในเบื้องต้นถึงสภาพเรือ ความเป็นอยู่ พร้อมสอบถามความต้องการและเจตนารมณ์ของคนเหล่านี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และตามความสมัครใจของคนเหล่านั้น เช่น กรณีล่าสุด เจ้าหน้าที่ไทยได้รับการร้องขอให้ช่วยเรื่องการซ่อมเรือ พร้อมทั้งขอสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องอาหาร และน้ำเพื่อบริโภค อุปโภค ยารักษาโรค และน้ำมันเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม ตามความสมัครใจของคนเหล่านั้น ยืนยันด้วยว่า การทำงานของหน่วยเฉพาะกิจเป็นไปตามขั้นตอน โดยมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นลำดับแรก จากนั้นจะสอบถามความสมัครใจของชาวโรฮีนจา ซึ่งการปฏิบัติของไทยนอกจากจะอยู่บนพื้นฐานหลักมนุษยธรรมแล้ว ยังเป็นไปตามหลักกฏหมายสากล กฏหมายทางทะเลและกฏหมายระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำว่า ทุกประเทศต่างก็มีกฏหมายของตนในการปฏิบัติต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้น การดำเนินการใดๆ จะต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย
ขณะที่ เลขาฯ ยูเอ็น ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และสอบถามถึงการประชุมวาระพิเศษ เรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย พร้อมกันนี้ได้กล่าวชื่นชมว่าเป็นความริเริ่มที่สำคัญของไทย ในการแสวงความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่ง นายกฯ ได้อธิบายว่า รัฐบาลไทยตระหนักดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ และเห็นว่าการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศและทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสหประชาติที่ต้องมีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือ โดยนายกฯ ได้ขอให้สหประชาชาติให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความยากจน เน้นการพัฒนาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยหวังให้คนเหล่านี้สามารถดำรงชีวิตได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
นอกจากนี้ เห็นว่าการประชุมร่วมของ 15 ประเทศ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ค.นี้ น่าจะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง เพื่อแสวงหาแนวทางและข้อสรุปของการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญกว่านั้น เวทีนี้จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ในการแสดงความรับผิดชอบต่อมวลมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตาม ตอนท้ายของการพูดคุยดังกล่าว นายกฯ ยังได้ขอให้ เลขาฯ ยูเอ็น ช่วยทำความเข้าใจกับองค์กรต่างๆ ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เน้นความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาทางสังคม ตามหลักมนุษยธรรมบนพื้นฐานของกฏหมายที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความข้ดแยังทางการเมือง ซึ่ง เลขาฯ ยูเอ็น กล่าวพร้อมสนับสนุนแนวความคิดนี้ และพร้อมร่วมมือเพื่อให้การประชุมของ 15 ประเทศ ประสบผลสำเร็จรวม ทั้งขอบคุณ นายกฯ รัฐบาลไทย และอาเซียน ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี