18 ส.ค.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ในช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค.ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งได้ส่งสารไปยังนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีในหลายประเทศที่มีประชาชนของเขาได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าเราจะหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว และจะดูแลชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย สถานทูตให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งไม่อยากให้เกิดความตื่นตระหนกเพราะจะมีผลต่อการเดินทางเข้าประเทศไทย และตนได้รับรายงานตั้งแต่เกิดเหตุซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปควบคุมการปฏิบัติให้ทหารตำรวจเข้าไปปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งจำเป็น ทั้งนี้ ต้องขอโทษสื่อมวลชนเพราะเราต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการปิดกั้นพื้นที่ 100 ถึง 200 เมตร เพราะถือเป็นพื้นที่อันตรายอาจมีเหตุซ้ำซ้อนได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากให้เสนอข่าวแต่ในข้อเท็จจริง อะไรที่เป็นการสืบสวนสอบสวนตนอยากให้ชะลอไปก่อน หรือไปตัดสินใจว่าให้น้ำหนักอะไรจนกว่าจะมีการพิสูจน์หลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งการสืบสวนต้องใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดและประสานให้ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มีภาพเหตุการณ์ได้ส่งรูปมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้วางกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยงพร้อมประสานให้มีการดูแลสถานทูต และแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ในการแจ้งข่าวซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด ที่สรุปได้คือการกระทำของคนเลว ที่ไม่เห็นแก่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสีย ไม่ว่าเขาจะทำด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสาเหตุอาจมาจากเรื่องการเมืองหรือเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ตนไม่อยากให้ลงความเห็นไปทางใดทางหนึ่งก่อน เพราะจะทำให้การสอบสวนผิดประเด็นไป และหากไม่ใช่จะกลายเป็นความตื่นตระหนก เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องถือเป็นบทเรียนที่จะต้องหาวิธีแก้ปัญหาในแนวใหม่ ไม่อยากให้ใช้การประโคมข่าวหรือโซเชียลมีเดียในการรับรู้ในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนเพราะจะมีผลเสียทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ก่อเหตุที่จะทำให้ทั ง 2 เรื่องดังกล่าวแย่ลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ที่ผ่านมาเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ แต่ครั้งนี้มุ่งหวังต่อชีวิตประชาชน พร้อมทั้งยืนยันยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออกไปและสิ่งที่รัฐบาลทำมาเป็นสิ่งที่ชอบธรรม ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใดนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ เพิ่งเกิดเหตุระเบิดแล้วจะถามทันทีจะรู้ได้อย่างไรต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ และต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุขึ้นมาอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่ก่อเหตุมีประมาณกี่คนหรือเป็นขบวนการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าวิเคราะห์จากสถานการณ์เบื้องต้นคนวางระเบิดสามารถวางคนเดียวได้ โดยนำมาวางในจุดที่มีคนพลุกพล่าน การป้องกันจึงทำได้ยาก และชาวต่างชาติอยู่เยอะ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ และยังจากเกิดเหตุมีการปล่อยข่าวทางโซเชียลมีเดียหรือตามสื่อบางสื่อว่าจะปิดสถาบันทางการเงิน ตรงนี้แสดงให้เห็นว่ามีขั้นตอนการทำงานอยู่แสดงว่าเป็นขบวนในการทำต้องไปหาว่าเป็นขบวนการไหน
"ขอร้องไปยังทุกคนทั้งสื่อ ประชาชนที่ใช้โซเชี่ยลมีเดีย รู้ว่าทุกคนหวังดีแต่เราต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งอาจเกิดได้ทุกที่ตลอดเวลาไม่เฉพาะประเทศไทย ดังนั้น ทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ไม่ใช่การตื่นตระหนก"นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า การข่าวได้มีการรายงานความเคลื่อนไหวของการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ผิดปกติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมายังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ส่อให้เห็น เพียงแต่มีการเคลื่อนไหวทางโซเชี่ยลมีเดียบ้างอะไรบ้างเหล่านี้ ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว เวลานี้กำลังตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ เขียนเพราะอะไร จริงหรือไม่จริง ที่โพสต์ใช้ชื่อ "นาย" อะไรสักคนนั่นหล่ะ กำลังให้ติดตามตัวมาสอบสวน
เมื่อถามว่า ผู้นำประเทศจีนได้ติดต่อมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ยังไม่มีการติดต่อมา เรื่องนี้ตนคิดว่าผู้นำแต่ละประเทศเห็นใจซึ่งกันและกัน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายที่ในโลกใบนี้เกิดกันบ่อยครั้ง ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือสร้างความร่วมมือให้ได้ และเพิ่มการเฝ้าระวัง เพิ่มมาตรการ เพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ นี่หล่ะคือสิ่งสำคัญของความมั่นคง หากความมั่นคงไม่พร้อมไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เครื่องไม้ เครื่องมือ ที่หลายคนเกรงกลัวเรื่องการทุ จริตอะไรต่างๆ มันก็จะทำไม่ได้ทั้งหมด ตนคิดว่าต้องมาทบทวนกันใหม่ ทำให้มันโปร่งใสชัดเจน เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย จะได้มีมาใช้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวอุยกูร์ นายกฯ กล่าวว่า ได้พูดไปแล้ว ทำไมจะต้องพูดให้มันชัดเจนว่าใครทำ มันยังไม่ทราบทั้งนั้น กำลังตามอยู่
เมื่อถามว่า ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำชับอยู่แล้ว ไม่กำชับก็บ้าสิ เมื่อถามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวต้องกำชับอย่างไร เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตื่นกลัว นายกฯ กล่าวอย่างมีอารมณ์โมโห ว่า อยู่ที่สื่อนั่นหล่ะ จะตื่นตระหนกก็เพราะสื่อนั่นหล่ะ ไปขยายกันเยอะแยะ ตนพูดไม่ฟัง ตนให้เสนอข้อมูลความจริงได้ ว่าเกิดระเบิดที่ไหนอย่างไร แต่ทำไมต้องวิเคราะห์นู่นนี่ แล้วทำไมต้องพูดถึงเศรษฐกิจจะตกต่ำ อ้างรัฐบาล แก้ปัญหาแย่ ก็พันกันอยู่แบบนี้ นี่หรือช่วยชาติ ไม่ได้ช่วยเลยนะ ตนไม่ได้ให้ช่วยปกปิดอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เสนอให้มันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย
เมื่อถามว่า ต้องทบทวนการทำงานด้านข่าวกรองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องทบทวน เขาทำอยู่แล้ว บอกแล้วว่าการทำงานมันมีการต่อสู้กันระหว่างคนจะทำกับคนป้องกัน เมื่อถามว่า วันนี้สื่อก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาก นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง ว่า ก็ดีแล้วไง ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่าถามนู่นนี่ เมื่อถามว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจอย่างไร นายกฯ ย้อนถามว่า แล้วมันซ้ำเติมไหม รู้แล้วถามทำไม
เมื่อถามว่า การเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภาครัฐจะดูแลอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า กำลังให้ดำเนินการอยู่ และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยมคนเจ็บคนป่วยแล้ว และดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง มันเป็นกฎหมาย จะใช้เงินของหลวงของรัฐ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็สั่งโครมลงไป อาจจะช่วยจำนวนหนึ่งในช่วงที่อยู่โรงพยาบาล เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยหารือกันเพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย
เมื่อถามว่า หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ นายกฯ วิตกกังวลเรื่องที่จะตามมาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็วิตก ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในประชาชน ไม่อยากให้เกิดความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
เมื่อถามว่า จะเป็นการจุดชนวนทางการเมืองขึ้นมาอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้สองอย่าง ระหว่างเรื่องการเมือง กับเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งยังไม่ได้ตัดว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่การเมืองมันขัดแย้งกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ใครเป็นคนจุดหล่ะชนวน ใครจุดตอบมาสิ ใคร
เมื่อถามว่า ในความตั้งใจอยากให้ผลการสอบสวนมีความชัดเจนโดยใช้เวลากี่วัน นายกฯ กล่าวว่า เร็วที่สุด วันนี้มีการนำกล้องวงจรปิดมาดูแล้ว พบมีบุคคลต้องสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ชัด ต้องหาตัวให้เจอก่อน เมื่อถามว่า มือโพสต์เฟซบุ๊คที่เหมือนจะรู้การณ์ล่วงหน้า เวลานี้รู้หรือยังว่าเป็นใครที่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ได้ให้ไปเรียกตัวคนโพสต์ดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งกำลังหาตัวอยู่ ส่วนหนึ่งอยู่ทางภาคอีสานนู่น ไอ้คนโพสต์เคยอยู่กลุ่มต่อต้านรัฐบาล
เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องใช้มาตรา 44 ในการดูแลสถานการณ์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ใช้อยู่แล้ว อำนาจผมมีเต็มอยู่แล้ว คสช.ทำอยู่แล้ว ใช้มาตรา 44 อยู่แล้วไม่ใช่ทำปั๊ป ในเรื่องความมั่นคงเขาเขียนอยู่แล้วในเรื่องอำนาจมาตรา 44 ให้ฝ่ายความมั่นคงใช้ได้ทุกอย่างทั้งการสืบสวน จับกุม ขอหมายศาลไม่ต้องขอหมายศาลด้วยซ้ำไป เมื่อถามว่า เป็นการท้าทายอำนาจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่สื่อ ตนไม่คล้อยตามอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ข้อมูลเบื้องต้นให้น้ำหนักทางการเมืองมากกว่าต่างประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการให้น้ำหนักเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า หลังเกิดเหตุการณ์คนไทยต้องทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องระมัดระวังตัว แต่ไม่ตื่นตระหนก ต้องรู้ตัวและมีบทเรียนว่าที่ผ่านเกิดอะไรขึ้นบ้างกับประเทศ ต้องระมัดระวังตัวไหม ไม่ใช่ปล่อยสบายๆ ก็รู้อยู่ว่ามีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ ก็แค่นั้นระมัดระวังแต่ไม่ใช่ตื่นตระหนก จนไม่ใช้เงินใช้ทอง ก็จะยิ่งทำให้เดือดร้อนกันเข้าไปอีก ต้องการแบบนั้นหรืออย่างไร และมันจะเกิดแบบนี้เพราะจากข่าวทางโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งวันนี้สื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวออกมา โดยที่ตนยังไม่เคยแจ้งอะไรเลย แต่มีข้อมูลเขียนก่อน รวมทั้งภาพระเบิด และคนบาดเจ็บ ความสูญเสียเหล่านี้ออกไปได้ประโยชน์อะไร ตนไม่เข้าใจ
"แต่ในต่างประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์ผ่านไปสามวันจากนั้นหยุดหมด เพราะเขาร่วมมือกับเพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ได้ นั่นละคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในบ้านนี้ เมืองนี้ ไม่ใช่ตัดสินใจลงความเห็นกันเอง หากเช่นนั้นไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ไม่ต้องมีกระบวนการสอบสวน ประชาชนสอบกันเอง ลงความเห็นกันเอง แล้วตำรวจก็ไปจับตามความเห็นส่วนใหญ่ มันทำได้ไหม มันไม่ได้นะ ผมไม่ได้หงุดหงิดอะไรหรอก ผมพร้อมอยู่แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็พร้อมดูแลประชาชน แต่ประชาชนก็ต้องช่วยรัฐบาลดูแล้วกัน ว่าสถานการณ์อย่างนี้ประเทศชาติ มันควรจะเป็นอย่างไร หลายฝ่ายก็ไปตีความรัฐธรรมนูญ เรื่องเลือกตั้งบ้าง เรื่องอะไรก็แล้วแต่ มันยุ่งพออยู่แล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็ประเมินทุกอันว่าเกี่ยวข้องกับใคร สาเหตุมาจากอะไร ยิ้มสู้ไว้เมื่อภัยมา ออกเสียงกันดังๆ หน่อย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อคืนนายกฯ ได้หลับ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ยกนิ้วชี้หน้าตัวเอง พร้อมกล่าวว่า "ดูหน้าผมสิ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี