เปิดตัว7แกนนำที่มาเลย์
ยื่น3ข้อเรียกร้องรบ.ไทย
จี้ถกสันติสุขใต้วาระแห่งชาติ
เสนอ‘บิ๊กตู่’ใช้คำสั่งมาตรา44
นายกฯปัดอย่าให้ความสำคัญ
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 22 Premiera Hotel กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่ใช้ชื่อว่ากลุ่ม“มารา ปาตานี” (Mara Patani) จำนวน 7 คน แถลงข่าวเปิดตัวองค์กรใหม่อย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยมีการเชิญคณะสื่อมวลชนจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 14 คน และผู้สื่อข่าวมาเลเซียอีก 4 คน เข้าร่วมการแถลงเปิดตัวครั้งนี้ด้วยโดยไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพหรือบันทึกเสียง
เปิดตัว7แกนนำกลุ่มมาตา ปาตานี
สำหรับกลลุ่ม”มารา ปาตานี” เป็นองค์กรตัวแทนของกลุ่มเคลื่อนไหวปลดปล่อยปัตตานี 6 กลุ่ม จำนวน 7 คนประกอบด้วย 1.ดร.ฮาเร็ม มุกตาร์ ผู้แทนจากกลุ่มพูโล (PULO-MKP)2.นายอาบู ยาซีม ผู้แทนจากกลุ่ม บีไอเอ็มพี (BIMP) 3.นายหะยีอาหะมัด ชูโว ผู้แทนจากกลุ่ม BRN 4. นายอาวัง ยะบะ ผู้แทนจากกลุ่มบีอาร์เอ็น(BRN) ประธานกลุ่มมารา ปาตานี 5. นายสุกรี ฮารี ผู้แทนจากกลุ่ม BRN หัวหน้าคณะมาตา ปาตานี 6. นายอาบูฮาฟิส อัลฮากิม ผู้แทนจากกลุ่มบีไอพีพี (BIPP) และ7.นายอาบูอัครัน บินฮาซัน ผู้แทนจากกลุ่มพูโล (PULO-DSPP)
อ้างเปิดตัวเพื่อเดินหน้าสันติภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพบปะในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวของกลุ่มมารา ปาตานี ต่อสื่อสารมวลชนเป็นครั้งแรก เพื่อให้ข้อมูลและตอบข้อสงสัยต่างๆในการเดินหน้าพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่ หลังจากทางกลุ่มมารา ปาตานี ได้มีการพูดคุยสันติสุขกับคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และดาโต๊ะ สรี อาหมัด อำนวยความสะดวกในการพูดคุย
ประกาศเจตนารมย์จะมีแต่เรื่องดีๆ
นายอาวัง ยะบะ ผู้แทนจากกลุ่ม BRN ในฐานะประธานกลุ่มมารา ปาตานี กล่าวว่า จุดประสงค์ในการพบปะสื่อมวลชนครั้งนี้เพื่อทำความเข้าใจในแนวทางของกลุ่ม มารา ปาตานี ที่แท้จริงและถูกต้องสามารถเปิดเผยได้ และหวังให้สื่อมวลชนนำข้อมูลเหล่านี้ไปนำเสนอเพื่อสนับสนุนให้มีการพูดคุย และสามารถนำไปสู่ความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะสิ่งที่กลุ่มมารา ปาตานีจะดำเนินการต่อจากนี้นั้นจะมีแต่เรื่องที่ดี
เปิดกว้างทุกกลุ่มร่วมองค์กรใหม่
นายอาวัง กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม มารา ปาตานีที่รวมตัวกันจาก 6 กลุ่มในครั้งนี้ มีข้อแตกต่างจากกลุ่มที่พูดคุยที่ผ่านมาคือทางกลุ่ม มารา ปาตานี เปิดกว้างให้ทุกกลุ่มสามารถเข้ามาร่วมอยู่ในกลุ่มนี้ได้ ไม่เฉพาะเพียง 6 กลุ่มนี้ กลุ่ม NGO หรือภาคประชาสังคมต่างๆ ก็สามารถเข้ามาอยู่ร่วมกันได้ และเมื่อทุกกลุ่มเข้ามาอยู่ใน มารา ปาตานี เหตุการณ์ก็จะสามารถลดลงได้ แต่ก็คงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ตั้งเป้าหยุดความรุนแรงทั้งสองฝ่าย
“อย่างไรก็ตามเชื่อว่ามีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการพูดคุย ซึ่งคงจะต้องเดินหน้าพูดคุยต่อไป ยืนยันว่าการก่อตั้งกลุ่มมารา ปาตานี ขึ้นมาดังกล่าว เพื่อให้การต่อสู้เป็นไปตามหลักสันติวิธี ส่วนการใช้กำลัง หรือการใช้อาวุธ ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนของการหยุดความรุนแรงของทั้งสองฝ่าย อยู่ที่การสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน” นายอาวัง กล่าว
ยื่น3เงื่อนไขต่อคณะรัฐบาลไทย
ด้านนายสุกรี ฮารี ผู้แทนจากกลุ่ม BRN หัวหน้าคณะ กล่าวว่า การพูดคุยสันติสุขกับคณะฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เสนอข้อเรียกร้องไป 3 ข้อคือ 1.กำหนดให้การพูดคุยเพื่อสันติสุขเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องแม้เปลี่ยนรัฐบาล 2.ยอมรับองค์กร มารา ปาตานีว่าไม่ใช่กลุ่มที่มีความเห็นต่างจากรัฐและเป็นองค์กรที่อยู่บนโต๊ะเจรจาและ 3. ให้การคุ้มครองทางกฎหมายกับคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของมารา ปาตานี จำนวน 15 คน เพื่อให้สามารถเดินหน้าการพูดคุยอย่างเป็นรูปธรรม
บีอาร์เอ็นยันไม่โจมตีเป้าอ่อนแอ
นายสุกรี กล่าวอีกว่า การต่อสู่ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีมาตั้งแต่ปี1960โดยมีรูปแบบการต่อสู้แบบใต้ดิน ไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่ต้องการให้ใครรู้ ไม่มีการประกาศ และต้องยอมรับว่ากลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น พูโล จีเอ็มไอพี บีไอพีพี ก็จะมีสองส่วนเหมือนกัน คือฝ่ายการเมือง และฝ่ายกองกำลังติดอาวุธ แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นไม่มีนโยบายโจมตีเป้าหมายอ่อนแอ (Soft Target)จะเน้นไปยังเป้าหมายแข็ง ส่วนเป้าหมายอ่อนแอที่ได้รับผลกระทบ ก็เกิดจากการถูกลูกหลง
ขอความชัดเจน”วาระแห่งชาติ”
ขณะที่นายอาบูฮาฟิส อัลฮากิม ผู้แทนจากกลุ่ม บีไอพีพี (BIPP)กล่าวเสริมว่า วาระแห่งชาติ ถูกเสนอขึ้นมาหลายครั้งตั้งแต่นายฮาซัน ตอยิบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง แต่รัฐบาลไทยเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็เริ่มพูดคุยนับหนึ่งใหม่ โดยรัฐบาลล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ถือว่าวันที่ 1 ธันวาคม 2557 เป็นการเริ่มต้นพูดคุยอีกครั้งซึ่งทางกลุ่มเห็นว่าหากไม่เป็นวาระแห่งชาติ ก็จะไม่มีความต่อเนื่องในการพูดคุยจึงขอความชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องนี้ด้วย
พร้อมรับพิจารณา3ข้อเสนอไทย
อย่างไรก็ตามหากข้อเสนอทั้ง3ไม่มีการยอมรับ ก็คงจะเดินหน้าพูดคุยต่อไป แต่จะพูดคุยลึกลงไปในสาระสำคัญไม่ได้ เพราะยังไม่มีการยอมรับ ส่วนข้อเสนอของฝ่ายไทย จำนวน 3 ข้อ นั้น ก็จะนำกลับมาพิจารณาภายในกลุ่มต่อไป
ดร.ฮาเร็ม มุกตาร์ ผู้แทนจากกลุ่มพูโล (PULO-MKP)กล่าวว่า ทางกลุ่ม มารา ปาตานี ขอให้สื่อช่วยนำเสนอข้อมูลในวันนี้ให้ถูกต้อง เพราะจะทำให้กลุ่ม มารา ปาตานี สามารถเดินหน้าต่อไปได้สู่การเจรจาเพื่อความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เป้าหมายสูงสุดคือต้องการเอกราช
ข่าวแจ้งว่า ก่อนการแถลงข่าวนั้น ตัวแทนของ “มารา ปาตานี” จำนวน 7 คนได้ร่วมประชุมโต๊ะกลมกับสื่อมวลชนไทยจำนวน 14 คน โดยสรุปประเด็นจากการประชุมโต๊ะกลมคือ กลุ่ม มารา ปาตานี ระบุว่าทุกขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้จุดมุ่งหมายสูงสุดคือเอกราช แต่เงื่อนไขดังกล่าวอยู่ที่การพูดคุยกับรัฐบาลไทย ขณะนี้การพูดคุยยังอยู่ในช่วงของการสร้างความไว้วางใจต่อกันโดยทางกลุ่มมารา ปาตานี เสนอข้อเรียกร้องต่อทางการไทย 3 ข้อดังกล่าว
เสนอบิ๊กตู่ใช้ม.44กำหนดทิศทาง
นอกจากนี้ทางตัวแทนมารา ปาตานี ยังยอมรับว่าในการเจรจาสันติภาพย่อมมีกลุ่มผู้ก่อกวนเสมอ แต่ถ้าหากรัฐบาลไทยจริงใจที่จะเดินหน้ากระบวนการสันติภาพต่อไปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ก็สามารถใช้มาตรา 44 กำหนดทิศทางกระบวนการสันติภาพได้ เพราะขณะนี้ทราบมาว่ายังไม่ได้มีการกำหนดให้การพูดคุยเพื่อสันติสุขเป็นวาระแห่งชาติ
ฝ่ายไทยเสนอเขตปลอดรุนแรง
ก่อนหน้านี้พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทย ได้ยื่นข้อเสนอไปยังกลุ่มผู้เห็นต่าง 3 ข้อเช่นกัน คือ 1.สร้างพื้นที่ปลอดภัย 2.พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และ 3.การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมทุกภาคส่วน ซึ่งทางกลุ่มมารา ปาตานีรับไปพิจารณา
“บิ๊กตู่”ปัดอย่าให้ความสำคัญ
ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ ได้มีการพูดคุยกับกลุ่ม มารา ปาตานีว่าฝ่ายความมั่นคงเป็นคนดูแลรับผิดชอบ อย่าไปให้ความสำคัญกับองค์กรใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา
ส่วนนายุสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดโต๊ะเจรจาเวทีสันติสุขภาคใต้ว่า มีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เราอยู่ในระยะของการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความไว้วางใจ ซึ่งหลักการในการสร้างความเชื่อมั่นหรือความไว้วางใจคือการหยิบยกสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องการขึ้นมาคุยกันเพื่อให้ยอมรับกันได้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี