29 ส.ค.58 ในที่สุดบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารประจำปี 2558 ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณทั้งสิ้น 831 นาย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ประกาศ ณ วันที่ 28 ส.ค.2558
ทั้งนี้ ตำแหน่งสำคัญในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปรากฎว่า “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.15) น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ต้องอกหัก ถูกย้ายข้ามฝากจากกองทัพบก มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม แม้ก่อนหน้านี้ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.ได้เสนอชื่อขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ก็ตาม แต่กลับถูกเบียดตกวินาทีสุดท้าย เนื่องจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ต้องการผลักดัน “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.14) จากสาย “บูรพาพยัคฆ์” ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนที่ 39 โดยให้เหตุผลเพื่อต้องการให้มาคุมสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงที่รัฐบาล และ คสช.เร่งปฎิรูปประเทศให้สำเร็จตามโรดแมป ทำให้ชื่อของ “บิ๊กติ๊ก” ถูกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ก่อนจะส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 21 ส.ค.2558
ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ผอ.สำนักนโยบายและแผน (ตท.16) พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ (ตท.16) กลาโหม พล.ร.อ.อนุทัย รัตตะรังสี ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. (ตท.15)และพล.อ.อ.ศิวเกียรติ ชเมยะ(ตท.16) เป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีฉัตร ประธานคณะที่ปรึกษา ทอ. (ตท.15) เป็น จเรทหารทั่วไป พล.อ.นพดล ฟักอังกูร เป็นประธานคณะที่ปรึกษากลาโหม
ด้านกองทัพไทยเป็นไปตามคาด“บิ๊กเต้”พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ เสธ.ทหาร (ตท.15) เป็น ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.วิเชียร ศิริสุนทร ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ พลงอ.ประสูตร รัศมีแพทย์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทบ.พล.ร.อ.ประสาน สุขเกษตร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรมว.กลาโหม เป็นรองผบ.ทหารสูงสุด และพล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองเสนาธิการทหาร (ตท.15) เป็น เสนาธิการทหาร พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผบ.ทหารสูงสุด พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ร.อ.จรูญ จาตุรพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทร. พล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็นรองเสนาธิการทหาร พล.ท.หัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ เป็นผบ.นทพ.
กองทัพบกพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผบ.ทบ.(ตท.14)เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.วลิต โรจนภักดี รอง เสธ.ทหาร (ตท.15) เป็น รอง ผบ.ผบ. พล.ท.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.)และพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผู้ช่วยผบ.ทบ.(ตท.16) พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.(ตท.17) เป็น เสธ.ทบ. พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เป็นประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (ตท.14) พล.ท.สุรเดช เฟื่องเจริญ พล.ท.สสิน ทองภักดี พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี เป็น รองเสธ.ทบ.
ในระดับแม่ทัพภาคปรากฏว่า พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.18) เป็นแม่ทัพภาคที่ 1พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.20) ลูกชาย “บิ๊กจ๊อด”พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ (ตท.20)และพล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ (ตท.20)เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ธรากร ธรรมวินทร พล.ต.นิรุทธ์ เกตุศิริ เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.วิชัย แซจอหอ เป็นแม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล รองแม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.16) เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.บรรเจิด ฉางปูนทอง (ตท.16) เป็นแม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.ธนา จารุวัต เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ เป็นแม่ทัพน้อยที่ 4
สำหรับนายทหารในระดับผู้บัญชาการกองพลซึ่งกุมกำลังหลักของกองทัพบก ปรากฏว่ามีการขยับหลายตำแหน่งอาทิ พล.ต.ธนศักดิ์ เก่งถนอมม้า เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) พล.ต.ธรรมนูญ วิถี เป็น ผบ.พล.ร. 9 พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ เป็น ผบ.พล.ร. 6 พล.ต.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็น ผบ.รพศ.1 พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็น ผบ.พล.1 พ.อ.วรพล วิศรุตพิชญ์ เป็นผบ.พล.ร. 5 พ.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง เป็นผบ.พล.ร. 11 พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เป็นผบ.พล.ม. 2 รอ. พ.อ.สุรใจ จิตต์แจ้ง เป็น ผบ.พล.ปตอ.และพ.อ.ปัณณทัต กาญจนวสิต เป็นเลขานุการทบ.
ด้านกองทัพเรือก่อนหน้านี้ปรากฏชื่อของ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผู้ช่วย ผบ.ทร.(ตท.14)ขึ้นเป็น ผบ.ทร.แต่ก็ต้องหมดโอกาสเนื่องจากจบหลักสูตรโรงเรียนนายเรือจากประเทศเยอรมัน ซึ่งโดยทำเนียมปฏิบัติของกองทัพเรือที่สืบทอดกันมายาวนานที่ว่า นายทหารเรือที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทร.ต้องจบจากโรงเรียนนายเรือเท่านั้นทำให้ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร.จำเป็นต้องเสนอ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ เสธ.ทร.(ตท.15)เบียดขึ้นเป็น ผบ.ทร. ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์พล ได้เป็น รองผบ.ทร. พล.ร.อ.ชุมพล วงศ์เวคิน (ตท.15) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ เป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรวุธ วัฒนธรรม (ตท.16)เป็น ผู้ช่วยผบ.ทร. พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ (ตท.15) เป็นเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.นริส ประทุมสุวรรณ (ตท.16) ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ (ตท.17) เป็นรองเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล เป็น ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ท.พัชระ พุ่มพิเชษฎฐ์ (ตท.19) หัวหน้านายทหารเรือฝ่ายเสนาธิการประจำผบ.ทร. เป็น เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ พล.ร.ต.พรชัย ปิ่นทอง เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ เป็น ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง (ตท.20) เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นเลขานุการกองทัพเรือ
ขณะที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ ผู้ช่วยผบ.ทอ.(ตท.16) เป็น ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ พล.อ.อ.ทวิเดนศ อังศุสิงห์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.อ.อ.เผด็จ วงษ์ปิ่นแก้ว ผบ.คปอ.(ตท.15) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทอ.พล.อ.ท.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ รองเสธ.ทอ.(ตท.17) เป็น ผู้บัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (ผบ.คปอ.) พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง เสธ.ทอ.(ตท.16) ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี