สมุน‘ปู’โผล่แถ
ค้านเรียกค่าจำนำข้าวเจ๊ง
อ้างคดียังอยู่ในศาล
‘วิษณุ’จ่อดาบสอง
คิวต่อไปฟันเอกชน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)แสดงความเห็นคัดค้านที่รัฐบาลจะใช้วิธีการทางปกครองเรียกค่าเสียหาย ในโครงการจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพวก
โดยระบุว่าตนไม่เห็นด้วยกับความเห็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังจะเดินหน้าเรียกค่าเสียหาย เพราะจะขัดกับหลักนิติธรรมอย่างชัดเจน ซึ่งมีเหตุผลประกอบดังนี้ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาในคดีอาญาในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งในกระบวนการพิจารณาคดีอยู่ในชั้นการตรวจสอบบัญชีพยาน ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการไต่สวน และ เมื่อศาลยังไม่ได้พิพากษาว่าจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดทางอาญา จะมีคำสั่งทางปกครองบังคับเรียกค่าเสียหายได้อย่างไร ขัดกับหลักนิติธรรมหรือไม่
2.การเร่งรัดเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยไม่ใช้กระบวนการทางศาลปกติ ในขณะที่การเมือง การปกครองไม่ปกติเป็นเจตนาแจ้งชัดที่มุ่งกำจัดกันทางการเมืองหรือไม่ เป็นประเด็นที่ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ประเทศซึ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีออกหน้าไปรับไว้ที่องค์การสหประชาชาติ จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้คำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะไทยเพิ่งถูกรัฐสภายุโรปออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลไทยเคารพสิทธิมนุษยชน แม้กระทรวงการต่างประเทศ(กต.)จะแก้ตัวก็ไม่เต็มปาก อ้อมๆแอ้มๆไป แต่ไม่น่าฟังขึ้นในสายตาชาวโลกที่จะแก้กันด้วยวาจาอย่างเดียวไม่ได้เพราะเขาก็มีหูมีตาเป็นสัปปะรด จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนการดำเนินการในการเรียกค่าเสียหายตามโครงการรับจำนำข้าวให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทางศาลยุติธรรม เพื่อเห็นแก่นายกฯที่เพิ่งไปแถลงต่อยูเอ็นอย่าให้ท่านรับหน้าหนักไปกว่านี้เลย
“วิษณุ”เดินหน้าชงเรื่อง
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายในโครงการทุจริตจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นั้นมี2 กระทรวงที่รับผิดชอบในการพิจารณาคือกระทรวงการคลัง และกระทรวงพานิชย์ ขณะนี้ส่งข้อมูลมาให้ตนแล้ว 1 กระทรวง ซึ่งตนจะดูรายละเอียดแล้วส่งข้อมูลชุดที่ส่งมาก่อนให้นายกรัฐมนตรี โดยจะไม่รออีกชุด เพราะเกรงว่าจะล่าช้าส่วนจะส่งวันไหนนั้นไม่ขอตอบ
รอจัดการภาคเอกชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากส่งให้นายกฯ 1 ชุดก่อน การที่นายกฯ จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานพิจารณา จำเป็นต้องส่งพร้อมกันทั้ง 2 ชุดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่จำเป็น และตัวเลขค่าเสียหายจะไม่มีการพูดถึงเพราะต้องรอให้ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง เป็นผู้เปิดเผยเพราะหากพูดออกไป การพิจารณาของชุดดังกล่าวซึ่งมีอำนาจเด็จขาดอาจพิจารณาอีกอย่างหนึ่ง แพงขึ้นหรือน้อยลงได้
ส่วนการดำเนินการกับภาคเอกชนนั้นต้องรอให้เรื่องนี้เสร็จสิ้นก่อน เพราะเมื่อความผิดประธานยุติ ความผิดผู้สนับสนุนจะตามมา
เดินหน้าสรรหา ปปช.
นายวิษณุ ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานะกรรมการสรรหาคณะกรรมการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทนตำแหน่งเดิมที่จะพ้นวาระ 5 ราย กล่าวว่า ในวันที่ 19 ต.ค.นี้จะมีการประชุมพิจารณาสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว
แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นรายชื่อทั้งหมดของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา เห็นเพียงบางรายชื่อจากหนังสือพิมพ์จึงยังนิยามอะไรไม่ได้ เพราะหากมีการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วอาจจะมีบางคนที่คุณสมบัติไม่ครบ ได้รับแจ้งมาแล้วว่ามีบางคนที่คุณสมบัติตก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักเกณฑ์พิจารณาสรรหา ต้องดูจากงานของคนเก่าที่พ้นไปว่ารับผิดชอบงานส่วนใดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไปดูอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ใช่นักบัญชีออกไปแล้วเลือกคนเป็นนักบัญชีเข้ามา คนที่เป็นตำรวจออกไปแล้วเลือกคนที่เป็นตำรวจเข้ามาไม่ใช่ ไม่มีในประวัติศาสตร์ของตำแหน่งอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น ต้องมีนักกฎหมายอย่างน้อย 1 คน นักบัญชีอย่างน้อย 1 คน อย่างนั้นก็เป็นอีกเรื่อง”
สนช.รับรอง”นครินทร์”
วันเดียวกันมีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งที่ 61/ 2558 โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีระเบียบวาระเพื่อดำเนินการให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 48/2557 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 เรื่อง การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง
โดยทั้งนี้ เป็นการดำเนินการลงคะแนนโดยลับ ภายหลังจากที่ คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลของ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิ สาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารราชการแผ่นดินอย่างแท้จริง แทนนายเฉลิมพร เอกอุรุ ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากนายเฉลิมพร มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์
ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ 158 เสียง ไม่เห็นชอบ 6 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง ดังนั้น นายนครินทร์ จึงได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมฯ ให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ แทนที่นายเฉลิมพรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี