อ้างทหารล้อมบ้านพัก
‘ตู่-เต้น’โวย
อดชมอุทยานราชภักดิ์
คสช.สงสัยมุ่งการเมือง
พระจุณณ์เชื่อทุจริตแน่
ปปช.จ่อส่งชุดใหญ่ฟัน
กห.เรียกสอบกราวรูด
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เตรียมประชุมหารือแนวทางการตรวจสอบความโปร่งใสโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้ โดยเฉพาะการตรวจสอบเรื่องทุจริตในการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งอาจเข้าข่ายจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้อง ขณะที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมนัดแรกเพื่อวางกรอบการทำงานแล้ว และเตรียมเรียกนายทหารที่ร่วมจัดสร้าง และถูกพาดพิงมาให้ข้อมูลทั้งหมด
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีมีการกล่าวหาทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า ขณะนี้รอให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.สรุปข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบทั้งในทางลับ และที่อาจมีผู้ส่งมาให้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. รายงานที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งจะประชุมวันอังคารที่ 1ธันวาคม นี้
“ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.คงหารือถึงกรณีที่นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบและพบว่าเงินที่ใช้ในการก่อสร้างมีส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณกลาง 63.57 ล้านบาท ว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งปกติเมื่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบพบเรื่องทุจริตในการใช้จ่ายเงินงบประมาณแล้ว จะต้องส่งเรื่องต่อมาให้ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป เช่น เรื่องจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้อง เป็นต้น” นายปานเทพ กล่าว
ด้าน พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม(กห.) กล่าวว่า ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์แล้วนั้น เมื่อ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการฯได้เรียกประชุมหารือคณะกรรมการฯ กำหนดแนวทางและกรอบการดำเนินงานแล้ว
พล.ต.คงชีพ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯจะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากทุกส่วนราชการ พร้อมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องภายในกลาโหม มาให้ข้อมูลถึงการดำเนินโครงการก่อสร้างในทุกขั้นตอน รวมถึงทุกเรื่องที่เป็นประเด็นทางสังคม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และสร้างความกระจ่างกับสังคมโดยเร็ว จึงขอเวลาให้คณะกรรมการฯได้ทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความกระจ่างในข้อเท็จจริงร่วมกันต่อไป และถ้ามีกลไกรัฐอื่นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่เข้ามาตรวจสอบนั้น กระทรวงกลาโหมพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดความชัดเจน และร่วมกันสร้างความประจักษ์กับสังคมในที่สุด ตามที่ พล.อ.ประวิตร ให้นโยบายไว้แล้ว
รายงานข่าว แจ้งว่า คณะกรรมการฯ จะเชิญนายทหารที่ร่วมจัดสร้าง และถูกพาดพิงในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ มาให้ข้อมูลทั้งหมด ทั้งในส่วนของกองทัพบก(ทบ.) และกระทรวงกลาโหม
ขณะที่ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า ตนทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ไฟเขียวให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายเข้าดำเนินการสอบสวนในโครงการอุทยานราชภักดิ์อย่างเต็มที่ มีใครผิดก็ต้องลงโทษ เพราะเรื่องนี้มีความผิดอยู่แล้ว ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ลาออกเพื่อรับผิดชอบนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องจิตสำนึกของแต่ละบุคคล ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“ให้ใจเย็นๆรอฟังผลจากคณะกรรมการฯ เชื่อว่าคงเร่งสอบสวน เพราะเรื่องนี้มีความผิดแน่นอน และเป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ยิ่งต้องให้ความสำคัญ และนายกฯมาทำเพื่อบ้านเมือง อย่าให้มาสะดุดเพราะเรื่องนี้จะเสียงานใหญ่ได้ ผมเห็นว่าคนไทยควรเอาใจช่วยนายกฯที่กำลังพยายามแก้ไข หากทุกคนช่วยกันตรวจสอบบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้” พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าว
ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้อยู่ที่ 2 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น และเรื่องแตกแยกแตกสามัคคีกันเองในกลุ่มผู้มีอำนาจ ซึ่งขณะนี้กลุ่มที่ตรงข้ามกับรัฐบาลพยายามที่จะเอา 2 เรื่องนี้เข้ามาตอกลิ่ม และเสี้ยมรัฐบาลอย่างหนัก ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีการกล่าวหาว่าโครงการอุทยานราชภักดิ์มีการโกงกินคอร์รัปชั่น ซึ่งผู้มีอำนาจและรัฐบาลต้องรับผิดชอบ มีการโจมตีกล่าวหาผู้มีอำนาจให้กระทบไปยังแต่ละฝั่งแต่ละฝ่าย รวมทั้งกระทบไปยังรัฐบาล พยายามทิ่มตำให้ผู้มีอำนาจในกองทัพ และรัฐบาล ขัดแย้งแตกแยกกันเอง มีความพยายามจะดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล รวมทั้งกองทัพ
“ผมเชื่อว่ากลุ่มคนพวกนี้จะไม่หยุด จะเอาเรื่องนี้ชูประเด็นเป็นการเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆใช้หลักที่ว่า มึงมาข้ามุด มึงหยุดข้าแหย่ มึงแย่ข้าตี ดังนั้นรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องต้องรู้เท่าทันแผนการ ไม่ตกหลุมพรางและต้องเอาความจริงความโปร่งใสมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ที่สำคัญต้องรีบเร่งทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วอย่าปล่อยให้อึมครึมต่อไป” นายวันชัย กล่าว
ส่วน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จะเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ ว่า ที่จริงแล้วยังมีหลายโครงการสำคัญๆที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก แต่นายณัฐวุฒิเลือกสนใจอยู่เฉพาะโครงการเดียว ซึ่งอาจทำให้สังคมมองว่าไม่ค่อยเป็นปกติธรรมชาติ ทั้งๆที่โครงการนี้อยู่ระหว่างการไขความกระจ่าง และที่ผ่านมาสังคมอาจได้รับข้อมูลไม่ครบจริง แต่ยังมีโครงการอีกมาก โดยเฉพาะที่กระทบความเดือดร้อนของประชาชน แต่กลับไม่ค่อยเห็นท่าทีใดๆในลักษณะนี้ของนายณัฐวุฒิ ที่สำคัญหลายๆโครงการมีข้อสรุปที่สามารถชี้มูลโดยหน่วยงานตามกฎหมายแล้วด้วยซ้ำ และถ้าอยากได้ข้อมูล แนวทางที่เหมาะสม คือ เข้าร้องสอบถามกับหน่วยงานเกี่ยวข้องมากกว่าจะดำเนินการเองในลักษณะนี้
“อยากให้นายณัฐวุฒิใช้ความระมัดระวัง เพราะการเคลื่อนไหวบางลักษณะอาจสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่าพยายามโยงให้เป็นการเมือง หรือมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงได้ และไม่ใช่เพียงนายณัฐวุฒิที่จะไม่ยอมให้อุทยานราชภักดิ์แปดเปื้อน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารโครงการ รวมถึงผู้สนับสนุนทุกคน คงไม่ยอมให้มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับโครงการนี้เช่นกัน ที่สำคัญเรื่องนี้ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการบริโภคข่าวสาร โดยเฉพาะควรเชื่อในสิ่งที่ผ่านกระบวนการ หรือมีข้อพิสูจน์ที่สมบูรณ์แล้วเป็นหลัก เพราะการตั้งข้อสังเกตใดๆที่ไปมีผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร อาจมีผู้เสียหาย และพิจารณาใช้มุมทางกฎหมายเข้าดำเนินการ” พ.อ.วินธัย กล่าว
วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยว่า “ผมจะไปอุทยานราชภักดิ์ พอข่าวออกไปงานก็เข้า ตั้งแต่ตีห้าวันนี้รถทหาร 4 คันมาที่บ้าน ตอนนี้ก็ยังวางกำลัง อยู่ริมถนนหน้าหมู่บ้าน 4 คน ป้อมยาม 8 คน ศาลพระภูมิ 6 คน จอดรถหน้าบ้าน 1 คัน ทำไมท่านใช้อำนาจกันแบบนี้ ให้รู้กันไปว่าการถามหาความจริงต้องมีอันตราย ผมยืนยันนะครับจะเอายังไงกับผมก็เอาแต่...ผมจะไปอุทยานราชภักดิ์”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปสังเกตการณ์ ที่บ้านเลขที่ 337 /73 หมู่บ้านเศรษฐสิริ ถ.สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของนายณัฐวุฒิ และพบว่ามีรถยีเอ็มซี จอดอยู่จริง โดยมีนายทหาร 4-5 นาย อยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว สอบถามทราบว่า ทางผู้บังคับบัญชามอบหมายให้มาตรวจสอบความเรียบร้อย ขณะที่ภายในบ้านดูเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ จึงเชื่อว่า นายณัฐวุฒิ น่าจะไม่อยู่บ้าน
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวในรายการ “มองไกล” ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ ว่า หลังจากที่ตนตกลงกับนายณัฐวุฒิ จะร่วมเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์แล้ว ปรากฏว่าในเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน มีทหารมาตรึงทางเข้า-ออกหมู่บ้านของตน แสดงถึงการสกัดหรือขัดขวางไม่ให้ไป แต่พวกตนจะเดินทางไปตามเดิม ถ้าไม่ไปแล้วจะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสงสัย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลยิ่งขึ้น ดังนั้นทางที่ดีกองทัพควรร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพราะการทุจริตทุกอย่างนั้นเลวที่สุด การที่ตนและนายณัฐวุฒิต้องไปอุทยานราชภักดิ์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเอง เพราะประชาชน ไม่ว่าทหารหรืออาชีพใดก็ตาม ล้วนไม่สบายใจกรณีโครงการอุทยานราชภักดิ์ จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี