6 ก.พ.59 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลใช้ทุกกลไก ทั้งสื่อของรัฐ หน่วยราชการทั้งพลเรือนและฝ่ายความมั่นคง กระทั่งนักศึกษารักษาดินแดนที่ต้องไปยืนโฆษณาหน้าหน่วยในวันลงคะแนน เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ขณะที่สัญญาณการปิดกั้นฝ่ายที่เห็นต่างเข้มข้นขึ้นตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนี้กระบวนการดังกล่าวจึงขัดกับหลักการพื้นฐานของการทำประชามติ ที่ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและตัดสินใจโดยอิสระ ยิ่งนายกรัฐมนตรีอ้างอำนาจที่จะสงวนแนวทางหากประชามติไม่ผ่าน โดยไม่ให้ความชัดเจนกับประชาชน ยิ่งทำให้การลงประชามตินี้ไม่น่าไว้วางใจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจรู้ดีว่าเดิมพันครั้งนี้สูงกว่าที่พูดไว้กับประชาชนว่า เป็นฉบับปราบโกง ซึ่งไม่มีใครต่อต้าน แต่แท้จริง คือ การบรรจุทุกเรื่องที่ต้องการไว้ครบถ้วน เช่น การนิรโทษกรรมสิ่งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และองคาพยพทำ การเปิดช่องนายกฯ คนนอก ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญประหารรัฐบาลเลือกตั้ง ส.ว.สรรหาแบบคุมเกมได้ และเครือข่ายองค์กรอิสระอื่น ที่เชื่อมโยงกันเป็นด่านมรณะของตัวแทนประชาชน
ทั้งนี้ จึงชี้ชัดได้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญนี้บังคับใช้ ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด คือ เครือข่ายอำนาจของ คสช.ส่วนที่เสียหายมากที่สุด คือ ระบอบประชาธิปไตยที่จะอยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรา ซึ่งจะซ้ำเติมชะตากรรมของประชาชนให้บอบช้ำยิ่งขึ้น เพราะรากแก้วของปัญหาที่ผ่านมา คือ ความไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น การทำประชามติครั้งนี้จึงถือเป็นการลงคะแนนเสียงของประชาชนที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศไทย รัฐบาลบอกว่ารัฐธรรมนูญนี้จะทำให้ไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก แต่ตนยืนยันว่า ถ้าจะให้รัฐประหารหมดไปต้องคว่ำรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อประกาศต่อสังคมโลกและเครือข่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยว่า ประชาธิปไตยแท้จริงเท่านั้น คือ การแก้ปัญหาของประเทศ
"ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงกรอบการเรียนรู้เดิมของสังคม ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมขีดเส้นให้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของวาทกรรม และความดีความชั่วที่ตัดสินกันเพียงอารมณ์ความรู้สึก เป็นการยึดกุมหลักการที่เป็นสากล และใช้เหตุผลในการหาข้อสรุปร่วมกันภายใต้กติกาที่เป็นธรรม ในอาเซียนวันนี้มี 2 ประเทศซึ่งประกาศว่ากำลังเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย คือ เมียนมา ซึ่งแม้หลายฝ่ายยังมีข้อห่วงใย แต่ก็มีรูปธรรมการถอนตัวจากอำนาจของรัฐบาลทหารชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ กับไทยซึ่งรัฐบาลทหารกำลังร่างกติกาที่เห็นชัดว่า อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ในมือประชาชน น่าตกใจว่าวันนี้อนาคตประชาธิปไตยของไทยดูน่าเป็นห่วงกว่าเพื่อนบ้านหรือไม่" นายณัฐวุฒิ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี