2 พ.ค.59 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม "แผนประชารัฐร่วมใจสร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559 - 2560" โดยมี พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส.ในฐานะฝ่ายเลขาฯ พร้อมทั้งผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 33 หน่วยงาน ประมาณ 100 คน เข้าร่วมประชุม อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร กองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กรมประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
โดยสาระสำคัญหลักของการประชุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติมอบให้ พล.อ.ประวิตร ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันการปราบปรามยาเสพติด และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เพื่อเป้าหมายสลายโครงสร้างปัญหาด้วยการลดและขจัดอิทธิพลของกลุ่มการค้ายาเสพติด รวมทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติทั่วประเทศ จำนวน 81,905 แห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ชายแดน พื้นที่ตอนในและชุมชนเมือง เกิดความมั่นใจ และส่งผลให้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดไปในทิศทางเดียวกัน ผ่านกลไกลประชารัฐ
ทั้งนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การพิจารณาในที่ประชุมวันนี้ พล.อ.ประวิตร ประธานการประชุม ได้ฝากแนวทางให้ทุกหน่วยงานร่วมกันดำเนินการตามแผนดังกล่าว ให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายส่วนราชการ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นไว้
"การแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ผ่านกลไกประชารัฐบนหลักการทำงานเชิงรุก ไม่ใช่รุกไปฆ่าเขา แต่ให้ใช้งานข่าวเป็นหลัก โดยขอให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ วางโครงข่ายแผนด้านการปราบปราม และขอให้ผู้ปฏิบัติทุกระดับในทุกส่วนราชการ เข้าใจปัญหาที่แท้จริง และลงพื้นที่เป็นระยะ รวมทั้งต้องมีการติดตามประเมินผล เมื่อดำเนินการไประยะหนึ่ง และนำผลปัญหาอุปสรรคมาเสนอที่ประชุมนี้ เป็นระยะ" เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว
สำหรับเรื่องมาตรการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด หรือคบค้าสมาคมกับผู้ค้า รวมทั้งยักยอกยาเสพติด หรือคุ้มครองเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้ายาเสพติด หรือปล่อยปละละเลยให้มีการค้ายาเสพติดและเสพในสถานศึกษา หรือสถานประกอบการในพื้นที่ จนหน่วยนอกเข้าไปจับกุม หรือผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดนั้น ผู้ที่ได้รับมอบหมายสั่งการให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการและรายงานภายใน 30 วัน ก่อนเสนอคณะอนุกรรมการตรวจสอบเสนอ ผอ.ศอ.ปส.เพื่อพิจารณาเสนอหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือให้ ผอ.ศอ.ปส.เสนอหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 โยกย้ายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี