20 ก.ย. 59 เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีการสร้างฝายที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมในการตั้งชื่อฝายว่า “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” ตามชื่อนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยาพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไร และไม่มีความผิดรวมถึงไม่กระทบกับกระทรวงกลาโหมด้วย

"ผมไม่ได้คุยอะไรกับพล.อ.ปรีชาในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าทั้งพล.อ.ปรีชาและภริยา ไม่ได้มีความทะเยอทะยาน อยากจะเป็นใหญ่เป็นโตอะไรอยู่แล้ว การสร้างฝายนั้นก็เป็นคนอื่นทำให้ และฝายก็ทำให้ประชาชน ซึ่งผมคิดว่า ถ้าพล.อ.ปรีชา ไม่ได้เป็นน้องนายกฯก็คงไม่เป็นข่าว ซึ่งก็ต้องระมัดระวัง หากไปทำอะไรเพราะมีคนจับจ้องอยู่"

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ความมั่นคง ซึ่งขณะนี้มีการก่อเหตุความไม่สงบในต่างประเทศว่า ได้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่ หากไม่เพิ่มป่านนี้ก็คงโดนเยอะ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำงานมาเยอะ และจะทำต่อไปเรื่อยๆ เมื่อถามถึงการลักลอบนำอาวุธสงครามเข้าประเทศ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นอาวุธของเก่าทั้งนั้น จากที่มีการสู้รบตามแนวชายแดนที่ผ่านมา นอกจากนี้เราก็มีกฎหมายการซื้ออาวุธเหมือนสหรัฐฯ