8 พ.ย.59 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ผ่าน 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การจ้างงานผู้สูงอายุ 2.การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) 3.สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) และ 4.การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญ โดยจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติและกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ(กบช.)
สำหรับมาตรการแรกการจ้างงานผู้สูงอายุ ครม.ได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..)พ.ศ.... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่าย เพื่อจ้างผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเข้าทำงาน ทั้งนี้เฉพาะรายจ่ายที่ได้จ่ายเพื่อการจ้างผู้สูงอายุในส่วนที่ไม่เกิน 10% ของจำนวนลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ส่วนมาตรการที่ 2 เป็นการสร้างที่พักอาศุยสำหรับผู้สูงอายุ แบ่งเป็น 3 แนวทางคือ 1.มอบหมายให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุมาสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ชลบุรี,นครนายก,เชียงราย,เชียงใหม่ 2.มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) สนับสนุนการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุบนพื้นที่อื่น 3.มอบหมายให้ธนาคารออมสิน และธอส.ให้การสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขแบบผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Pre-Finance) ในวงเงินรวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท รวมถึงยังปล่อยสินเชื่อให้ผู้ต้องการมีบ้าน หรือ Post-Finance อีกด้วยโดยจะให้สิทธิ์ในการจองแก่บุตรที่ต้องการดูแลบุพการีผู้สูงอายุเป็นลำดับแรก
ขณะที่มาตรการที่ 3 เป็นการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุนำสินทรัพย์ที่ตนมีกรรมสิทธิ์มาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพ ซึ่งมูลค่ามาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพ ซึ่งมูลค่าเงินที่กู้ได้จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ มูลค่าบ้านและอัตราดอกเบี้ย โดยให้ ธอส.ผู้นำร่องผลิตภัณฑ์โดยผู้กู้จะต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย อายุสัญญามี 2 รูปแบบ คือ อายุสัญญาตามอายุขัยของผู้กู้ และอายุสัญญาที่กำหนดช่วงเวลา และจะมีการจัดตั้งบริษัทค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ มอตเกจ อินชัวรันส์ คัมปะนี เพื่อค้ำประกันความเสี่ยงของสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ มาตรการสุดท้ายจะเป็นการบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ โดย ครม.ได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบำเน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ.... เพื่อกำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่จัดทำนโยบายและกำหนดทิศทางในการพัฒนา และกำกับดูแลระบบบำเหน็จบำนาญของประเทศให้มีความครอบคลุม และได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ กบช. เพื่อจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี ครอบคลุมลูกจ้างเอกชน ลูกจ้างชั่วคราว ส่วนราชการ พนักงานราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างต้องร่วมกันส่งเงินเข้ากองทุนในอัตรา 3% ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อเดือน ยกเว้นลูกจ้างที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน นายจ้างจะเป็นผู้จ่ายทั้งหมด
ส่วนกรณีที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้วแต่ส่งไม่ถึง 3% เช่น นำส่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิมเดือนละ 1% ในส่วนที่เหลือก็ต้องมานำส่งที่ กบช.อีก 2% เพื่อให้ครบ 3% และลูกจ้างผู้ที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้จะสามารถเลือกรูปแบบการรับเงินได้เมื่อครบอายุตามกำหนด โดยสามารถเลือกรับเงินเป็นก้อน หรือรับตามงวดเป็นรายเดือนจนครบ 20 ปี
"มาตรการทั้งหมดนี้ ออกมารองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ คือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 10% ของประชากรทั้งประเทศ มาตั้งแต่ปี 2551 และสิ้นปี 2558 ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้สูงอายุคิดเป็น 15% ของประชากรทั้งประเทศและคาดว่าจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศในปี 2568 และเป็นการลดภาระงบประมาณของภาครัฐที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เพราะในปีงบประมาณ 2559 ที่ผ่านมารัฐบาลจัดสรรงบสำหรับบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินสมทบเข้ากองทุนการออมเพื่อการเกษียณ เป็นจำนวนกว่า 2.87 แสนล้านบาทและคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น" นายกอบศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี