ในที่สุดคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็มีมติด้วยเสียงข้างมาก แก้ไขเนื้อหาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยกำหนดให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ 90 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะส่งผลให้มีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะไม่มีทางเกิดขึ้นภายในปีนี้ เหมือนอย่างที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยประกาศเอาไว้อย่างแน่นอน
มติกมธ.เลื่อนเวลาบังคับกม.เลือกตั้งสส.
โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคม นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษก กมธ. ได้แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เสร็จทุกมาตราแล้ว โดยมีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 กำหนดให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ 90 วัน นับแต่วันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมาย กำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
ยันเสียงแข็งไร้ใบสั่งจากคสช.
นายทวีศักดิ์ ยืนยันว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอย่างรอบด้านและเป็นอิสระ เพื่อให้สอดรับกับคำสั่งของ คสช. ที่ 53/2560 เรื่องการกำหนดกระบวนการทางธุรการของพรรคการเมืองที่จะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม จึงเห็นว่าควรจะต้องขยายเวลาออกไป เพื่อให้พรรคการเมืองตางๆ มีเวลาสำหรับการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง และยืนยันว่า ไม่ได้มีใบสั่งจาก คสช. ให้ดำเนินการเพื่อยืดเวลาการเลือกตั้งออกไปแต่อย่างใด
อ้อมแอ้มต้องเลื่อนเลือกตั้งไปแน่นอน
เมื่อถามว่า หากที่ประชุม สนช. เห็นชอบตามมติเสียงข้างมากของ กมธ. จะมีผลให้การเลือกตั้งขยับออกไปจากกำหนดการเดิมในเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ นายทวีศักดิ์ ตอบว่า อาจต้องมีการขยับออกไปบ้าง โดยคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562
จับตา!พรรคทหารกินรวบ-คสช.อยู่ยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่า การแก้ไขเงื่อนเวลาให้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อยืดเวลาให้มีผลบังคับออกไปอีก 90 วันดังกล่าว อาจเป็นความพยายามในการหาทางช่วยเหลือพรรคการเมืองใหม่ของรัฐบาล และ คสช. ที่จะจัดตั้งขึ้นมาลงเลือกตั้ง ให้มีระยะเวลาเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่มากขึ้นจากเดิมอีก 3 เดือน ซึ่งจะมีการผลต่อการเลือกตั้ง ส.ว.ด้วย
แฉวางยางตั้งแต่ออกคำสั่งคสช.
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ต้องมีมติดังกล่าว เนื่องจากหากให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อประกาศในราชกิจานุเบกษา อาจขัดกับคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 เนื่องจาก ข้อ 1 ของคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ระบุให้ แก้ไขมาตรา 141 (4) ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง โดยกำหนดว่า การจัดประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง เพื่อแก้ไขข้อบังคับ ตลอดจนเลือกกรรมการบริหารพรรค ให้ดำเนินการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ ยกเลิกประกาศคสช. ฉบับที่ 57/2557 และคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558
ส่วนข้อ 8 ของคำสั่งคสช. ที่ 53/2560 ระบุว่า การจะยกเลิกคำสั่งคสช.ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ให้ครม.เสนอคสช.พิจารณายกเลิก เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ประกาศในราชกิจานุเบกษา ดังนั้น หากให้ พ.ร.บ.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.บังคับใช้ทันที กรอบเวลาที่พรรคการเมืองต้องทำตามมาตรา 141 (4) ภายใน 90 วัน จะเหลื่อมเวลากับการเลือกตั้ง ที่จะต้องประกาศภายใน 150 วันทันทีที่กฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้
ไม่รอด!ต้องเลื่อนเลือกตั้งไปปีหน้า
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หากวันที่ 25 มกราคม ที่ประชุม สนช. ลงมติเห็นชอบตามที่กมธ.เสียงข้างมากปรับแก้ จะส่งผลให้โรดแมปเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ประกาศเอาไว้ ต้องเลื่อนออกไปทันที เนื่องจากเป็นการคำนวณตามกรอบเวลาเดิม คือ 150 วันหลังกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้
โดยการขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกไปอีก 90 วัน จึงเท่ากับทำให้ระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่จะขยายออกไปรวมเป็น 240 วัน โดยคาดว่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562
"เพื่อไทย"ซัดยิ่งเลื่อนบิ๊กตู่ยิ่งป่นปี้
นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นักการเมืองไม่ได้เดือดร้อนว่าจะเลือกตั้งช้าไปสองสามเดือน ถ้ามีคำอธิบายที่ดีพอ แต่ตนไม่อยากให้ความน่าเชื่อถือของท่านนายกฯที่ประกาศว่า จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้รับผลกระทบ เพราะจะทำให้การทำงานยากขึ้นและจะลามไปยังความน่าเชื่อถือของประเทศ เพราะเคยมีการตกลงในคำแถลงการณ์ร่วมที่ทำกับสหรัฐ และต่อมาสหภาพยุโรปก็ยึดเอาคำพูดของนายกฯที่จะมีการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน จนยอมจะติดต่อทางการเมืองกับไทยอีกครั้ง
เย้ยได้วัดใจเลื่อน"โรดแมป"หรือไม่
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ต้องมาพิจารณาว่า จะมีการเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ ซึ่งคงจะเป็นการซื้อใจหรือวัดใจกัน ผู้มีหน้าที่ในบ้านเมือง จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง หรือจะรักษาความมั่นคงของประเทศ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศในการทำตามสัญญา ซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนรวม สังคมกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
ปชป.โวยใบสั่งเผด็จการบิดเบือนรธน.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การหน่วงเวลาบังคับใช้กฎหมาย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับภาษี เพื่อให้หน่วยงานราชการหรือประชาชน มีโอกาสปรับตัวเข้ากับระบบภาษีใหม่ แต่คราวนี้เป็นการหน่วงเวลาเพื่อยืดการเลือกตั้ง เท่าที่จำได้ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เหมือนกับการบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติให้เลือกตั้งใน 150 วัน หลังกฎหมายใช้บังคับ
"หากเราย้อนเวลาหาอดีต คงจำได้ว่า การบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก่อให้เกิดวิกฤติในประเทศเกือบทุกครั้ง ก่อนนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยพยายามแก้รัฐธรรมนูญ ก็เกิดวิกฤติเพราะประชาชนเห็นว่า บิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาครั้งนี้ การหน่วงเวลาการบังคับใช้กฎหมาย ก็เท่ากับบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน เพียงแต่ครั้งที่แล้วเป็นการบิดเบือนโดยผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ครั้งนี้ เป็นการบิดเบือนโดยผู้มาจากเผด็จการ"
"ปลาไหล"เหน็บอยากเลือกวันไหนก็เอาให้ชัด
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จะเลือกตั้งปีนี้หรือปีหน้า แทบไม่ต้องถาม เราแค่เก็งว่า ถูกหวยหรือไม่ พูดกันว่า ปีนี้ไม่ได้เลือกหรือประกาศเลือกตั้งวันนี้พรุ่งนี้ ไม่ใช่ประเด็น แต่คือวันไหนก็เอาให้ชัด มีเวลาทำงานเท่าเทียมกัน ขณะที่เวลาผ่านไปการเลือกตั้ง หรือการได้มา ซึ่งผู้บริหารระบบตัวแทนแก้ปัญหาประเทศชาติได้ หากเวลานั้นต้องล่วงไปรัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ดี ทั้งปากท้อง ค่าครองชีพ วันเลือกตังวันไหนก็เอาให้ชัด
ขณะที่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย พัฒนา กล่าวเสริมว่า เรากลัว สิ่งที่เราไม่รู้ หากรู้และฟันธงว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมป คิดว่า ฝ่ายการเมืองรับได้ การออกข่าว โยนหิน หรือกระแสข่าวว่า การเลือกตั้งขยับออกไปสิ่งที่คำนึงคือภาพลักษณ์ของรัฐบาล
รื้อกม.สว.โละเลือกไขว้กลุ่มอาชีพ
วันเดียวกัน พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ โฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณากฎหมายว่า ที่ประชุมมีมติให้แบ่งกลุ่มที่มา ส.ว. แบบใหม่ จากเดิม กรธ. ได้ยกร่างกฎหมายโดยแบ่งเป็น 20 กลุ่ม เปลี่ยนเป็น 15 กลุ่มสังคม อาทิ กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กลุ่มการศึกษา กลุ่มสาธารณสุข กลุ่มอาชีพเกษตรกร กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มประชาสังคม และ กลุ่มอื่นๆ
ส่วนวิธีได้มาซึ่ง ส.ว. ให้มีการเลือกกันเองในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ แต่ให้ยกเลิกวิธีการเลือกไขว้ตามที่ กรธ. เสนอ โดยเปลี่ยนเป็นการให้ผู้สมัครเลือกกันเองภายในกลุ่ม ทั้ง 15 กลุ่ม จะได้สมาชิกกลุ่มละ 13 คน รวม 195 คน ส่วนเศษที่เหลืออีก 5 คน ให้กลุ่มที่มีผู้สมัครมากที่สุด ได้รับจำนวนสมาชิกวุฒิสภาเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มละ 1 คน เรียงตามลำดับ
"วิษณุ"เตือนระวังผิดรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การยกเลิกการเลือกไขว้โดยให้ผู้สมัครเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพนั้น ต้องระวังกรอบในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เขียนไว้ว่าอย่างไรในบทเฉพาะกาล เพราะต่อไปถ้าบทเฉพาะกาลหมดจะต้องไปสู่ระบบการเลือก แต่ว่าช่วงบทเฉพาะกาลได้แบ่ง ส.ว.200 คน กับ 50 คน ซึ่งวันนี้จะมีปัญหาตรงที่ 50 คน ไม่ได้มีปัญหาตรงที่ 200 คน
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 'เสรี'ยันต้องเลื่อนบังคับใช้กม.ส.ส. ปัดมีเบื้องหลังใบสั่งขยายเวลา90วัน
- ดักคอ สนช.อย่ายื้อ! สมชัยเตือนขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายระวังเป็นแพะของสังคม
- ขยับโรดแมปเลือกตั้ง 'เพื่อไทย'เตือนศก.วูบ-ตปท.ไม่เชื่อมั่นไทย
- จบแล้ว!กมธ.ถกร่างพ.ร.ป.ได้มาซึ่งสว. หักกรธ.โละเลือกไขว้
- ‘วิษณุ’ เตือน สนช.แก้ไขปมโละเลือกไขว้ ส.ว.ส่อขัด รธน.บทเฉพาะกาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี