กมธ.ยอมรับน้ำท่วมปากเหตุผลบางอย่างพูดไม่ได้ทั้งหมด ท่องคาถาอ้างคำสั่งคสช.จำเป็นต้องแก้พ.ร.ป.เลือกตั้งสส.ยืดออกไปอีก90วัน ไม่เกี่ยวรับใบสั่งผู้มีอำนาจ เตรียมแถลงใหญ่วันพรุ่งนี้(22มค.) ขณะที่ฝ่ายการเมืองดาหน้าโต้เดือดจวกยับฟังไม่ขึ้น "องอาจ"เชื่อมีใบสั่งผู้มีอำนาจรอพรรคใหม่แต่งตัว "ศุภชัย"เตือนคสช.กำลังเล่นเกมอันตรายเดินต่อลำบากแล้ว ส่วนพท.ได้ทีขย่มบิ๊กตู่ระวังเป็นโมฆะบุรุษ ถูกนานาชาติมองเป็นตัวตลกหลังพลิกลิ้นเลื่อนโรดแมป
21 ม.ค.61 สถานการณ์ทางการเมืองกลับมาอึมครึมอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอปรับแก้ร่าง พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าว ให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ท่ามกลางกระแสโจมตีอย่างดุเดือดจากฝ่ายการเมืองว่าเป็นแผนเลื่อนเลือกตั้ง
กมธ.โต้รับใบสั่งจากผู้มีอำนาจ
ล่าสุด นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคการเมืองต่างออกมาระบุว่า การที่คณะกรรมาธิการฯ ยืดเวลาเลือกตั้งไป 90 วันนั้น เป็นเพราะได้รับคำสั่งมาจากผู้มีอำนาจ ตนขอเรียนว่านักการเมืองเขามีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น และคณะกรรมาธิการฯ ก็ไม่สามารถไปห้ามความคิดของพรรคการเมืองได้
อ้างรู้ดีว่ามีเหตุผลความจำเป็นอะไร
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ทำหน้าที่พิจารณากฎหมายเราจะรู้และทราบข้อเท็จจริงอย่างดีที่สุดว่า การกำหนดวันเวลา หรือการเขียนกฎหมายดังกล่าว มีความจำเป็น หรือเหตุผลอะไร จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด แต่อาจจะมีข้อห่วงกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะไปขัด หรือลิดรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญกำหนดเท่านั้น
น้ำท่วมปากบางอย่างก็พูดไม่ได้ทั้งหมด
"เหตุผลบางอย่างที่มีความจำเป็นก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ทั้งหมด แต่อยากให้ทราบว่า ที่บอกว่าการกำหนด 90 วันนั้น เพราะ สนช.คิดจะยืดอายุการทำงานของตัวเองไปอีก 2 - 3 เดือน ผมอยากบอกตามตรงว่า การทำงาน สนช.แค่ยืดเวลาไปซัก 2 - 3 เดือน ก็ไม่มีผลประโยชน์อะไรต่อพวกเราเลย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำเพื่อยืดเวลาตัวเอง" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
เตรียมชี้แจงแถลงไข22มกราฯนี้
ด้าน นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เรื่องที่นักการเมืองกล่าวอ้างนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะตนทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมาธิการฯ มีหน้าที่ชี้แจงเพียงมติในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯเท่านั้น และในวันที่ 22 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวด้วย
สนช.ปัดสมคบคิดยื้อโรดแมปเลือกตั้ง
ด้าน นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษก กมธ.วิสามัญฯ ยืนยันว่า ไม่ใช่การสมคบคิดเพื่อต่ออำนาจให้ใคร แต่ กมธ.ดูจากความพร้อมการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก เพราะขณะนี้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ขยับเวลาการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองเป็นเดือน มี.ค.และเดือน เม.ย.รวมถึงการประชุมใหญ่พรรคการเมืองจะทำได้ต้องรอหลังจากที่ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน
เงื่อนไขบังคับจำเป็นต้องยืด90วัน
"เงื่อนไขเหล่านี้หากให้ร่าง พ.ร.ป.ส.ส.มีผลบังคับใช้ทันที หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยที่กติกายังไม่เปิดให้ทำได้ ก็จะทำให้พรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินกิจกรรมได้อยู่ดี ดังนั้น จึงทอดเวลาระยะเวลาบังคับใช้ไป 90 วัน เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมตัวและความพร้อมในการเลือกตั้ง เพราะถ้ากฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ไม่มีความพร้อมทั้งในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาล และพรรคการเมืองจะเกิดปัญหาตามมา" นายทวีศักดิ์ กล่าว
โต้รับงานแลกตีตั๋วนั่งเก้าอี้สว.
นายทวีศักดิ์ ยืนยันว่า กมธ.ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ เพื่อช่วยให้ สนช.ได้รับเงินเดือน และค่าตอบแทนอื่นๆต่อไปในช่วงที่เลื่อนโรดแมปออกไป รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับการแลกตั๋วเป็น ส.ว.สรรหาล่วงหน้า และไม่อยากให้มองเป็นประเด็นทางการเมือง คณะกรรมาธิการฯ เพียงแค่ต้องการดำเนินการในแง่มุมกฎหมายให้เกิดความรอบคอบ ทำงานตรงไปมา ไม่มีใบสั่ง ซึ่งในวันที่ 22 ม.ค.จะแถลงชี้แจงรายละเอียดร่าง พ.ร.ป.ส.ส.อีกครั้ง เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆ
เจตนาดีกับพรรคการเมืองล้วนๆ
เช่นเดียวกับ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ในฐานะรองประธาน กมธ.วิสามัญฯ ย้ำว่า เหตุผลที่ต้องระบุให้เป็น 90 วัน ในการขยายเวลาบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้าให้เวลาน้อยกว่านี้จะทำให้พรรคการเมืองเตรียมตัวไม่ทันเรื่องการเลือกตั้ง เพราะต้องมีเรื่องการเรียกประชุมใหญ่พรรคการเมือง ระบบไพรมารีโหวตที่ใช้เวลามากพอสมควร เพราะขณะนี้ติดเงื่อนไขคำสั่ง คสช.ดังนั้น ถ้าไม่ขยายเวลาบังคับใช้ออกไป 90 วัน โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที จะทำให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมตัวสมัครเลือกตั้ง การคัดเลือกผู้สมัครไพรมารีโหวตไม่ถึง 30 วัน ทำให้ไม่มีความพร้อมเลือกตั้ง
พท.ขย่มบิ๊กตู่ระวังเป็นโมฆะบุรุษ
ขณะเดียวกันฝากฝั่งนักการเมืองยังคงออกมาขย่มโจมตีการเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าวอย่างดุเดือด โดย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) แนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ระวังจะเป็นโมฆะบุรุษ เป็นบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ หากผิดคำมั่นสัญญาด้วยการเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งซ้ำซาก ผลเสียย่อมเกิดแก่ประเทศตามไปด้วย โดยเฉพาะมิตรประเทศ หรือนักลงทุน จะเชื่อมั่นประเทศไทยอย่างไร เมื่อผู้นำฝ่ายบริหารผิดคำมั่นสัญญากับประชาชนและชาวโลกซ้ำซาก จนเสียหายไปถึงหน้าตาของประเทศ
ซัดข้ออ้างสนช.ฟังไม่ขึ้น
"ขออย่าอ้างเป็นเรื่องของ สนช.ฟังไม่ขึ้น ไม่มีใครเชื่อว่า สนช.ซึ่ง คสช.ตั้งมากับมือ เป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สาย จะไม่รู้เห็นเป็นใจ หรือรับใบสั่งให้ขยับวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับออกไปอีก 90 วัน โดยจะมาแก้ไขในชั้น กมธ.ดังนั้น หากมีการขยับวันเลือกตั้งออกไปจากเดือน พ.ย.61 ตามที่ นายกฯ เคยประกาศไว้ ผลเสียย่อมเกิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาอย่างแน่นอน" นายชวลิต ระบุ
แนะคสช.สำรวจตัวเองหลังเรตติ้งร่วง
ส่วน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ยกผลสำรวจของกรุงเทพโพลโดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน รื่อง "เส้นทางการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม" เผยประชาชนร้อยละ 70.6% อยากได้นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลดลงอย่างชัดเจน ว่า ถึงเวลาที่รัฐบาล คสช.ต้องฟังประชาชน ต้องสำรวจตัวเองและยอมรับความจริง สิ่งที่ทำมามันใช่หรือไม่ แก้ไขปัญหาของประเทศสำเร็จหรือไม่
ได้ทีขย่มแก้ปัญหาล้มเหลวทุกด้าน
"โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ราคาสินค้าเกษตรที่ต้นทุนการผลิตสูง แต่ราคาขายตกต่ำ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย ปัญหาการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ปราบไปปราบมาดันมาพันกับคนของรัฐบาล และ คสช.เองหรือไม่ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ที่ยังไม่คืบหน้าเพราะได้แค่ตุ๊กตาน้องเกี่ยวก้อยมา 1 ตัว ที่เหลือยังมองไม่เห็นอนาคตหรือไม่" นายอนุสรณ์ กล่าว
อ้างภาคธุรกิจอยากเห็นเลือกตั้งปี61
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า เพราะแม้แต่เรื่องที่ไม่ควรจะมีความซับซ้อนอะไรอย่างเรื่องโรดแมปเลือกตั้ง ยังลับลวงพราง คิดเอาเปรียบกันแบบการเมืองโบราณ จนไม่เหลือความเชื่อมั่นว่าตกลงจะได้เลือกตั้งกันปีไหน วันนี้ ทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจอยากเห็นการเลือกตั้งในปี 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งก็ด้วยปัจจัยที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามา มีแต่ปัจจัยลบและความไม่ชัดเจน จะกลายเป็นวิกฤติศรัทธากระทบต่อเชื่อมั่นของประเทศในทุกภาคส่วน
เชื่อคะแนนนิยมบิ๊กตู่ลดต่ำลงเรื่อยๆ
"ถึงวันนั้นตัวเลขส่งออก ตัวเลขเศรษฐกิจเชิงบวก ที่พอเอามาพูดได้บ้าง ก็จะไม่เหลือตัวเลขหรือข้อมูลเชิงบวกอะไรให้รัฐบาลได้โฆษณาหรือทำไอโอได้อีกต่อไป คะแนนนิยมของพลเอกประยุทธ์ จึงสะท้อนจากหลายปัจจัย และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ คะแนนนิยมอาจลดต่ำลงอีกหรือไม่" นายอนุสรณ์ กล่าว
องอาจเชื่อสนช.รับใบสั่งผู้มีอำนาจ
ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า การที่มีคนของรัฐบาลออกมาบอกว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของกรรมาธิการ และ สนช. , รัฐบาล และ คสช.ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ เพราะกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เป็นกฎหมายหนึ่งในสี่ฉบับของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชัดเจนว่า เมื่อกฎหมายทั้งสี่ฉบับนี้เสร็จเรียบร้อยมีผลบังคับใช้ก็จะเข้าสู่การเลือกตั้ง
ชี้ยืดเวลารอพรรคใหม่พร้อม
"ถ้าผู้มีอำนาจต้องการขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปก็ต้องใช้ช่องทางของการออกกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ให้ต่อท่ออำนาจออกไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะจัดการทุกอย่างตามแผนให้เข้าที่เข้าทาง เพราะนอกจากจะแต่งตัวพรรคใหม่ยังไม่เสร็จแล้ว การอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ด้วยหลากหลายโครงการประชานิยมในรูปแบบประชารัฐ บวกไทยนิยม ที่ถมลงไปก็ยังออกดอกออกผลไม่เต็มที่พอที่จะกระชากความศรัทธาของประชาชนต่อผู้มีอำนาจให้เพิ่มมากขึ้นจนมั่นใจได้ว่าหนทางข้างหน้าจะปูด้วยกลีบกุหลาบด้วยเหตุผลนี้ เองจึงน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ผู้มีอำนาจจะส่งซิกไปยัง สนช.ให้ขยายเวลาเลือกตั้งออกไปเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยตามเป้าหมาย" นายองอาจ ระบุ
จวกยับสนช.อ้างเหตุผลฟังไม่ขึ้น
นายองอาจ กล่าาวด้วยว่า ส่วนที่โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวบอกว่าที่ ขยายเวลามีผลบังคับใช้ตามกฎหมายออกไปอีก 90 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของ คสช.ที่ 53/2560 ที่กำหนดกระบวนการทางธุรการของพรรคการเมืองใหม่ ที่จะเริ่มเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งการรีเซ็ตสมาชิกพรรค ของพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าผู้มีอำนาจไม่เข้ามายุ่งกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ด้วยการใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ เอื้อประโยชน์ให้พรรคที่จะจัดตั้งใหม่ และบอนไซพรรคที่มีอยู่แล้ว โดยปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามปกติ หลังจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลบังคับใช้เมื่อหลายเดือนก่อนก็คงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้ช่องทางการขยายเวลาเลือกตั้งออกไปผ่านการทำกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.
ไล่ไปแก้ปากท้องดีกว่ามาแถจนตัวถลอก
"ขอฝากไปยังผู้มีอำนาจว่าการดำเนินการทางการเมือง เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้เป็นไปในลักษณะเอาสีข้างเข้าถูมากขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าถ้าเอาสีข้างเข้าถูเพิ่มมากขึ้น นอกจากสีข้างจะถลอกแล้วระวังจะถลอกไปทั้งตัว ควรเอาเวลาที่มาคิดแผนแก้เกมอำนาจ ไปแก้ไขเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่ยังร้องระงมกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองขณะนี้ น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนคนหาเช้ากินค่ำมากกว่า" นายองอาจ กล่าว
ซัด2เซียนลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ในหัวข้อเรื่อง "2 เซียนเหยียบเมฆไร้ร่องรอย" ระบุว่า บรรดานักกฎหมายเมืองไทย ถือว่ามีเซียนอยู่ 2 คน ทั้ง 2 เซียนนี้ ผู้มีอำนาจเรียกใช้เป็นประจำ และสนองผู้มีอำนาจได้อย่างลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย ในวันสิ้นปี 2 เซียนชวนกันไปอาบน้ำร้อนเพิ่มพลังลมปราณกันที่ดินแดนซากุระ กลับมาเมืองไทยเซียนผู้น้องก็ปล่อยลมปราณให้กลุ่มจอหงวน หน่วงเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วัน เพื่อให้แม่ทัพนายกองได้อยู่ในอำนาจต่อ โดนวิชานี้เข้าไปบ้านเมืองแทบลุกเป็นไฟเป็นหย่อมๆ
รอดูป้ายหลุมศพจะถูกจารึกอย่างไร
"เมื่อถือว่า สยบบ้านเมืองได้ระยะหนึ่ง 2 เซียนก็ยังมิได้พอใจในวิชาของตนเอง คาดว่า เซียนผู้พี่จะฟาดพลังฝ่ามืออีกชุดหนึ่ง ใส่กลุ่มจอหงวนอีกรอบให้แสร้งสร้างความขัดแย้งในกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ถึงขั้นต้องส่งไปตีความที่ศาลไคฟง (เรื่องการเลือกไขว้หรือการเลือกกันเองในกลุ่ม) การส่งไปตีความครั้งนี้อาจกินเวลานานเป็นปี ผู้มีอำนาจก็สามารถอยู่ในตำแหน่งได้อีกเป็นปี พลังลมปราณคราวนี้ นับว่าอำมหิตนัก เหนือชั้นกว่าการหน่วงเวลากฎหมาย 90 วันเสียอีก เมื่อ 2 เซียน หันไปฝึกวิชามารปกป้องผู้มีอำนาจ แทนที่จะใช้วิชาปกป้องยุทธจักร รอดูกันว่าเมื่อ 2 เซียนล่วงลับไปแล้ว ป้ายที่หลุมฝังศพของ 2 เซียนนี้จะถูกจารึกไว้อย่างไร" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
เตือนคสช.เดินต่อลำบากแล้ว
นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าผู้มีอำนาจต้องการยืดเวลาอยู่ในอำนาจตนเองต่อไป โดยจะทำอย่างไรก็ทำได้ด้วยวิธีการร้อยแปด ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า พอมีอำนาจก็หลงอยู่ในอำนาจ เพราะคนรอบข้างสรรเสริญเยินยอ แต่ในขณะเดียวกันอยากตนฝากว่า ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ตนได้สัมผัสมา มีความเดือดร้อน ความทุกข์ยาก สะสมอัดอั้นคุกรุ่นอยู่ในใจ การหาเหตุเลื่อนเลือกตั้งในแนวบีบบังคับเพื่อยื้ออำนาจต่อไปเรื่อยๆ ขอให้ระวังเชื้อไฟในใจประชาชนจะระเบิดขึ้นมา ซึ่งถือว่าเปราะบาง และอันตรายมาก
"ถ้าถึงวันนั้นจะไม่มีใครคุมสถานการณ์อยู่ และผู้มีอำนาจจะเสียใจ ผมอยู่กับชาวบ้านรู้เลยว่า สถานการณ์ของผู้มีอำนาจเดินต่อลำบาก โดยเฉพาะประเด็นความไม่ชอบมาพากล เรื่องแหวนและนาฬิกาของคนรอบข้างผู้มีอำนาจที่สังคมยังคาใจ" นายศุภชัย กล่าว
"เสี่ยตือ"สะกิดบิ๊กตู่จะเป็นตัวตลก
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าทางสนช.จะกล้าหมิ่นน้ำใจประชาชนเพราะวันนี้เขารู้ว่าประชาชนตั้งความหวังไว้สูงมากอยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งนายกรัฐมนตรีประกาศย้ำแล้วย้ำอีกว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแมป เมื่อ สนช.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำ 5 สาย ก็ควรจะไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อถามว่า หากขยายระยะเวลาออกไป จะส่งผลต่อสายตานานาชาติอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เขาจะมองนายกฯ เป็นตัวตลกเลย เพราะนายกฯเคยพูดและย้ำมาตลอดว่าจะมีการเลือกตั้ง รวมทั้งไปย้ำในเวทีสหประชาชาติด้วย
ศรีสุวรรณบุกทำเนียบค้านแก้กม.ลูก
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ในวันที่ 22 ม.ค.เวลา 10.30 น.จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ยับยั้งการใช้อำนาจของ สนช.ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เสนอปรับแก้ร่างกฎหมายดังกล่าวให้ผลบังคัญใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 90 วัน อาจจะทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อนจากเดือน พ.ย.61 เป็นต้นปี 62
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ การปรับแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวถือว่า เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อขัดมาตรา 185 ประกอบมาตรา 263 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีผลให้ สนช.ชุดปัจจุบันยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้ง ทำให้ สนช.และแม่น้ำ 5 สาย ยังได้รับเงินเดือนและค่าตอบแทน ผลประโยชน์อย่างอื่นตลอดระยะเวลาที่เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เป็นการใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ป.ป.ช.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี