"กกต." เห็นชอบร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว เตรียมเสนอ ครม. 28 ก.พ.นี้ ชี้ ส.ส. ห้ามผู้บริหารท้องถิ่นสร้างความได้เปรียบ เพื่อหวังชนะ “สมชัย”คาดเลือกตั้งท้องถิ่นได้เดือนสิงหาคม
21 ก.พ.61 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต. เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทางสำนักงาน กกต . ได้นำเสนอร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3,847 คน และนำมาปรับปรุงเป็นร่างล่าสุด เพื่อเสนอขอความเห็นชอบ ต่อ กกต. ก่อนนำส่ง คณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอต่อ สนช.ให้เห็นชอบเป็นกฎหมาย เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาล
โดย กกต.ได้พิจารณา ร่างฯดังกล่าวอย่างรอบคอบ และให้มีการแก้ไขในรายละเอียดบางประการเพื่อให้ กฎหมายที่จะนำมาใช้เกิดผลดีที่สุด และสอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกันกับ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยคาดว่า จะสามารถนำส่ง ครม. ได้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ตามที่ได้สัญญากับรัฐบาลไว้
นายสมชัย กล่าวเปิดเผยว่า ความน่าสนใจของกฎหมายฉบับดังกล่าว กำหนดให้วาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารและสภาท้องท้องถิ่น เริ่มต้นและสิ้นสุดพร้อมกัน ดังนั้นการเลือกผู้บริหารและสภาท้องถิ่น จะกระทำในวันเดียวกัน ไม่เกิดภาวะเหลื่อมล้ำ ไม่มีการแทงกั๊ก พอลงผู้บริหารไม่ได้ ก็มาลงสภาท้องถิ่นและประชาชนก็สะดวก สามารถมาใช้สิทธิ์พร้อมกันได้ในคราวเดียวการกำหนดให้กรณีมีการลาออกก่อนครบวาระ ห้ามทำกิจกรรมที่นำไปสู่การหาเสียง ใช้งบประมาณของท้องถิ่น สร้างความได้เปรียบต่อคู่แข่งย้อนหลังไป 90 วัน ก่อนการลาออก ยกเว้นกรณีเป็นการบรรเทาทุกข์จากภัยธรรมชาติ
"ลูกเล่นลาออกก่อนครบวาระ และเล่นพาหัวคะแนนไปเที่ยว พากลุ่มแม่บ้านไปทัศนศึกษา เที่ยวฟรีมีตังค์ทอน จะไม่สามารถกระทำได้อีก ส่วนการกำหนดรูปแบบการหาเสียง คล้ายคลึงกับการเลือกตั้ง ส.ส. คือ ต้องจัดทำป้ายในขนาดและจำนวน และติดไว้ในสถานที่ที่ กกต. กำหนดเท่านั้น โปสเตอร์ขาจร คัทเอาท์ขนาดใหญ่ ขนาดยักษ์ที่ติดตั้งเกะกะกีดขวางทัศนวิสัยจะไม่มีให้เห็นอีก และกำหนดจำนวนผู้ช่วยหาเสียงในสัดส่วนที่เหมาะสม ป้องกันการซื้อเสียงโดยเป็นการอ้างว่าจ้างผู้ช่วย ดังนั้นค่าแรง 200 บาท ให้ผู้มีสิทธิ์แค่เดินชูป้ายรอบหมู่บ้านรอบเดียวจะทำไม่ได้อีก และห้ามใช้มหรสพในการหาเสียง" นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้มีประเด็นหนึ่งที่ ทางสำนักงานเสนอมา คือ การตัดสิทธิ์หมู่บ้านที่มีผู้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยกว่า 10 คน ให้ไม่มีสิทธิเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่น แต่มีสิทธิเลือกเฉพาะผู้บริหารท้องถิ่น ด้วยเหตุผลว่าที่ผ่านมามีบางหมู่บ้านมีคนไม่ถึง 10 คน พอจะเลือก สมาชิก อบต. ก็จะจำกัดอยู่เพียงในคนไม่กี่คน และเป็นภาระต่อการจัดหน่วยเลือกตั้ง ในประเด็นนี้ ที่ประชุม กกต.ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิ์ และมองว่า เป็นปัญหาของกระทรวงมหาดไทยที่แบ่งย่อยหมู่บ้านมากไปเอง ดังนั้นเมื่อเป็นหมู่บ้านไม่ว่า จะมีคนมากหรือน้อย และกำหนดว่า ทุกหมู่บ้านต้องมีตัวแทนในสภาท้องถิ่น ก็ไม่สมควรไปตัดสิทธิ์ดังกล่าว โดยเสนอให้มหาดไทยเป็นฝ่ายคิดการยุบรวมหมู่บ้านเพื่อให้มีประชากรเพิ่มขึ้น
"เมื่อเสนอกฎหมานดังกล่าวต่อ ครม.แล้ว คาดว่า ครม.คงใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการตรวจสอบความถูกต้องสอดคล้องกับร่างของ กฤษฎีกา และของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และน่าจะเสนอเข้า สนช. ได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม โดยสนช. จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 60 วัน ขั้นตอนการทูลเกล้าประมาณ 30 วัน ซึ่งเร็วที่สุดที่กฎหมายประกาศใช้ได้ คือ ปลายมิถุนายนปีนี้ หลังจากนั้นหากรัฐบาลเห็นชอบว่า พื้นที่ใดควรมีการเลือกตั้ง กกต. จะใช้เวลาประมาณ 45 วันในการดำเนินการ ซึ่งเป็นไปได้ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นชุดแรก จะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือน สิงหาคม 2561 เป็นการทดสอบฝีมือ กกต. ชุดใหม่ที่จะเข้ามารับงานดังกล่าวเป็นงานแรก" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวแสดงความน่ากังวลใจ คือ เลือกท้องถิ่นแล้วไม่จบโดยง่าย อาจมีกรณีร้องเรียน และคดีความต่างๆ และเข้าไปใกล้กับการเลือกตั้งจริง เมื่อนั้น 7 กกต.จะถึงเวลาแปลงกายเป็นเทพ มี 8 กร เพื่อรับกับงานหลายอย่างไปพร้อมๆกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี