พลันที่ "พรรคพลังประชารัฐ"ถูกประโคมข่าวว่า เตรียมเปิดตัวเพื่อสานต่อภารกิจสำคัญ ทางการเมืองนั่นคือ ผลักดัน”บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เบิ้ลเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ปั่นจนบรรยากาศการเมืองร้อนระอุ
ถามไถ่กันอื้ออึงว่า พรรคพลังประชารัฐ คือใคร?
แน่นอนว่าสปอตไลต์ทุกดวงต้องส่องสว่างไปยัง “ชวน ชูจันทร์”ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ในฐานะตัวแทนกลุ่มการเมืองที่เข้ายื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ภายใต้ชื่อพรรค “พลังประชารัฐ”เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา
วันนี้”ชวน ชูจันทร์” หรือ ลุงชวน ชูจันทร์ มหาบัณฑิตผู้พลิกฟื้นคลองลัดมะยม เปิดใจผ่านทีมข่าว"แนวหน้าออนไลน์" ไขข้อข้องใจทำไมต้องเป็น"บิ๊กตู่"!!
ที่มาของชื่อพรรค "พลังประชารัฐ" มาจากแนวคิดใด
ชื่อพรรคตอนนี้เป็นเพียงการจดแจ้งชื่อพรรคการเมืองใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่านั้น แต่ชื่อนี้เกิดจากแรงบันดาลใจของภาคประชาชน พลังประชารัฐ ซึ่งพลังประชาชนกับภาครัฐเข้ามาทำงานร่วมกัน การตั้งชื่อพรรคต้องเกิดพลังกับผู้ที่มาร่วมงาน แน่นอนมาจากพลังประชาชนร่วมกับภาครัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน ยอมรับเข้ามาทำงานตรงนี้เหนื่อยกว่าช่วยงานให้ชุมชน แต่ปัญหาของประเทศไทยคือปัญหาของเราทุกคน
มีนโยบายอะไรบ้างที่จะทำให้ประชาชนสนใจ
เราเห็นว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนที่มีความคิดด้านลบกับพรรคการเมือง หากเราอยากปกครองในระบอบนี้ เรามีเพื่อนหลายคนที่มีประสบการณ์ทางการเมือง และตนก็ทำงานด้านชุมนุมมากว่า 10 ปี จึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในภาคประชาชน เราจึงถือโอกาสนี้มาเริ่มต้นกันใหม่ ลบวาทะกรรมการเกลียดชัง ความขัดแย้ง เราจะไม่กลับไปอยู่ที่เดิมอีก
ทั้งนี้ เราอยากเป็นจุดกลางของความถูกต้อง และประชาชนต้องการ และต้องทำให้ชุมชนมีตัวตนขึ้นมาให้ได้ วันนี้เรามีเวลาอีกครั้งหนึ่งที่จะเริ่มกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตามแนวทางของพรรคเรา เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนไปได้ วันนี้เราต้องตระหนักว่าบ้านเมืองเปลี่ยนไปมากแล้ว เราจะมาบอกว่าไม่ชอบคนนั้น เพราะว่าเป็นเผด็จการ ไม่ชอบคนนี้เพราะเหตุผลอื่นๆ มันไม่ใช่ ใครจะทำอะไรก็ทำแต่ชาวบ้านจะต้องไม่สูญเสีย
เหตุใดจากผุ้ที่มีชื่อเสียงในฐานะนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและภูมิปัญญาชาวบ้าน เหตุใดจึงผันตัวเองลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว
"ในประวัติของผม ผมเคยลงเล่นการเมืองมาก่อน เมื่อพ.ศ.2535 เป็นสมาชิกของพรรคพลังธรรม ทำอยู่ประมาณ 3-4 ปี ก็หยุดเล่นการเมือง และหันมาทำเกี่ยวกับการเกษตร เกี่ยวกับงานชุมชน พลังงานทางเลือก เกษตรกรรม สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ ผมเห็นปัญหาหลายๆ อย่าง จึงหันกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง หลังจากต้องเห็นประเด็นหลายๆ อย่าง ซึ่งเราต้องรู้ว่าจะไปทางไหน และมีหลักคิดอย่างไรกับเรื่องนั้น"
ภายใต้ชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาเปิดเผยชัดเจนว่ามีการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และมีกระแสข่าวว่าจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นประธานที่ปรึกษาจริงเท็จอย่างไร
ทางพรรคเองยังไม่ได้พูดถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเป็นทางการเลย เพียงแค่ชื่อพรรคเรามีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น แต่ตอนนี้ก็มีการพูดกันไปไกลแล้ว บางกลุ่มออกมาสนับสนุน และบางกลุ่มก็บอกว่าไม่สนับสนุน และอยู่ตรงกันข้าม คนที่ชอบพล.อ.ประยุทธ์ก็มี คนที่ไม่ชอบก็มี แต่แน่นอนว่าฝ่ายที่ชอบก็ต้องมีเหตุผล
ผมอยากให้เห็นว่าเรื่องชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา และที่บอกว่าจะเชิญมาเป็นที่ปรึกษาพรรคนั้น ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเลยที่เราจะเชิญท่าน เพราะทุกวันนี้ท่านถูกเชิญให้ไปอยู่หลายพรรคมาก โดยฐานะของท่าน ซึ่งเราก็ยังเฉยๆ อยู่
"แต่ถ้าท่านจะมาเป็นที่ปรึกษาจริงๆ เราก็ยินดีถือเป็นเรื่องที่ดีอีกด้วย เพราะว่ากลุ่มคนที่มาทำงานร่วมกันไม่เห็นจะเสียหายอะไร ก็ต้องดูว่าสิ่งไหนทำแล้วดีต่อประเทศชาติก็ทำกันไป วันนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนที่เราจะพัฒนาประเทศและพัฒนาไม่ได้ แต่ทั้งนี้ พอถึงเวลาก็รู้เอง เพราะวันนี้ใครจะมาก็ได้ ระบบของเราได้เปิดแล้ว"
มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคพลังประชารัฐ อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะมีแนวทางชัดเจนว่าต้องการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องนี้มีความเห็นอย่างไรบ้าง
เรื่องนี้เราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ ใครจะคิดอะไรก็คิดไป แต่ถ้าหากมีทางเลือกที่ดีกว่าคงช่วยกันคิดช่วยกันดูว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรมากกว่า ตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่ตำแหน่งที่อยู่ได้ยาวนาน แต่ถ้าหากรากฐานเราแข็งแรง ถ้าชาวบ้านมีวิจารณญาณก็จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะระบบนี้ส่งเสริมให้คนมีศักยภาพ และไม่มีทางกลับไปที่เก่า แต่ทั้งนี้กลุ่ม กปปส. ก็เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากในประเทศ ตอนนี้หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว เรามาคิดว่าจะทำอะไรให้ประเทศได้ประโยชน์ดีกว่า
"ทั้งนี้ ต้องดูอีกทีนึงว่าจะร่วมมือกันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ เพราะหลายคนเมื่อทราบว่าตนมาจัดตั้งพรรคการเมืองก็มีคนโทรมายินดี และจะร่วมกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เป็นนิมิตหมายที่ดี"
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีการพูดคุยกับกลุ่ม กปปส.เลย แต่ก็คงดูๆ กันอยู่ นอกจากนี้ เรายังไม่ได้เข้าไปเชิญชวน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเราไม่อยากจะเข้าไปทำอะไรมาก เดียวทางกกต.จะตำหนิเอาได้ เพราะว่าการจัดตั้งพรรคยังไม่เรียบร้อยเลย สิ่งที่เราเห็นว่าเริ่มต้นมาดีแล้วเราก็จะทำต่อ
"หากพล.อ.ประยุทธ์ ยินดีเข้ามาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่เข้ามาเราก็ดำเนินตามแนวทางของเราต่อไป"
ทางพรรคได้มีแนวทางจะเข้าไปพูดทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่
เราได้พูดคุยกันระหว่างเพื่อนสมาชิกทุกคนถึงแนวทางการบริหารจัดตั้งพรรค แต่ต้องรอให้การจัดตั้งพรรคเสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งจะต้องดูความคิดเห็นของสมาชิกส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าคนใดคนหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูแรงกดดันจากภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคสื่อ หากเราทำแล้วก็ต้องเข้าใจเราด้วย ตนไม่อยากให้ใช้วาทกรรมที่ทำให้เกิดการเกลียดชังขึ้นมา ซึ่งตนก็ทำงานลำบากเหมือนกัน ณ จุดนี้ และที่สำคัญทางพรรคก็ยังไม่ได้ยื่นหนังสือกับ กกต.เพื่อขออนุญาต คสช. จัดประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรคเลย เพราะยังไม่หมดเวลาจึงอยากจะรอให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน
อยากบอกอะไรกับประชาชนและพรรคการเมืองด้วยกันไหม
เรามาช่วยกันดีกว่า เพื่อให้ประเทศชาติดีขึ้น และอยากให้ทุกพรรคการเมืองมาเจรจาต่อรองกันได้ ด้วยมิตรภาพ เราจะไม่มีความรุนแรงทางการเมืองอีกต่อไป เราก็จะมีการคิดทบทวนว่าภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคการเมือง จะทำแค่ไหน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม จึงอยากให้ทุกคนเข้าสู่ภาวะปกติ และร่วมกันทำงานให้เป็นรูปธรรม เราต้องให้คนที่มีความสามารถได้มีโอกาสทำงาน อยากให้กลุ่มผลประโยชน์ทุกกลุ่มเห็นว่าพรรคการเมือง คือ เวทีที่จะมาเจรจาต่อรองกันได้
ประวัติโดยย่อของ "ชวน ชูจันทร์"
จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ.2519 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จบปริญญาโท พ.ศ.2538 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พ.ศ.2535 เป็นส.ส.จังหวัดลำปาง ในนามพรรค "พลังธรรม"
พ.ศ.2557 ได้รับรางวัล "อิลกา" เป็นบุคคลที่ 2 ของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ ต่อจาก พลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่เคยได้รับรางวัลนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และปัจจุบันเป็นประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี